วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2565

ภาคีสหาย 14ขุนพล ผนึกแนวร่วม จัดกิจกรรม "ยืนเหยียบย่ำ คืนความยุติธรรม" เรียกร้องสิทธิประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมือง ประทับรอยเท้าสีแดงบนผ้าขาว ออกแถลงการณ์ขอยืนยันในสิทธิเสรีภาพของประชาชน

 


ภาคีสหาย 14ขุนพล ผนึกแนวร่วม จัดกิจกรรม "ยืนเหยียบย่ำ คืนความยุติธรรม" เรียกร้องสิทธิประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมือง ประทับรอยเท้าสีแดงบนผ้าขาว ออกแถลงการณ์ขอยืนยันในสิทธิเสรีภาพของประชาชน


วันนี้ (4 ก.ย. 65) เวลา 17.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภาคีสหาย14ขุนพล เยาวรุ่นทะลุแก๊ส เพื่อนกัญปฏิวัติ และมวลชนอิสระ ร่วมจัดกิจกรรม "ยืนเหยียบย่ำคืนความยุติธรรมให้เพื่อนเรา" โดยระบุว่าเมื่อรัฐใช้กฎหมายในการกดขี่และคุมขังประชาชน นี่คือการออกมาเพื่อ "ยืนยัน" ในสิทธิเสรีภาพของเรา "ยืนหยัด" ต่อสู้อย่างไม่ท้อถอย "เหยียบย่ำ" ความอยุติธรรมที่ต่ำช้า


เริ่มกิจกรรมด้วย เวหา แสนชนชนะศึก พูดคุยกับ เงินตรา คำแสน หรือ มานี มวลชนที่ถูกคุมขับในคดีหมิ่นศาล จากการปราศรัยเรียกร้องปล่อยตัว"บุ้ง-ใบปอ" ทะลุวัง และได้รับการประกันตัววานนี้ (3 ก.ย. 65)


จากนั้นอาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ และ มิ้นท์ นาดสินปฏิวัติ ร่วมร้องเพลงเล่นดนตรีประกอบกับกิจกรรม ที่ให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้นำเท้าจุ่มไปที่ถังที่บรรจุสีแดง แล้วมาเดินย่ำบนผืนผ้าสีขาว จากนั้นได้ทำผืนผ้าที่ย่ำด้วยรอยเท้า เขียนถึงความอยุติธรรม รวมถึงข้อความเรียกร้องปล่อยเพื่อนเรา ยกเลิก112 ไปพันไว้ล้อมรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย


ต่อมา เวหา เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์กลุ่มมวลชนอิสระ ภาคีสหาย14ขุนพล เยาวรุ่นทะลุแก๊ส เพื่อนกัญปฏิวัติ โดยมีใจความว่า ขอยืนยันในสิทธิเสรีภาพของประชาชน วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน 2565 เบื้องหน้าพานรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ เราทั้งหลาย ที่มายืนอยู่ด้วย 2 ตีนของเรานี้ เพื่อยืนยันในสิทธิเสรีภาพของประชาชน และเหยียบย่ำความอัปยศทุกอย่างในประเทศนี้ เราขอนำความในมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 ที่บัญญัติไว้ว่า  ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์  สิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคล ปวงชนชาวไทยย่อมได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญเสมอกัน 


และในมาตรา 9 คดีอาญาให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำเลย ไม่มีความผิดก่อนมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดแสดงว่ามีความผิด จะปฏิบัติต่อบุคคลนั้นเสมือนผู้กระทำความผิดมิได้


นี่คือสิ่งที่เราต้องมายืนยันกับผู้มีอำนาจในการปกครอง และรักษาดำรงไว้ซึ่งกฎหมาย ให้ได้ตระหนักและสำเหนียกสำนึกเข้าไปในจิตใจ ด้วยเหตุว่า ณ วันนี้ มีประชาชนมากมายถูกคุมขังอยู่ในระหว่างพิจารณาคดี เราจึงมาเรียกร้องและอ้างสิทธิ์นั้นให้กับพวกเขาเหล่านั้น เพราะในกำแพงอันหนาทึบที่กีดกั้นเรา พวกเขาไม่สามารถส่งเสียงร้องออกมาได้ ผ้าสีขาวผืนยาว 145 เมตร ที่ปูลาดยาวอยู่ใต้ตีนเรานี้ มีความยาวเท่ากับจำนวนวันที่ผู้ต้องขังถูกขังระหว่างพิจารณาคดีอยู่ในเรือนจำ ความยาวของผืนผ้ามิอาจเทียบได้กับความยาวนานของการสูญสิ้นอิสรภาพ ในขณะที่พวกเขายังไม่ได้ถูกตัดสินว่ากระทำความผิด รอยตีนของประชาชนที่เหยียบย่ำบนผืนผ้าสีขาวนี้ คือร่องรอยแห่งความเกรี้ยวกราด ความโกรธเกรี้ยวของประชาชนที่ไม่ทนต่ออำนาจ กระบวนการอยุติธรรมและความอัปยศทั้งสิ้นในการปกครองบ้านเมือง


ด้วยรอยตีนที่เหยียบย่ำเราขอเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเพื่อนพี่น้องของเรา ขอให้ปล่อยผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการเมืองทุกคน ผ่านสิทธิประกันตัว ที่ทุกคนมีสิทธิที่จะได้ตามกฏหมายอย่างเท่าเทียม


ภานหลังอ่านแถลงการณ์จบ ได้มีการนำเทียน 29 เล่ม (เท่ากับจำนวนผู้ถูกคุมขังทางการเมืองเวลานี้)  มาวางเพื่อจุด ระหว่างนั้น เวหา ได้อ่านรายชื่อผู้ถูกคุมขังทางการเมืองทั้ง 29 คน และผู้ร่วมกิจกรรมทางทยอยร่วมกันจุดเทียน ระหว่างนั้นมิ้นท์ นาดสินปฏิวัติ ร้องเพลงโดยมีอาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ เล่นกีตาร์ไปด้วย กระทั่ง"มิ้นท์" ร้องเพลงตะวันฉาย จบ เวหากล่าวยุติกิจกรรมในเวลาประมาณ 18.45 น. 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ภาคีสหาย #ยืนเหยียบย่ำ