วันอังคารที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2565

"WEVO" ออกแถลงการณ์คัดค้านคำตัดสินของศาล กรณีการแต่งชุดไทยของ “นิว จตุพร” กับความผิดในกฎหมายอาญา ม.112


"WEVO" ออกแถลงการณ์คัดค้านคำตัดสินของศาล กรณีการแต่งชุดไทยของ “นิว จตุพร” กับความผิดในกฎหมายอาญา ม.112

 

ภายหลังที่วาน (12 ก.ย. 2565) ศาลอาญากรุงเทพใต้ พิพากษาจำคุก 2 ปี “นิว จตุพร จากการเข้าร่วมการชุมนุมที่ถนนสีลมเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2563 ซึ่งกลุ่มราษฎรจัดกิจกรรมแฟชั่นโชว์ศิลปะราษฎร รูปแบบกิจกรรมเป็นการแสดงศิลปะและแฟชั่น ไม่มีการปราศรัย “นิว จตุพร” ไปเข้าร่วมกิจกรรมโดยสวมชุดไทยสีชมพูและเดินบนพรมสีแดง ระหว่างการเดินมีผู้ร่วมชุมนุมบางคนตะโกนคำว่า “ทรงพระเจริญ” ทำให้ถูกดำเนินคดี ม.112 และข้อหา พ.ร.บ.ชุมนุมฯ

 

โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว มีคำพิพากษาลงโทษจำคุก “นิว จตุพร” จำเลยคดี 112 เป็นเวลา 3 ปี ปรับ 1,500 บาท ฐานฝ่าฝืนพ.ร.บ.ชุมนุม ทางนำสืบให้การเป็นประโยชน์ ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงลงโทษจำคุกจำเลย 2 ปี ไม่รอลงอาญา ปรับ 1,000 บาท โดยทนายได้ยื่นขอปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์คดี ซึ่งคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของ "นิว จตุพร" จะถูกส่งไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณา ซึ่งคาดว่าศาลอุทธรณ์จะมีคำสั่งใน 3 วัน  ระหว่างนี้ "นิว จตุพร" จะถูกนำตัวไปคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงหลางจนกว่าศาลจะมีคำสั่ง นั้น

 

วันนี้ (13 ก.ย. 2565) ที่เพจ We Volunteer ได้โพสต์แถลงการณ์ประณามและคัดค้านคำตัดสินของศาลต่อกรณีดังกล่าว ความว่า

 

แถลงการณ์

เรื่อง ชุดไทยไม่ใช่อาชญากรรม

 

สืบเนื่องจากวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2565 ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งพิพากษาจำคุก “นิว จตุพร แซ่อึง” เป็นเวลา 3 ปี ในคดีอาญามาตรา 112 จากเหตุแต่งชุดไทยไปเดินแฟชั่นโชว์ที่ถนนสีลมเมื่อช่วงปี 2563 โดยศาลได้อ้างเหตุผลว่า “เป็นการล้อเลียนเสียดสีราชินี ทำให้เป็นที่ตลกขบขัน” ถึงแม้ว่าศาลจะพิจารณาลดโทษให้เหลือ 2 ปี ไม่รอลงอาญา เนื่องจากตัวจำเลยให้การเป็นประโยชน์ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ศาลเป็นที่น่าเคารพแต่กลับยิ่งเป็นการลดทอนความน่าเชื่อถือของศาล เพราะจตุพรไม่ควรถูกพิจารณาว่ามีความผิดแม้แต่ประการเดียว

 

กลุ่ม We volunteer จึงออกแถลงการณ์เพื่อประณามและคัดค้านต่อการกระทำและคำตัดสินของศาลในครั้งนี้ เนื่องจากการกระทำของจตุพรในการแต่งชุดไทย ไม่เป็นความผิดและไม่เข้าข่ายการกระทำความผิดในกฎหมายอาญามาตรา 112 การแต่งกายด้วยชุดไทยไม่ใช่การล้อเลียนหรือดูหมิ่นบุคคลใด และการจะพิสูจน์ทราบว่าบุคคลนั้นมีเจตนาใด ก็ไม่อาจที่จะทราบได้อย่างแท้จริง ดังนั้นการพิพากษาให้จตุพรมีความผิด จึงเป็นเรื่องที่ขัดกับหลักกฎหมาย เมื่อศาลตัดสินให้การกระทำของจตุพรเป็นความผิดทั้ง ๆที่ ไม่มีหลักฐานใดมายืนยัน นอกจากทัศนคติและกรอบความคิดของตัวเอง จึงเป็นการผิดกับหลัก “Presumption of innocence” เมื่อพิสูจน์ไม่ได้ว่าจำเลยมีความผิด บุคคลนั้นย่อมเป็นผู้บริสุทธิ์ การที่จะพิจารณาลงโทษจะต้องชัดเจนในหลักการและเหตุผล กระจ่างแจ้งและน่าเชื่อถือ ไม่ใช่นำเอากรอบความคิดของตัวเองมาพิจารณาลงโทษหรือมีธงอยู่แล้วภายในใจ หน้าที่ของศาลคือการให้ความยุติธรรมกับคนในสังคมอย่างเท่าเทียมกัน หากการไม่เป็นเช่นนั้นจะให้ประชาชนเรียกว่าเป็นศาลที่สถิตของยุติธรรมได้อย่างไร

 

กฎหมายจะเป็นที่น่าเคารพก็ต่อเมื่อกฎหมายยืนอยู่บนหลักการและเหตุผล แต่กฎหมายใดที่มุ่งใช้เพื่อทำลายและขัดต่อหลักการและเหตุผล ประชาชนก็ย่อมสามารถวิจารณ์ได้ และเมื่อการนำกฎหมายมาใช้เป็นเครื่องมือในการกำจัดหรือทำลายผู้ที่เห็นต่าง กฎหมายตัวนั้นก็ย่อมเสียคุณค่าในตัวของมันเอง ที่ผ่านมาเราได้พบเห็นการใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 เข้ามาเป็นเครื่องมือที่ฝ่ายครองอำนาจเลือกใช้ทำลายผู้ที่เห็นต่าง ถึงแม้ว่าการกระทำของจำเลยบางคนจะไม่เข้าข่ายกระทำผิดในข้อหามาตรา 112 แต่ศาลเองก็ไม่เคยสร้างบรรทัดฐานใหม่ๆในการตัดสินที่เป็นคุณกับจำเลยแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อการเป็นเช่นนี้จะให้ประชาชนเคารพและเชื่อถือในหลักการของศาลที่จะพิทักษ์ไว้ซึ่งความยุติธรรมได้อย่างไร

 

ตุลาการจงคิดอย่างอิสระ รับภาระอันหนักหนาทำหน้าที่ หากรับใช้ใบสั่งดั่งกาลี ตุลาการเช่นนี้อย่างมีเลย”

.

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #Wevo #WeVolunteer #ยกเลิก112 #นิวจตุพร