วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ม่อน อาชีวะพิทักษ์ประชาชน ผนึกโรนินฝั่งธน จี้รัฐตอบปมแก้วิกฤตโอมิครอน ทวงถามเตียงขาดและการจำหน่ายยาฟาวิฯ ขีดเส้น 3 วัน หากไม่คืบหน้าจะกลับมาใหม่แบบไม่ประกาศให้รู้ ขณะที่จนท.คุมเข้มลากตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมรั้วลวดหนาม ปิดกั้นสะพานชมัยมรุเชฐ

 


ม่อน อาชีวะพิทักษ์ประชาชน ผนึกโรนินฝั่งธน จี้รัฐตอบปมแก้วิกฤตโอมิครอน ทวงถามเตียงขาดและการจำหน่ายยาฟาวิฯ ขีดเส้น 3 วัน หากไม่คืบหน้าจะกลับมาใหม่แบบไม่ประกาศให้รู้ ขณะที่จนท.คุมเข้มลากตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมรั้วลวดหนาม ปิดกั้นสะพานชมัยมรุเชฐ


วันนี้ (22 ก.พ. 65) เวลา 16.00 น. กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน ร่วมกับกลุ่ม โรนินฝั่งธน นัดหมายหน้าทำเนียบรัฐบาลจัดกิจรรม "ประชาชนจะเป็นสุขได้อย่างไร หากรัฐบาล….ไรยังครองเมือง"


บรรยากาศเมื่อเวลาประมาณ 14.30 น. กลุ่มอาชีวะและประชาชนบางส่วนรวมตัวบนถนนพิษณุโลก ฝั่งมุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล ในขณะที่เจ้าหน้าที่กั้นรั้วลวดหนามสูง 2 ชั้น พร้อมวางแนวแผงเหล็ก และตู้คอนเทนเนอร์บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เรียงเป็นแนวยาวสกัดม็อบเคลื่อนประชิดทำเนียบ


ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมจึงใช้โทรโข่งในการสื่อสารบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร รวมถึงนางวรวรรณ แซ้อั๊ง หรือป้าเป้า ได้สวมใส่เสื้อยืดสีดำ มีข้อความ "ถ้าคุณรักชาติขอโอกาสให้ประชาชน" ได้พูดจาปราศรัยขณะเจ้าหน้าที่ยกตู้คอนเทนเนอร์ตั้งแนวสกัด


ต่อมาเวลา 16.30 น. กลุ่มอาชีวะได้มีการแขวนป้ายผ้าเขียนด้วยตัวอักษรสีแดงว่า "อาวุธไม่เคยขาดแต่เตียงขาดทุกซีซั่น" บริเวณเกาะกลางถนนพิษณุโลก มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล


จากนั้น 16.45 น. นายธนเดช ศรีสงคราม หรือ ม่อน อาชีวะ เดินทางมาถึง โดยกล่าวผ่านโทรโข่งว่า พวกตนจะรอให้เจ้าหน้าที่รัฐระดับผู้ใหญ่มาพบเพื่อตอบคำถามการจัดการวิกฤติโควิด 19 โอไมครอนภายใน 15 นาที


"เราแค่ต้องการมาบอกถึงความเดือดร้อนเท่านั้น ทำเนียบรัฐบาลเป็นที่พึ่งของประชาชน เพราะเดือดร้อนจึงมาร้องเรียน ทำไมต้องเอาลวดหนามมากั้น" นายธนเดชกล่าว


ในเวลาเดียวกัน กลุ่มอาชีวะ ได้ย้ายป้ายข้อความ "อาวุธไม่เคยขาดแต่เตียงขาดทุกซีซั่น"ไปแขวนบนแนวลวดหนามที่เจ้าหน้าที่กั้นขวางทางสู่ทำเนียบรัฐบาล


สำหรับข้อเรียกร้องในเบื้องต้นได้เน้นประเด็นเรื่องการปลดโควิด19 จาก "โรคฉุกเฉิน" และการยกเลิกสิทธิคุ้มครองผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ ทำให้หลายคนกังวลเรื่องการที่จะไม่ได้รับสิทธิการรักษาฟรี โดยทางกลุ่มฯ มองว่าเป็นการผลักภาระให้ประชาชน รวมถึงปัญหาอื่น ๆ ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งปัญหาเตียงไม่พอ ปัญหาการปลดล๊อคยาฟาวิพิราเวียร์เพื่อให้มีวางจำหน่ายทั่วประเทศ 


ทั้งนี้ทางกลุ่มอาชีวะฯ เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เปิดทางเพื่อจะเข้าพบคณะรัฐมนตรีหรือผู้ที่เกี่ยวข้องที่อยู่ในทำเนียบรัฐบาลเพื่อมารับข้อชี้แจงต่อไป 


กระทั่งเวลา 17.10 น. นายพันศักดิ์ เจริญ ผู้อำนวยการส่วนประสานมวลชนและองค์กรประชาชนศูนย์บริการประชาชน เป็นตัวแทนในการรับเรื่องร้องเรียนและพูดคุยกับนายธีรเดช หรือม่อน อาชีวะ 


โดยอนุญาตให้นายธีรเดช หรือม่อน อาชีวะ พร้อมพวกอีก 10 คน และสื่อมวลชน เข้าไปหารือด้านนอกรั้วลวดหนาม โดยทางนายธีรเดชได้กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้รัฐบาลชี้แจงเรื่องเตียงขาด แนวทางการรักษาโควิด 19 และการอนุญาตให้จำหน่ายยาฟาวิพิราเวีย พร้อมตั้งข้อสังเกตุว่ารัฐบาลมีอะไรปิดบังประชาชน 


จากนั้นนายพันศักดิ์ และนายธีรเดช พร้อมผู้ร่วมชุมนุมอีก 2 คน ได้เดินเข้าไปทางทำเนียบรัฐบาลแนวหลังต้คอนเทนเนอร์ เพื่อเขียนหนังสือคำร้องอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร 


ต่อมา 18.00 น. นายธีรเดชและตัวแทนผู้ชุมนุม เดินกลับออกมายังบริเวณพื้นที่ชุมนุมพร้อมอ่านเนื้อหารายละเอียดในหนังสือร้องเรียนใจความว่า


เรื่องขอให้พิจารณาขอให้แก้ไข ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด 19 เนื่องด้วยมีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสเป็นจำนวนมาก จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้ชี้แจงต่อประชาชน ว่าจะมีการดูแลประชาชนอย่างไร โดยมี 4 ข้อเรียกร้อง ดังนี้


1. รัฐบาลต้องชี้แจง เรื่องยารักษาโควิดว่า โดยต้องให้มีการหาซื้อยาฟาวิพิราเวียร์ได้เองตามร้านขายยา

2. รัฐบาลต้องชี้แจงไวรัสโควิด19 สายพันธุ์ โอมิครอนว่าเป็นแบบไหน ติดแล้วอาการเป็นอย่างไร รุนแรงหรือไม่

3. ประชาชนต้องได้รับการรักษา ฟรีทุกคนทุกชนชั้น ไม่ว่าจะรัฐหรือเอกชนต้องฟรีอย่างเดียวเพราะเป็นโรคฉุกเฉิน

4. ให้รัฐบาลประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อหลักและออนไลน์ กับประชาชนรับทราบ ตามข้อเรียกร้องทั้งหมด 3 ข้อนี้ ที่กล่าวมา

5. ให้รัฐบาลดำเนินการ สั่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเหลือผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด ลดทุกขั้นตอนให้เร็วขึ้น ไม่ช้าเหมือนเดิม


"ทั้งหมดนี้ให้เวลาทั้งหมด 3 วัน นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรี ผู้เกี่ยวข้อง ต้องออกมาชี้แจงเรื่องทั้งหมด ภายใน 3 วัน ถ้า 3 วันไม่มีอะไรคืบหน้า จะมาที่หน้าทำเนียบแบบไม่ประกาศ จะมาแบบเซอร์ไพรส์ เพราะถ้าประกาศก็จะมีลวดหนามมาเหมือนเดิม" นายธีรเดช หรือม่อน อาชีวะกล่าว


จากนั้นประกาศยุติกิจกรรมโดยตะโกนพร้อมกันว่า "สามกีบจงเจริญ เผด็จการจงพินาศ" พร้อมกัน 3 ครั้ง ก่อนแยกย้ายในเวลา 18.20 น.


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #โอมิครอน #อาชีวะพิทักษ์ประชาชน