วันศุกร์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2565

“มิ้นท์ นาดสินปฎิวัติ” เผยได้รับจม. ขู่ฆ่าข่มขืน หาศพไม่เจอเหมือน “สุรชัย” หากยังเคลื่อนไหวเรื่อง ม.112 – ปฏิรูปสถาบันฯ

 


“มิ้นท์ นาดสินปฎิวัติ” เผยได้รับจม. ขู่ฆ่าข่มขืน หาศพไม่เจอเหมือน “สุรชัย” หากยังเคลื่อนไหวเรื่อง ม.112 – ปฏิรูปสถาบันฯ

 

มิ้นท์ นาดสินปฎิวัติ นักกิจกรรมหญิง ซึ่งช่วงที่ผ่านมาได้เคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นกลางในกระบวนการพิจารณาคดีหมิ่นกษัตริย์ (ม.112) จนเป็นเหตุที่ทำให้ถูกแจ้งข้อกล่าวในคดีดังกล่าวถึง 3 คดี รวมเป็น 4 คดี จากเดิมที่เคยถูกกล่าวเพียงคดีเดียวจากการปราศรัยในกิจกรรม “ฟื้นฝอยหาตะเข็บ 240 ปี ใครฆ่าพระเจ้าตาก” ที่วงเวียนใหญ่ เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2565

 

มิ้นท์เปิดเผยกับ “วอยซ์” ว่าตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค. 2565 เป็นต้นมา เธอถูกคุกคามจากการออกมาทำกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง

 

แม้ในวันดังกล่าวมิ้นท์ ไม่ได้ออกไปทำกิจกรรมก็ตาม แต่พบว่ามีชายอ้างตัวเป็นตำรวจ ไม่เปิดเผยชื่อ และหน่วยงานที่สังกัด โทรเข้ามา โดยชายคนดังกล่าวพยายามสอบถามว่า ในวันนั้นจะออกไปทำกิจกรรมที่ไหนหรือไม่ แต่เนื่องจากไม่ทราบแน่ชัดว่าคู่สนทนาเป็นใคร เธอจึงไม่ให้คำตอบใด ๆ

 

ขณะที่ก่อนหน้านี้ทั้งช่วงก่อนหน้าวันนัดหมายทำกิจกรรม และช่วงหลังทำกิจกรรมเสร็จ เธอสังเกตได้ว่ามีคนพยายามติดตามเธอ ในลักษณะเดียวกันกับที่นักกิจกรรมหลายคนเคยพบ แต่ในวันที่ 28 ก.ค. ถือเป็นครั้งแรกที่มีการคุกคามที่เข้าใกล้ตัวมากขึ้น

 

ต่อมาในวันที่ 12 ส.ค. เธอพบว่ามีชายคนหนึ่งโทรเข้ามาที่เบอร์โทรศัพท์บ้านซึ่งไม่เคยให้ไว้กับใคร ซึ่งน้องของเธอเป็นผู้รับสาย ปลายสายระบุว่า “หากไม่หยุดจาบจ้วงสถาบันฯ มิ้นท์จะถูกจาบจ้วงบ้าง”

 

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเธอยังคงใช้โซเชียลมีเดียในการรณรงค์เคลื่อนไหวเรียกร้องเรื่องสิทธิการประกันตัวคดี 112 และยันยืนว่าศาลต้องมีความเป็นกลางในกระบวนการพิจารณาคดี รวมทั้งเรียกร้องในประเด็นปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ด้วย

 

จนกระทั่งวันที่ 2 ก.ย. น้องของเธอออกไปดูตู้ใส่จดหมายหน้าบ้าน พบจดหมายซองหนึ่งไม่จ่าหน้าซอง ไม่ระบุผู้ส่ง และผู้รับ ซึ่งคาดได้ว่า ผู้ส่งเป็นคนนำจดหมายมาส่งเอง แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร เนื่องจากที่บ้านของเธอยังไม่มีกล้องวงจรปิด

 

น้องของเธอเป็นผู้เปิดจดหมายดังกล่าว เมื่อพบเนื้อหาและรูปภาพที่ส่งมาจึงได้ตัดสินใจไม่ให้เธอเห็นจดหมาย เพียงแต่บอกรายละเอียดคร่าวๆ ว่า เป็นจดหมายที่เขียนด้วยลายมือ มีเนื้อหาเป็นการเตือนครั้งสุดท้าย พร้อมระบุสาเหตุที่เธอได้รับการประกันตัวในคดี 112 ว่า เป็นเพราะจะเก็บไว้รวบยอดครั้งเดียว หากยังไม่หยุดเคลื่อนไหวจะถูกอุ้มฆ่าข่มขืน จะมีชะตากรรมเหมือนกับ สุรชัย แซ่ด่าน ที่หาศพไม่เจอ พร้อมแนบรูปภาพการรุมโทรมมาด้วย

มิ้นท์ เปิดเผยด้วยว่า เหตุการณ์ทั้งหมดทำให้เธอเกิดความกังวลในระดับหนึ่ง แต่ไม่ถึงขั้นที่ไม่กล้าทำอะไรอีกต่อไป เนื่องจากมองเห็นว่าการหยุดต่อสู้จะทำให้ผู้กระทำรู้สึกว่า การคุกคามนั้นประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามเธอได้เพิ่มการระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิม

 

การเป็นผู้หญิงในประเทศนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอยู่แล้ว การเป็นนักกิจกรรมหญิงด้วยมันก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะถูกคุกคามมากขึ้นไปอีก ไม่ว่าใครก็ตามถ้าเจอเรื่องแบบนี้กับตัวเราคิดว่าเป็นปกติที่จะมีความรู้สึกกังกล”

 

มิ้นท์ ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ผ่านมาเธอไม่เคยมีศัตรู หรือมีปัญหากับใคร และไม่เคยพบเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนจนกระทั่งได้ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงปลายปี 2564 เป็นต้นมา ซึ่งนั่นเป็นเหตุที่ทำให้ตั้งคำถามมากขึ้นไปอีกว่า ประเทศนี้ทำไมจึงไม่สามารถตั้งคำถามได้ตามสามัญสำนึก

 

เราอยากจะบอกคนที่พยายามคุกคามเราอยู่ว่า ต่อให้คุณคุกคามเรา หรือทำกับเราแบบที่ขู่ไว้จริงๆ คุณก็ทำได้แค่จัดการเราไป 1 คน แต่มันจะทำให้คนอีกหลายร้อยหลายพันคนออกมาตั้งคำถามเดียวกับเรา คุณไหวหรือเปล่าที่จะปิดปากคนจำนวนมากขนาดนั้น การทำแบบนี้มันไม่ได้แแสดงให้เห็นว่าคุณแข็งแกร่ง แต่มันสะท้อนว่าคุณต่างหากที่อ่อนแอ”

 

ที่มา : Voice TV

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #นาดสินปฏิวัติ