“เพื่อไทย”
ออกแถลงการณ์ กรณีศาลรธน.มีคำวินิจฉัยว่าความเป็นนายกฯของ “ประยุทธ์”
ยังไม่สิ้นสุด ชี้! การตีความน่าจะมีปัญหาและไม่มีกลไกตรวจสอบคำวินิจฉัย
วันที่
30 ก.ย. 2565 หลังที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ปมการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สิ้นสุด โดยให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้ และให้ พลเอกประยุทธ์
กลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไปนั้น
พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์ต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ความว่า
ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคําวินิจฉัยตามคําร้องที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้
ขอให้วินิจฉัยความเป็นนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง หรือไม่ กรณีที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งมาครบ 8 ปี
ในวันที่ 24 สิงหาคม 2565 โดยศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า…
ความเป็นนายกรัฐมนตรีของพลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา #ยังไม่สิ้นสุดลง โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า
การนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ให้เริ่มนับตั้งแต่วันที่รัฐธรรมนูญปี 2560 มีผลใช้บังคับนั้น
จะเห็นได้ว่า
ภายหลังที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคําวินิจฉัยดังกล่าว
เชื่อได้ว่าจะเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่นักวิชาการและประชาชนในวงกว้างที่ไม่เห็นด้วยกับคําวินิจฉัย
ซึ่งพรรคเพื่อไทยเคารพในการปฏิบัติหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญและผลผูกพันแห่งคําวินิจฉัย
แต่ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งในเหตุผลแห่งคําวินิจฉัย
เนื่องจากรัฐธรรมนูญของประเทศไทยเป็นรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร
การตีความต้องยึดตามบทบัญญัติที่เป็นลายลักษณ์อักษรและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ประกอบกัน เมื่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 158 วรรคสี่
และมาตรา 264 บัญญัติห้ามการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกิน 8
ปี
และให้ถือว่าคณะรัฐมนตรีที่มีอยู่ก่อนรัฐธรรมนูญประกาศใช้เป็นคณะรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญปี
2560 ด้วย
ดังนั้น
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้จะดำรงตำแหน่งอยู่ก่อนรัฐธรรมนูญ 2560 ประกาศใช้แต่เมื่อถือเป็นนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญปี
2560 ด้วย
ข้อเท็จจริงก็ปรากฏว่าพระบรมราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้พลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีลงวันที่ 24 สิงหาคม 2557
ก็ยังคงมีผลใช้อยู่ต่อเนื่องมา ภายหลังวันที่ 6 เมษายน 2560 ซึ่งเป็นวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับ
การตัดตอนเอาวันที่รัฐธรรมนูญมีผลใช้บังคับเป็นวันเริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของพลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา #ไม่อาจหาตรรกะใดมาอธิบายได้
อีกทั้งข้อเท็จจริงปรากฏชัดในบันทึกของคณะกรรมการร่าง
รัฐธรรมนูญว่า ให้นับระยะเวลาการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีก่อนวันรัฐธรรมนูญ 2560 มีผลใช้บังคับรวมด้วย
อันถือเป็นหลักฐานที่ชัดเจนของเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ
ประชาชนก็รับรู้เป็นการทั่วไปว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งมาแล้วตั้งแต่วันที่
24 สิงหาคม 2557 ซึ่งครบ 8 ปี ในวันที่ 24 สิงหาคม 2565
พรรคจึงเห็นว่า
คําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญน่าจะมีปัญหาความชอบด้วยรัฐธรรมนูญและจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายในการตีความที่นักวิชาการกฎหมาย
และสังคมต้องร่วมกันคิดว่าหลักคิดและเหตุผลในการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นมีเหตุผล
ที่สอดคล้องกับบทบัญญัติและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่
รวมถึงช่วยกันทบทวนถึงบทบาท
การทําหน้าที่ของศาลรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะบทบัญญัติที่ให้คําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
มีผลผูกพันทุกองค์กรนั้น
ควรจะมีการทบทวนเพื่อสร้างกลไกการตรวจสอบให้เกิดความเหมาะสมอย่างไร
พรรคเพื่อไทยมิได้กังวลว่าคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะส่งผลให้พลเอก
ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังคงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ต่อไปจนถึงครบวาระในเดือนมีนาคม
2566 และยังสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไปได้อีกหลังเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า
แต่สิ่งที่พรรคห่วงและกังวลก็คือ
ปัญหารากเหง้าที่กลืนกินสังคมไทยที่สั่งสมมาตั้งแต่การรัฐประหาร เมื่อ 8 ปีที่ผ่านมา
จะได้รับการเยียวยาแก้ไขเพื่อให้ประเทศกลับคืนสู่สังคมประชาธิปไตย
มีหลักนิติรัฐนิติธรรมโดยแท้จริงอย่างไร และที่น่าห่วงกังวลอีกประการคือ
บรรทัดฐานความความถูกต้อง ของการใช้และการตีความรัฐธรรมนูญของศาลรัฐธรรมนูญ
ซึ่งพรรคเห็นว่าน่าจะมีปัญหาแต่ไม่มีกลไกใดที่จะตรวจสอบคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้
ซึ่งปัญหานี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกคนในสังคมต้องช่วยกันคิดและหาทางออกต่อไป
จึงแถลงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
พรรคเพื่อไทย
30
กันยายน 2565
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์ #เพื่อไทย #ศาลรัฐธรรมนูญ #8ปีประยุทธ์