“สาวนุ้ย”
ได้ประกันตัว โดยวางหลักทรัพย์ 9 หมื่น จากกองทุนราษฎรประสงค์ ศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำการใด
ๆ ในลักษณะหรือทำนองเดียวกัน ให้รายงานตัวกับผู้กำกับดูแลทุก 15 วัน
วานนี้
(1 ก.ย. 2565) จากกรณีที่ “สาวนุ้ย” หรือ วรัณยา
แซ่ง้อ สื่ออิสระวัย 48 ปี
ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมบริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
ภายหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรม “ปล่อยเพื่อนเรา” โดยเป็นการจับกุมในคดี
“หมิ่นประมาทกษัตริย์” จากกรณีการไปร่วมร้องเพลงของวงไฟเย็น ระหว่างกิจกรรมขับไล่
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปี
ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2565 ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น
วันนี้
(2 ก.ย. 2565) เพจศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้รายงานว่าในช่วงสายวันนี้
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปขออนุญาตศาลอาญาในการฝากขังผู้ต้องหา
โดยตำรวจอ้างเหตุว่ายังต้องรอสอบพยานเพิ่มเติมอีก 6 ปาก
และรอผลตรวจลายนิ้วมือและประวัติการต้องโทษ เป็นเหตุในการขอฝากขัง
พนักงานสอบสวนยังคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา
โดยระบุว่าคดีมีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยตัว
เกรงว่าจะหลบหนีและผู้ต้องหาเคยกระทำความผิดในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อน
และอยู่ระหว่างปล่อยตัวชั่วคราวของศาลอาญากรุงเทพใต้ เกรงว่าจะไปกระทำความผิดซ้ำ
หรือทำผิดเงื่อนไขของศาล
ต่อมา
ศาลอาญาได้อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาเป็นระยะเวลา 12 วัน
ตามคำร้องของพนักงานสอบสวน โดยเห็นว่ามีเหตุจำเป็นเมื่อการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ
ทางทนายความจึงได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว
ก่อนที่เวลาประมาณ
17.15 น. ศาลจะมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว โดยวางหลักทรัพย์ 90,000 บาท จากกองทุนราษฎรประสงค์ ศาลกำหนดเงื่อนไขห้ามมิให้ผู้ต้องหากระทำการใด ๆ
ในลักษณะหรือทำนองเดียวกันกับการกระทำตามที่ถูกกล่าวหา
หรือกระทำไปในทางที่ทำให้เสียหายหรือเสื่อมเสียแก่สถาบันพระมหากษัตริย์
และให้ตั้งผู้กำกับดูแลผู้ต้องหา โดยให้ผู้ต้องหาไปรายงานตัวกับผู้กำกับดูแลทุก 15
วัน ในระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว มิฉะนั้นถือว่าผิดสัญญาประกัน
ทั้งนี้
ก่อนหน้านี้ “สาวนุ้ย” ได้เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ
มาตรา 116 มาก่อน
ในคดีกิจกรรมทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จ บริเวณห้างสยามพารากอน
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565 โดยเธอไปไลฟ์สดกิจกรรมดังกล่าว
ทำให้ถูกดำเนินคดีไปด้วย
จากการจับกุมในคดีนี้
ทำให้สถิติคดีมาตรา 112
ตั้งแต่หลังการชุมนุมของเยาวชนปลดแอกปี 2563 เป็นต้นมา
มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 229 คดี
มีผู้ถูกดำเนินคดีไม่น้อยกว่า 210 คน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #TLHR #มาตรา112