"เพนกวิน" หิ้วตะกร้าแมวพ้นเรือนจำ ขอบคุณพี่น้องประชาชน เชื่อราษฎรยังไม่ตาย ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย การต่อสู้ของประชาชนยังดำเนินต่อไป ฝากให้ความสำคัญ "อานนท์" และคนที่อยู่ข้างหลังกำแพงทุกคน
วันนี้ (24 ก.พ. 65) ตามที่ 13.00 น. ทนายได้เข้ายื่นเอกสารยืนยันการศึกษาและการเตรียมสอบเพื่อจบการศึกษาของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวินต่อศาลประกอบคำร้องขอปล่อยชั่วคราวชั้นพิจารณาคดีอาญาหมายเลขดำ 1180 /2564 ต่อมา เวลา 16.30 น. ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุญาตให้ประกันตัว หรือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำราษฎร ในคดี ม.112 โดยจะได้รับการปล่อยตัวเย็นนี้ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ภายหลังถูกคุมขังเป็นเวลากว่า 190 วัน ท่ามกลางมวลนชนมารอรับเป็นจำนวนมากนั้น
ทั้งนี้มวลชนบางส่วนได้มารอฟังข่าวการประกันตัวเพนกวินตั้งแต่เวลา 14.00 น. กระทั่งรู้ข่าวแน่ชัดว่าได้ประกันแน่นอน จึงปักหลักรอ และเวลา17.00 น. มวลชนก็ทยอยมาเพิ่มขึ้น ๆ
ด้าน นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของนายพริษฐ์ เปิดเผยความรู้สึก หลังทราบข่าวว่าลูกชายจะได้รับการประกันตัว ว่ารู้สึกดีใจที่นายพริษฐ์ จะได้รับสิทธิ์ปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนแนวทางการเคลื่อนไหวทางการเมือง ตนคงไม่บังคับลูก ปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของเขา
ต่อมา 18.50 น. นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดา และ น.ส.พลอยวรินทร์ ชิวารักษ์ น้องสาว นำดอกกุหลาบสีขาวเดินเข้าไปด้านในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
กระทั่ง 19.15 น. นายพริษฐ์ เดินเท้าพ้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ พร้อมกับมารดา และน้องสาว โดยหิ้วตะกร้าที่ใส่ลูกแมวออกมาด้วย เมื่อมาถึงประตูหน้าเรือนจำพิเศษฯ ได้ชู 3 นิ้ว ให้มวลชนที่รอรับ
จากนั้นนายพริษฐ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความรู้สึกที่ได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ว่า รู้สึกมีอิสรภาพอีกครั้งและอบอุ่นมาก จากนั้นได้กล่าวขอบคุณพ่อแม่พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนที่คอยสนับสนุนเป็นกำลังใจให้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นได้รับน้ำใจจากพี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนโดยเฉพาะน้ำใจของพี่น้องประชาชนที่ร่วมกันบริจาคเข้ากองทุนราษฎรประสงค์
นายพริษฐ์ ได้กล่าวต่อไปว่า ต้องยอมรับว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาค่อนข้างขมขื่นสำหรับตน แต่ว่าวันนี้ผ่านมาได้ด้วยน้ำใจของพี่น้องทุกคน ไม่ว่าพ่อแม่พี่น้องที่ยืนหยุดขัง ทำกิจกรรมเรียกร้องให้มีการปล่อยตัว คืนความยุติธรรม ทุกครั้งที่กลับจากศาลก็จะเห็นพี่น้องยืนให้กำลังใจหน้าเรือนจำ ทุกเสียงพลุที่จุดพวกตนได้ยินและรับรู้
ทั้งนี้ นายพริษฐ์ยังได้ขอบคุณ พี่น้องที่ระดมทุนเงินประกันตัว ซึ่งมีจำนวนมากที่โอนเงินมาคนละ 112 บาทบ้าง คนละร้อยคนละพันกว่าบาทบ้าง เงินร้อยเงินพัน รวมกันได้ถึง 13 ล้าน ผมรู้สึกว่าเป็นกำลังใจมาก และเป็นการแสดงให้เห็นว่า "ราษฎรเรายังไม่ตาย ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แม้จะขังคนพูดความจริง"
จากนั้นนายพริษฐ์ ได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทั้งหมด สำคัญที่สุดคือเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ทุกท่าน ตั้งแต่ ผบ.เรือนจำ
พริษฐ์ได้กล่าวว่า "เราอยากให้เกียรตินักโทษทางความคิด เราไม่ได้ทำอะไรผิด เราไม่ใช่อาชญากร อิสรภาพที่ถูกพรากไป พี่น้องประชาชนเห็นกันอยู่ รู้ว่าเป็นเพราะอะไร สุดท้ายผมยินดีที่ได้กลับมายืนเคียงข้างพี่น้องอีกครั้ง ไม่ว่าพี่น้องทางสายเลือดหรือทางอุดมการณ์ ผมเชื่อว่าราษฎรยังไม่ตาย ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย และการต่อสู้ของประชาชนจะดำเนินต่อไป"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงทนายอานนท์ นายพริษฐ์กล่าวว่า ตนขอฝากผ่านทางพี่น้องมวลชนว่าวันนี้เป็นวันที่น่าดีใจสำหรับตน แต่ว่ายังมีพี่อานนท์และนักโทษการเมือง อยากให้ความสำคัญกับคนที่อยู่ข้างหลังกำแพง
"พี่อานนท์ พี่ชายที่แสนดีของผม นอกจากพี่อานนท์ยังมีนักโทษทางการเมืองอีกหลายท่านที่ยังไม่ได้รับความยุติธรรม พี่ทวี เที่ยงวิเศษ หรือพี่อาทิตย์ ทะลุฟ้า ก็คอยดูแลผม แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้รับประกันตัว คดีของเขาก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ทะลุฟ้า ทะลุแก๊ส คดีการเมือง คดีเสื้อแดง คดีอื่น ๆ ที่เป็นเหมือนกับผม คือถูกคุมขังทั้งที่ยังไม่ได้มีความผิดอะไร ผมว่าพี่น้องที่ได้ร่วมฝ่าฟัน ต่อสู้ในเรือนจำมา ควรจะได้รับความเป็นธรรมเหมือนผม" นายพริษฐ์กล่าว
สำหรับกรณีทนายอานนท์ที่แสดงเจตย์จำนงค์จะไม่ขอยื่นประกันตัวนั้น นายพริษฐ์กล่าวว่า ส่วนตัวเป็นห่วง นายอานนท์ แต่ก็ต้องเคารพสิทธิ์ของนายอานนท์ ที่เลือกตัดสินใจแบบนั้น ส่วนการต่อสู้ทางการเมืองต่อจากนี้ ตนขอยืนยันว่า ยังคงต่อสู้เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์แต่อย่างใด
โดยในช่วงท้ายนายพริษฐ์กล่าวว่าต้องขอบคุณชีวิตในเรือนจำที่สอนให้ตนเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้าง เป็นชีวิตอีกด้านที่เราทั่วไปไม่มีโอกาสได้เผชิญ ทำให้เจอคนหลากหลายรูปแบบที่สำคัญ ให้ของที่ระลึกผมด้วย คือให้แมวตนมาตัวหนึ่ง นายพริษฐ์กล่าวว่า ในแดนเขาเรียกว่า "ลิซ่า" คิดว่าถ้าออกมาแล้วจะตั้งชื่อใหม่ให้
จากนั้นนายพริษฐ์เข้ารับมอบดอกไม้ กำลังใจจากพี่น้องประชาชน ก่อนที่จะแยกย้ายกันในเวลาประมาณ 20.00 น.
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #เพนกวิน #ปล่อยเพื่อเรา
