วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2565

#12ปีพฤษภา53 ตอนที่ 1

 


#12ปีพฤษภา53 ตอนที่ 1


จากบทบรรยาย "ยุทธการยิงนกในกรง"

(เหตุการณ์หลัง 10 เมษายน 2553 – 20 พฤษภาคม 2553)


หลังเหตุความรุนแรงในเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553 ยุติลง และมีการเสียชีวิตเกิดขึ้นเป็นจำนวนมากจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ความชอบธรรมในการบริหารประเทศของรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ดูเหมือนว่าจะหมดลง เพราะการใช้กำลังในการปราบปรามประชาชนผู้บริสุทธิ์ และการกระทำการอันรุนแรง จนทำให้เกิดความสูญเสียทั้งฝ่ายประชาชนและฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐ แทนที่รัฐบาลอภิสิทธิ์จะแสดงความรับผิดชอบในครั้งนั้น รัฐบาลอภิสิทธิ์ได้ใช้วาทกรรม “ชายชุดดำและกองกำลังติดอาวุธ” เป็นการแก้ปัญหา และเหมือนว่าความพยายามในการอยู่ในอำนาจของเผด็จการอำมาตย์อย่างได้ผล เพราะจากการที่ได้รับข้อมูลบางอย่างจากภาพถ่ายคลิปวีดีโอสั้น ๆ ที่ซื้อมาจากช่างภาพไม่ปรากฏนามจากสำนักข่าวอัลจาชีรา ที่นำเสนอภาพชายชุดดำได้ในเงาลาง ๆ ซึ่งน่าสังเกตว่า มีสำนักข่าวนี้สำนักเดียวนำมาแสดง และนั่นเป็นข้ออ้างที่รัฐบาลอภิสิทธิ์ใช้เพื่ออยู่ในอำนาจต่อไป และรัฐบาลอภิสิทธิ์ก็มีนโยบายที่ชัดเจนในการใช้การทหารเป็นกลไกหลักของการแก้ปัญหาทางการเมืองครั้งนี้


และเมื่อรัฐบาลอภิสิทธิ์ได้มีนโยบายที่ชัดเจนมากขึ้นในการกระชับวงล้อมพื้นที่ชุมนุมราชประสงค์ โดยสั่งการมายังกองทัพของรัฐบาลอภิสิทธิ์และเป็นที่มาของความรุนแรงของการปฏิบัติการในยุทธการกระชับวงล้อมพื้นที่ชุมนุม อ้างอิงจากบทความเรื่อง “บทเรียนยุทธการกระชับวงล้อม พื้นที่ราชประสงค์ 14-19 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 จากวารสารเสนาธิปัตย์ ปีที่ 59 ฉบับที่ 3 กันยายน – ธันวาคม 2553” ซึ่งเขียนขึ้นโดยนายทหารในกองทัพ โดยเหตุผลของการเขียนบทความนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติการทางทหารกรณีศึกษาการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในเมือง ซึ่งเป็นดำริของเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก พล.ท.สิงห์ศึก สิงห์ไพร ซึ่งบทความนี้อาจกล่าวได้ว่า เป็นข้อสรุปที่ภาคภูมิใจของกองทัพจากการปฏิบัติภารกิจที่เกิดขึ้นจริงของทหาร ในการใช้ความรุนแรงเพื่อฆ่าประชาชนในเดือนพฤษภาคม 2553




ถ้าหากว่าความสำเร็จที่ทหารได้มาในครั้งนี้เป็นความสำเร็จด้วยการรบระหว่างทหารกับทหารแล้ว อาจจะถือว่าเป็นชัยชนะ แต่เมื่อยุทธการนี้ใช้กับประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่เพียงแค่ต้องการให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ยุบสภาแล้วลาออก คืนอำนาจให้กับประชาชน พร้อมรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของคนเสื้อแดง จึงเป็นคำถามของคนทั่วโลกว่าน่าภูมิใจหรือไม่? และควรหรือไม่ที่ใช้ยุทธศาสตร์ทางการทหารแทนที่จะใช้ยุทธศาสตร์ทางการเมืองในการแก้ปัญหา


หลังเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายนผ่านไป ทางด้านฟากฝั่งของทหารหลังจากเหตุการณ์นั้นก็ได้เก็บตัวอย่างเงียบเชียบ ไม่มีปฏิบัติการใด ๆ ออกมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และได้อาศัยช่วงเวลานั้นทำการประชุมอย่างเร่งด่วนเพื่อสรุปผลของยุทธการขอคืนพื้นที่ในวันที่ 10 เมษา 53 และระดมความคิดเห็นเพื่อหายุทธวิธีในการซักซ้อมและปราบปรามประชาชนอย่างเคร่งเครียด ซึ่งก็พบจุดอ่อนหลายจุดจากความพ่ายแพ้ในครั้งนั้น รวมถึงพบยุทธวิธีที่ประสบความสำเร็จในเหตุการณ์ครั้งนั้น




การใช้พลซุ่มยิงและหน่วยสไนเปอร์เป็นยุทธวิธีที่ดีที่สุด และได้เริ่มทำการฝึกฝนควบคู่ไปกับการซ้อมยุทธวิธีต่าง ๆ อย่างหนักภายในค่ายทหาร ในขณะที่คนเสื้อแดงยังชุมนุมและร้องรำทำเพลงอย่างสนุกสนาน เพราะไม่คิดว่าทหารจะกล้าใช้มาตรการอันโหดเหี้ยมกับประชาชน และเมื่อแผนการและขั้นตอนต่าง ๆ ได้ถูกวางแผนเสร็จสิ้น การดำเนินการต่าง ๆ ก็เริ่มขึ้นโดยทหารใช้ชื่อแผนยุทธการนี้ว่า “ยุทธการกระชับวงล้อม – พื้นที่ราชประสงค์”


#ยุติธรรมไม่มี12ปีเราไม่ลืม #คนเสื้อแดง

#UDDnews #ยูดีดินิวส์

 

อ้างถึง : วารสารเสนาธิปัตย์ ปีที่ 59 ฉบับที่ 3 กันยายน - ธันวาคม 2553 ของกรมยุทธศึกษา กองทัพบก [ลิ้งค์ https://online.fliphtml5.com/hubo/wqrz/#p=76