วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

“ณัฐวุฒิ-ธิดา-เหวง-ก่อแก้ว” พร้อมญาติวีรชนและคนเสื้อแดง ทำบุญครบรอบ #12ปีพฤษภา53 เป็นโศกนาฏกรรมที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย / “ธิดา” เหน็บกองทัพ ผ่านไป 12 ปี เพิ่งคิดทำบุญ

 


“ณัฐวุฒิ-ธิดา-เหวง-ก่อแก้ว” พร้อมญาติวีรชนและคนเสื้อแดง ทำบุญครบรอบ #12ปีพฤษภา53 เป็นโศกนาฏกรรมที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย / “ธิดา” เหน็บกองทัพ ผ่านไป 12 ปี เพิ่งคิดทำบุญ


วันนี้ (19 พ.ค. 65) ที่ศาลาการเปรียญ วัดเสมียนนารี เขตจตุจักร กรุงเทพฯ “ยูดีดีนิวส์” และญาติวีรชน ร่วมกันจัดพิธีทำบุญถวายสังฆทานและผ้าบังสุกุล อุทิศส่วนกุศลให้กับวีรชนเมษาพฤษภา53 เนื่องในวันครบรอบ 12 ปี วันสลายการชุมนุมกลุ่มนปช.และคนเสื้อแดงเมื่อ 19 พ.ค. 53 โดยมีอดีตแกนนำนปช.เข้าร่วมในงาน อาทิ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ, นพ.เหวง โตจิราการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง นอกจากนี้ยังมีญาติวีรชนและพี่น้องประชาชนคนเสื้อแดงที่เดินทางมาจาก จ.เชียงใหม่และพี่น้องในกรุงเทพฯ - ปริมณฑล


หลังรับประทานอาหารกลางวันร่วมกันเสร็จแล้ว อดีตแกนนำนปช. ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน โดย นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เป็นการจัดงานในวันครบรอบ 12 ปี วันสลายการชุมนุมของกลุ่มนปช. คนเสื้อแดงเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 เหตุการณ์นั้นเป็นโศกนาฏกรรมที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และยังไม่มีกระบวนการยุติธรรมใด ๆ ที่จะคลี่คลายความจริงหยิบยื่นความยุติธรรมให้กับผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจนปัจจุบัน


เราจัดกิจกรรมอย่างนี้กันมาทุกปีนะครับ รูปแบบ สถานที่ อาจจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเงื่อนไขทางการเมือง แต่โดยทั่วไปหลังจากการรัฐประหารมันก็มีข้อจำกัดพอสมควร บางช่วงเวลาจึงเป็นการทำบุญทำพิธีทางศาสนา ไม่ได้มีการรวมตัวของมวลชน หลังรัฐประหารทุกปีก็จะมีการจัดกิจกรรมทางมวลชนในวันที่ 10 เม.ย. และพิธีทางศาสนาในวันที่ 19 พ.ค. นายณัฐวุฒิ กล่าว


นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนกิจกรรมมวลชนในวันที่ 19 พ.ค. ก็จะมีเพื่อนมิตรที่ร่วมต่อสู้กลุ่มต่าง ๆ เขานัดหมายทำกิจกรรมกัน อย่างวันนี้ก็ทราบว่าช่วงค่ำที่แยกราชประสงค์ก็มีกิจกรรม หรือว่าช่วงบ่ายก็จะมีคาร์ม็อบเคลื่อนที่ไปที่แยกราชประสงค์ เนื่องจากว่าประวัติศาสตร์นี้เป็นประวัติศาสตร์ที่ประชาชนทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่ยืนหยัดหลักการประชาธิปไตยออกมาร่วมต่อสู้ เราจึงเห็นว่าการที่หลาย ๆ กลุ่มได้แสดงตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดกิจกรรม นั่นเป็นการตอกย้ำความจริงของ 12 ปีที่แล้วว่าเป็นการร่วมแรงร่วมใจสู้ด้วยกัน เจ็บปวดด้วยกัน และสูญเสียด้วยกันของทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นนปช.หรือพี่น้องเพื่อนมิตรอื่น ๆ ที่สวมเสื้อสีแดงออกมาต่อสู้กันในวันนั้น รวมกระทั่งเยาวชนคนหนุ่มสาวในยุคหลังที่ติดตามเหตุการณ์บ้านเมือง ศึกษาประวัติศาสตร์ทางการเมือง แล้วก็ออกมาร่วมแสดงพลัง ร่วมรำลึกความสูญเสียในครั้งนั้นด้วย 


ตอบคำถามว่ารู้สึกอย่างไรที่คนรุ่นใหม่ตื่นรู้ในการต่อสู้ของคนเสื้อแดง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถ้าพี่น้องผู้จากไปเมื่อ 12 ปีที่แล้วได้รับทราบสถานการณ์ในวันนี้ ผมก็เชื่อว่าทุกดวงวิญญาณจะมีความภาคภูมิใจ เพราะเราผ่านความเจ็บปวด สูญเสียทั้งชีวิต อิสรภาพ ทุพลภาพมากมาย ถูกดูถูกเหยียดหยาม ถูกประเมินมองอย่างคนไร้ค่าจากสายตาคนบางกลุ่มตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่เมื่อคนหนุ่มสาวได้ยื่นมือ ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจและได้โอบรับประวัติศาสตร์ของคนเสื้อแดงไว้ ผมคิดว่านี่เป็นเกียรติยศของพี่น้องประชาชนที่เราร่วมต่อสู้กันมา หากพลังหรือเนื้อหาสาระตลอดจนความเคลื่อนไหวใดจะเป็นประโยชน์สำหรับพัฒนาการทางการเมืองในสังคมไทย ก็ขอให้เป็นเกียรติยศของประชาชนคนเสื้อแดงที่ออกมาร่วมต่อสู้ทุกคน ส่วนพวกผมที่เป็นแกนนำเราก็พร้อมที่จะยืนหยัดบนเส้นทางนี้ ต่อสู้ร่วมกับพี่น้องพิสูจน์ยืนยันหลักการที่ถูกต้องต่อไป พร้อมกันนั้นภาระหน้าที่ทวงถามความยุติธรรมให้กับคนเจ็บคนตาย และภาระหน้าที่ในการต่อสู้คดีความมากมายที่เกิดขึ้น เราก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับมัน และพร้อมที่จะเดินไปพร้อม ๆ กับการต่อสู้ของหนุ่มสาวเพื่อประชาธิปไตย เพื่อหลักการที่ถูกต้องชอบธรรมต่อไป นายณัฐวุฒิกล่าวในที่สุด


ด้าน นพ.เหวง โตจิราการ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในโอกาส 12 ปี ผมก็เลยอยากจะสื่อสารไปยังสังคมประเทศไทย วันนี้คำพิพากษาของศาลถึงที่สุดอย่างน้อยในสองเรื่อง เรื่องที่หนึ่งก็คือไม่มีกองกำลังติดอาวุธชายชุดดำ เรื่องที่สองก็คือว่าเสื้อแดงไม่ได้เผาบ้านเผาเมือง หลักฐานก็คือคำพิพากษาของศาลฎีกาในกรณีของการเผาตึกตลาดหลักทรัพย์ฯ, เซ็นทรัลเวิลด์และ ZEN ผมอยากจะส่งเสียงไปยังสังคมว่าควรจะเรียกร้องให้ป.ป.ช.ทบทวนและหยิบยกกรณีของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ”  “สุเทพ เทือกสุบรรณ” และ “อนุพงศ์ เผ่าจินดา” ขึ้นมาพิจารณาใหม่ เพราะนี่เป็นข้อมูลใหม่ ไม่เคยปรากฎก่อนหน้านี้ เพราะว่ากรณีของป.ป.ช.ยก เขากล่าวหาว่าพวกเรามีกองกำลังติดอาวุธ วันนี้พิสูจน์ชัดเจนแล้วว่าไม่มีกองกำลังติดอาวุธ นี่คือเรื่องที่หนึ่ง


นพ.เหวง กล่าวต่อว่า เรื่องที่สอง ถึงวันนี้ผมคิดว่าถ้าไม่มีใครทำผมอยากจะเรียกร้องให้พี่น้องทั้งประเทศจัดตั้งกันขึ้นมา ตั้งคณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์เดือนเมษาพฤษภา53 เพราะเรายืนยันว่าเราไม่มีกองกำลังติดอาวุธชายชุดดำ เรามาเพียงเพื่อเรียกร้องให้ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนอย่างสันติวิธี พร้อม ๆ กันนั้นผมเรียกร้องให้พี่น้องเสื้อแดงทั้งประเทศตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อร่วมกันผลักดัน ผมเชื่อว่าเสื้อแดงที่ผมฟังท่านอ.ธิดาพูดนะ ก่อนหน้านี้ 10 ล้าน เที่ยวนี้ก็น่าจะประมาณ 5-8 ล้าน ประมาณนั้น บริจาคเงินกันคนละสักนิดสักหน่อยช่วยกันผลักดันตั้งอนุสรณ์สถานของคนเสื้อแดงขึ้นมา


และข้อต่อมาก็คือเรียกร้องให้พรรคการเมืองฝั่งประชาธิปไตยกรุณาทำตามเจตจำนงของคนเสื้อแดง เจตนารมณ์ของคนเสื้อแดงก็คือต้องการระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขโดยอำนาจสูงสุดของประเทศเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง ถ้าพูดเป็นรูปธรรมก็คือว่าต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่ประชาชนทั่วทั้งประเทศได้มีโอกาสยกร่างโดยตรง ไม่ใช่ใช้รัฐธรรมนูญ 60 ของคสช. แล้วผ่านการทำประชามติกำมะลอ ผมว่า 12 ปี มันยาวนานเพียงพอ แล้วผมรอวันนี้เนื่องจากต้องการให้เรื่องมันชัด ๆ ว่าเราไม่มีกองกำลังติดอาวุธชายชุดดำ วันนี้มันชัดเจนแล้วนะครับ และนอกจากนี้ผมก็ยังยืนยันนะครับว่าคนเสื้อแดงไม่ได้เผาบ้านเผาเมือง นพ.เหวง กล่าวในที่สุด


ส่วน อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ กล่าวว่า มันเป็นภารกิจไม่ว่าจะมีองค์กรนำหรือเปล่า แต่เป็นภารกิจของคนเสื้อแดงที่ทุกคนมีความร่วมกันอยู่ อย่างน้อยที่สุดในวาระของการสูญเสียเดือนเมษาและพฤษภาทุกปี คนเสื้อแดงไม่เคยลืม และถือเป็นภารกิจที่เราต้องทวงความยุติธรรม เรามีทุกวัน แต่เราจะได้มาพบกันในวันนี้ ซึ่งปีนี้ก็รู้สึกเป็นพิเศษที่กองทัพบกจัด แต่เราจัดมาแล้ว 12 ปี กองทัพบกเพิ่งมาจัด


อ.ธิดา กล่าวต่อว่า ดิฉันอยากเรียนว่า ความจริงนายทหารและเจ้าหน้าที่รัฐที่เสียชีวิต มันไม่ได้มีแค่ 6 หรือ 7 คน มีหลายคน แต่ว่าอะไรก็ตาม ท่านทำบุญให้ 7 คน ซึ่งเป็นทางกองทัพบกที่มาทำตามภาระหน้าที่ แต่สำหรับเรา เวลาเราอุทิศส่วนกุศลเราก็ให้รวมกันหมด แม้กระทั่งคุณณรงค์ฤทธิ์ สาละ หรือเจ้าหน้าที่ทหารอื่นใดก็ตามเพราะเราถึงว่าทุกชีวิตไม่ควรที่จะมาเสีย 


แต่ดิฉันอยากฝากการบ้าน ไม่ต้องทำบุญก็ได้ แต่ท่านควรจะหามาให้ได้ความจริงว่าทหารที่ท่านทำบุญ 7 คนนี้ตายเพราะอะไร เราก็อยากรู้ เพราะว่าท่านโยนความผิด เหมือนกับกรณีค้นหาความจริง คอป. โดยนายสมชาย หอมลออ บอกว่ามีชายชุดดำของคนเสื้อแดงที่ไปกระทำการ เริ่มต้นก็บอกว่า M79 ตอนหลังก็บอกว่าปาระเบิด ไม่มีหลักฐาน ไม่มีสิ่งใด เป็นที่ชัดเจนว่าไม่มีการตายใด ๆ ที่เกิดจาก M79 ไม่มีการตายใด ๆ ที่เกิดจากอาก้าตามที่มีรูป อันนี้เป็นเรื่องที่อยากให้กองทัพบก ก็คือดีแล้วค่ะทำบุญก็โอเค แต่ 12 ปีถึงคิดจะทำ แต่ทางที่ดีเอาความจริงขึ้นมาทั้งหมดดีกว่า เพราะสำหรับคนเสื้อแดงเราต้องการความเป็นจริง ไม่ใช่ความเป็นจริงที่เราสร้างเรื่องขึ้นมา ความเป็นจริงการตายของคนในกองทัพ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งนายพลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล เสธ.แดง เขาเป็นนายพลกองทัพไทย ซึ่งมีจิตวิญญาณนายพลเต็มเปี่ยม จนนาทีสุดท้าย เขาไม่เคยเชื่อเลยว่าเขาจะถูกยิง เพราะเขาบอกพี่น้องไม่ทำ อันนี้ฝากไปถึงกองทัพว่า ทำให้การตายของนายทหารทุกคน ไม่ใช่แต่เฉพาะบางคนให้เป็นที่ชัดเจนขึ้นมา อ.ธิดากล่าวในสุด


จากนั้นเวลา 13.30 น. จึงเริ่มพิธีสงฆ์ ถวายสังฆทานและผ้าบังสุกุล พระสงฆ์ 10 รูป กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล และเผารายชื่อวีรชน เป็นอันเสร็จพิธี


#12ปีพฤษภา53 #คนเสื้อแดง

#ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์