วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2565

มวลชนอิสระพร้อมภาคีเครือข่าย แต่งชุดไทยไป UN ยื่นหนังสือและรายงานสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงที่เกิดขึ้นจากรัฐไทย

 


มวลชนอิสระพร้อมภาคีเครือข่าย แต่งชุดไทยไป UN ยื่นหนังสือและรายงานสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงที่เกิดขึ้นจากรัฐไทย

 

วันนี้ (19 ก.ย. 2565) เวลา 15.00 น.กลุ่มมวลชนอิสระพร้อมภาคีเครือข่าย จัดกิจกรรม“สามกีบป็อปคัลเจอร์โคฟเวอร์ม็อบ” แต่งชุดไทยไปยูเอ็น เพื่อยื่นหนังสือถึง "คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ" และ "ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ" ผ่านผู้แทนองค์การสหประชาชาติในประเทศไทย เพื่อรายงานสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงที่เกิดขึ้นจากรัฐไทย โดยการใช้กฎหมายเพื่อลิดรอนสิทธิเสรีภาพของผู้เห็นต่างทางอุดมการณ์การเมือง ทั้งกฎหมายอาญามาตรา 112 และกฎหมายพิเศษอื่น ๆ เช่น พรก.ฉุกเฉิน

 

และร่วมส่งเสียงไปยังนานาชาติให้รับรู้ เพื่อร่วมกันยืนยันสิทธิเสรีภาพในการแต่งกายของประชาชน "ไม่ว่าจะแต่งเลียนแบบใคร ก็ไม่ใช่อาชญากรรม" รวมทั้งเรียกร้องให้ปล่อยผู้ต้องคดีทางการเมืองที่ถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีทุกคน

 

ทั้งนี้ ผู้ร่วมกิจกรรมต่างแต่งกายชุดไทย เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ยืนยันในสิทธิเสรีภาพของประชาชน

 

โดย “เวหา แสนชนชนะศึก” และ “มิ้นท์ นาดสินปฏิวัติ” เป็นตัวแทนเข้ายื่นหนังสือด้านใน ภายหลังจากยื่นหนังสือ “เวหา” ได้กล่าวขอบคุณพี่น้องประชาชน ระบุว่ากิจกรรมยื่นหนังสือแล้วเสร็จด้วยความสงบ ปราศจากความวุ่นวาย พร้อมร่วมเปล่งเสียงศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ ยกเลิก 112 ปล่อยเพื่อนเรา คืนสิทธิประกันตัวประชาชน และยุติกิจกรรม

 

สำหรับรายงานสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนแรงที่เกิดขึ้นจากรัฐไทย มีเนื้อหาดังนี้

 

รายงานสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยใช้กฎหมายของรัฐไทย

 

เรียน คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส

 

เราคือกลุ่มพลเมืองที่ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยใช้กฎหมายในประเทศไทย ตั้งแต่เกิดการรัฐประหารโดยกองทัพไทย ยึดอำนาจอธิปไตยของปวงชนชนาวไทยไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 คณะผู้ทำการรัฐประหารได้สืบทอดอำนาจมาจนถึงปัจจุบัน ตลอดระยะเวลากว่า 8 ปีที่ผ่านมา รัฐบาสเผด็จการของประเทศไทยได้ใช้กฎหมายในการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อนักกิจกรรมและผู้เคลื่อนไหวทางการเมืองต่อต้านรัฐบาลเป็นจำนวนมาก โดยในปัจจุบัน มีผู้ถูกดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลแล้วมากกว่า 1,000 คดีที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล

 

รัฐไทยได้ใช้กฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคง ได้แก่ กฎหมายอาญามาตรา 112 และกฎหมายอาญามาตรา 116 ซึ่งเป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงและมีอัตราโทษสูง เช่นการตั้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐานดูหมิ่น หมิ่นประมาท แสดงความอาฆาดมาดร้ายพระมหากษัตริย์ รวมทั้งข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับการยุยงปลุกปั่นให้เกิด

ความวุ่นวายในบ้านเมือง การใช้กำลังประทุษร้ายเจ้าหน้าที่รัฐ หรือแม้แต่ข้อกล่าวหาเล็กน้อยอย่างการฝ่าฝืนพระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มาเป็นเครื่องมือในการตั้งข้อกล่าวหา และนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม โดยมีนักกิจกรรมมากกว่า 1,000 คน ที่ถูกดำเนินคดีและอยู่ระหว่างการประกันตัว ในจำนวนนี้ มีอย่างน้อย 250 คน ถูกตั้งเงื่อนไขโดยศาลเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพในหลาย ๆ อย่าง และมากกว่า 60 คน ถูกจำกัดอิสรภาพโดยติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ ในการจำกัดการเดินทาง จำกัดเวลาในการออกนอกเคหสถาน และบางคนศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามออกนอกเคหสถานตลอดระยะเวลา 24 ชั่วโมง

 

และที่สำคัญที่สุด มีประชาชนอย่างน้อย 30 คน ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยไม่ได้รับสิทธิ์การประกันตัว และทุกคนยังอยู่ในระหว่างพิจารณาคดี โดยยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าได้กระทำความผิดตามที่กล่าวหา

 

ในฐานะพลเมืองไทย เราตระหนักและเข้าใจเป็นอย่างดีว่า เราต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง หากแต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเราได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรมของไทย เราจึงไม่อาจพึ่งพากระบวนการยุติธรรมของประเทศของเราได้อย่างเป็นธรรม และมันสร้างปัญหาต่อสิทธิเสรีภาพของพลเมือง และสร้าง

บรรทัดฐานในกระบวนการยุติธรรมที่ผิดเพี้ยนอย่างหนัก

 

เราทั้งหลายจึงมีหนังสือนี้มายังท่าน เพื่อรายงานถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และขอความช่วยเหลือผ่านกลไกระหว่างประเทศที่มีความเหมาะสมในการสอดส่องดูแลบนฟื้นฐานสิทธิมนุษยชน the Universal Periodic Review เป็นกระบวนกลกที่ดูแลโดยคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Natio Rights Council : UNHRC)

 

เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม สิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ของพลเมืองไทยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของพลเมืองโลก พวกเราขอเรียกร้องให้นานาชาติได้มีมาตรการต่าง ๆ เพื่อกดดันรัฐบาลไทย ในการหยุดยั้งการใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการจัดการกับนักเคลื่อนไหวที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเผด็จการของไทยอย่างเร่งด่วน

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ม็อบ19กันยา65

#สามกีบป๊อบคัลเจอร์โคฟเวอร์ชุดไทย

#ใส่ชุดไทยไปยูเอ็น