ศาลอนุญาตฝากขัง
“ตะวัน” ต่ออีก 7 วัน หลังอัยการยื่นฝากขังครั้งที่ 8 อ้างเหตุตำรวจพึ่งส่งสำนวน และไต่สวนประกันตัว
26 พ.ค.นี้ ให้ “พิธา”เสนอพฤติการณ์พิเศษ ตั้งผู้กำกับดูแลไม่ให้ทำผิดเงื่อนไขหากได้ปล่อยตัว
คืบหน้ากรณีทนายความยื่นคำร้องขอคัดค้านการฝากขังครั้งที่
8
เเละที่นายพิธายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว “ตะวัน” หรือ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์
นั้น
เวลา
14.20 น. ศาลอาญาอ่านคำสั่งว่า
พิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนคำร้องและข้อคัดค้านของผู้ต้องหาแล้ว ได้ความจากพนักงานอัยการผู้ร้องว่า
ผู้ร้องเพิ่งได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 65 เวลาประมาณ 13.00 น.
ผู้ร้องจึงไม่อาจที่จะพิจารณาสั่งฟ้องได้ทัน
ประกอบกับคดีนี้เป็นคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
ซึ่งตามหนังสือสำนักงานอัยการสูงสุด เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการดำเนินคดีอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 112 ผู้ร้องต้องส่งสำนวนให้คณะกรรมการของทางสำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาก่อน
และได้ส่งสํานวนให้ทางคณะกรรมการฯ
พิจารณาแล้วในวันเดียวกันหลังจากได้รับสำนวนจากพนักงานสอบสวน
แต่ยังไม่ได้รับสำนวนกลับคืนมา
ด้วยเหตุผลดังกล่าว
จึงขอฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลในครั้งนี้อีก 7
วันและผู้ร้องยืนยันว่าผู้ร้องเองและคณะกรรมการฯ สามารถดำเนินการพิจารณาสั่งคดีได้แล้วเสร็จภายในกำหนดนี้
ผู้ต้องหาคัดค้านว่า
ผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์หลบหนีไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุภยันตรายประการอื่น หากไม่ฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลก็ไม่ได้เป็นเหตุที่
จะทำให้ผู้ร้องไม่สามารถที่จะพิจารณาสั่งคดีได้ ขอให้ศาลยกคำร้องขอฝากขัง
ศาลเห็นว่าเมื่อผู้ร้องเพิ่งได้รับสำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวน
เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 65 เวลาประมาณ 13.00
น. ทำให้ผู้ร้องไม่อาจพิจารณาสั่งคดีได้ทัน และคดีนี้ก่อนฟ้องคดี ผู้ร้องต้องส่งสำนวนให้คณะกรรมการฯ
พิจารณาก่อน กรณีจึงเป็นเหตุจำเป็นเพื่อการฟ้องคดี ส่วนที่ผู้ต้องหาคัดค้านว่าผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี
ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไปก่อเหตุภยันตรายอย่างอื่น
จึงไม่มีเหตุที่จะขังผู้ต้องหานั้น เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 71 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า
เมื่อได้ตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยมาแล้วในระยะใดระหว่างสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง
หรือพิจารณา ศาลจะออกหมายขังผู้ต้องหาหรือจำเลยไว้ตามมาตรา 87หรือ มาตรา 88 ก็ได้
และให้นำบทบัญญัติในมาตรา 66 มาใช้บังคับโดยอนุโลม ซึ่งมาตรา 66
บัญญัติว่าเหตุที่จะออกหมายจับได้ มีดังต่อไปนี้
1.
เมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่า บุคคลใดน่าจะได้กระทำความผิดอาญา
ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกินสามปี ดังนั้น ตามบทบัญญัติดังกล่าวให้
อำนาจศาลที่จะขังผู้ต้องหาในระหว่างสอบสวนหากมีเหตุตามมาตรา 66
เมื่อคดีนี้ผู้ต้องหาถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี จึงเป็นกรณีที่ศาลจะออกหมายขังผู้ต้องหาได้
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา มาตรา 71 ประกอบมาตรา 66(1)
กรณีการฝากขังของผู้ร้องจึงไม่จำต้องพิจารณาหลักเกณฑ์ว่าผู้ต้องหาจะมีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี
ยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไปก่อเหตุภยันตรายอย่างอื่น
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 71ประกอบมาตรา 26
2.
ตามที่ผู้ต้องหาคัดค้าน จึงเห็นควรอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาในครั้งที่ 8 นี้
เป็นเวลา 7 วัน นับ แต่วันที่ 23-29 พ.ค. 65 แต่ทั้งนี้ ไม่ตัดสิทธิผู้ต้องหาในการยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 106
โดยในส่วนคำสั่งประกันตัว
ศาลอาญา มีคำสั่งว่า ให้นัดไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ค.นี้
เวลา 10.00 น.
และให้ผู้ร้องเสนอพฤติการณ์พิเศษที่เป็นเหตุให้ปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา เช่น
ผู้ร้องจะเป็นผู้กำกับดูแลพฤติการณ์ของผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิดเพื่อมิให้ผู้ต้องหาทำผิดเงื่อนไขที่ศาลกำหนดไว้อีก
และหากผู้ต้องหาผิดเงื่อนไขผู้ร้องจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร
ให้ผู้ต้องหาและทนายผู้ต้องหาเสนอเงื่อนไขให้ศาลพิจารณาประกอบในการปล่อยชั่วคราวก่อนหรือในวันนัด
แจ้งพนักงานสอบสวนหากจะคัดค้านให้ยื่นคำคัดค้านก่อนหรือในวันนัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับก่อนหน้านี้สำหรับการฝากขังครั้งที่
7 ศาลเคยอนุญาตฝากขังเป็นเวลา 5 วันซึ่งวันนี้ที่ศาลอนุญาตฝากขังอีก 7
วันก็จะครบอำนาจการคุมตัวตามกฎหมายที่ควบคุมได้ในชั้นฝากขัง 84 วัน
หากพนักงานอัยการยังไม่สามารถยื่นฟ้อง น.ส.ทานตะวันได้ ก็จะต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาทันที
#ตะวัน #มาตรา112
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์