"WEVO" ออกแถลงการณ์คัดค้านคำตัดสินของศาล กรณีการแต่งชุดไทยของ “นิว จตุพร” กับความผิดในกฎหมายอาญา
ม.112
ภายหลังที่วาน
(12 ก.ย. 2565) ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก 2 ปี “นิว จตุพร จากการเข้าร่วมการชุมนุมที่ถนนสีลมเมื่อวันที่
29 ตุลาคม 2563 ซึ่งกลุ่มราษฎรจัดกิจกรรมแฟชั่นโชว์ศิลปะราษฎร
รูปแบบกิจกรรมเป็นการแสดงศิลปะและแฟชั่น ไม่มีการปราศรัย “นิว จตุพร”
ไปเข้าร่วมกิจกรรมโดยสวมชุดไทยสีชมพูและเดินบนพรมสีแดง
ระหว่างการเดินมีผู้ร่วมชุมนุมบางคนตะโกนคำว่า “ทรงพระเจริญ” ทำให้ถูกดำเนินคดี
ม.112 และข้อหา พ.ร.บ.ชุมนุมฯ
โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว
มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก “นิว จตุพร” จำเลยคดี 112 เป็นเวลา 3 ปี ปรับ 1,500 บาท
ฐานฝ่าฝืนพ.ร.บ.ชุมนุม ทางนำสืบให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3
คงลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี ไม่รอลงอาญา ปรับ 1,000 บาท โดยทนายได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี
ซึ่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของ "นิว จตุพร" จะถูกส่งไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา
ซึ่งคาดว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งใน 3 วัน
ระหว่างนี้ "นิว จตุพร"
จะถูกนำตัวไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงหลางจนกว่าศาลจะมีคำสั่ง นั้น
วันนี้
(13 ก.ย. 2565) ที่เพจ We
Volunteer ได้โพสต์แถลงการณ์ประณามและคัดค้านคำตัดสินของศาลต่อกรณีดังกล่าว
ความว่า
แถลงการณ์
เรื่อง
ชุดไทยไม่ใช่อาชญากรรม
สืบเนื่องจากวันที่
12 กันยายน พ.ศ. 2565 ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งพิพากษาจำคุก
“นิว จตุพร แซ่อึง” เป็นเวลา 3 ปี ในคดีอาญามาตรา 112
จากเหตุแต่งชุดไทยไปเดินแฟชั่นโชว์ที่ถนนสีลมเมื่อช่วงปี 2563
โดยศาลได้อ้างเหตุผลว่า “เป็นการล้อเลียนเสียดสีราชินี
ทำให้เป็นที่ตลกขบขัน” ถึงแม้ว่าศาลจะพิจารณาลดโทษให้เหลือ 2 ปี ไม่รอลงอาญา เนื่องจากตัวจำเลยให้การเป็นประโยชน์
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ศาลเป็นที่น่าเคารพแต่กลับยิ่งเป็นการลดทอนความน่าเชื่อถือของศาล
เพราะจตุพรไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีความผิดแม้แต่ประการเดียว
กลุ่ม
We
volunteer จึงออกแถลงการณ์เพื่อประณามและคัดค้านต่อการกระทำและคำตัดสินของศาลในครั้งนี้
เนื่องจากการกระทำของจตุพรในการแต่งชุดไทย
ไม่เป็นความผิดและไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดในกฎหมายอาญามาตรา 112 การแต่งกายด้วยชุดไทยไม่ใช่การล้อเลียนหรือดูหมิ่นบุคคลใด
และการจะพิสูจน์ทราบว่าบุคคลนั้นมีเจตนาใด ก็ไม่อาจที่จะทราบได้อย่างแท้จริง
ดังนั้นการพิพากษาให้จตุพรมีความผิด จึงเป็นเรื่องที่ขัดกับหลักกฎหมาย
เมื่อศาลตัดสินให้การกระทำของจตุพรเป็นความผิดทั้ง ๆที่ ไม่มีหลักฐานใดมายืนยัน
นอกจากทัศนคติและกรอบความคิดของตัวเอง จึงเป็นการผิดกับหลัก “Presumption
of innocence” เมื่อพิสูจน์ไม่ได้ว่าจำเลยมีความผิด
บุคคลนั้นย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์
การที่จะพิจารณาลงโทษจะต้องชัดเจนในหลักการและเหตุผล กระจ่างแจ้งและน่าเชื่อถือ
ไม่ใช่นำเอากรอบความคิดของตัวเองมาพิจารณาลงโทษหรือมีธงอยู่แล้วภายในใจ
หน้าที่ของศาลคือการให้ความยุติธรรมกับคนในสังคมอย่างเท่าเทียมกัน
หากการไม่เป็นเช่นนั้นจะให้ประชาชนเรียกว่าเป็นศาลที่สถิตของยุติธรรมได้อย่างไร
กฎหมายจะเป็นที่น่าเคารพก็ต่อเมื่อกฎหมายยืนอยู่บนหลักการและเหตุผล
แต่กฎหมายใดที่มุ่งใช้เพื่อทำลายและขัดต่อหลักการและเหตุผล
ประชาชนก็ย่อมสามารถวิจารณ์ได้
และเมื่อการนำกฎหมายมาใช้เป็นเครื่องมือในการกำจัดหรือทำลายผู้ที่เห็นต่าง
กฎหมายตัวนั้นก็ย่อมเสียคุณค่าในตัวของมันเอง
ที่ผ่านมาเราได้พบเห็นการใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 เข้ามาเป็นเครื่องมือที่ฝ่ายครองอำนาจเลือกใช้ทำลายผู้ที่เห็นต่าง
ถึงแม้ว่าการกระทำของจำเลยบางคนจะไม่เข้าข่ายกระทำผิดในข้อหามาตรา 112 แต่ศาลเองก็ไม่เคยสร้างบรรทัดฐานใหม่ๆในการตัดสินที่เป็นคุณกับจำเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เมื่อการเป็นเช่นนี้จะให้ประชาชนเคารพและเชื่อถือในหลักการของศาลที่จะพิทักษ์ไว้ซึ่งความยุติธรรมได้อย่างไร
“ตุลาการจงคิดอย่างอิสระ รับภาระอันหนักหนาทำหน้าที่
หากรับใช้ใบสั่งดั่งกาลี ตุลาการเช่นนี้อย่างมีเลย”
.
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #Wevo #WeVolunteer #ยกเลิก112 #นิวจตุพร