67
ปี วันประหาร 3 จำเลยคดีลอบปลงพระชนม์ในหลวง ร.8 “ศราพัส” โพสต์
ชีวิตคนเรียกคืนไม่ได้ แต่ประวัติศาสตร์ที่บิดเบือนยังรอสะสาง
ความยุติธรรมรอการทวงคืน!
วานนี้
(17 ก.พ. 65) เป็นวันครบรอบการประหารชีวิต นายเฉลียว ปทุมรส, นายชิต สิงหเสนี,
และนายบุศย์ ปัทมศริน ซึ่งทั้ง 3 ท่านตกเป็นจำเลยคดีลอบปลงพระชมน์ในหลวงรัชกาลที่
8 และถูกศาลฎีกาอนุมัติให้ประหารชีวิตโดยการยิงเป้าเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2498
ทั้งนี้
คุณศราพัส บำรุงพงศ์ - ปทุมรส ผู้เป็นหลานสาวของนายเฉลียว ปทุมรส ได้โพสต์เฟซบุ๊ก
ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวพร้อมภาพช่องบรรจุอัฐิของนายเฉลียว ปทุมรส ภายในเจดีย์ขาว
วัดพระศรีมหาธาตุ ความว่า
๑๗
กุมภาพันธ์ ๒๔๙๘ - ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
ครบรอบ
๖๗ ปี วันประหารชีวิต
คุณตาเฉลียว
ปทุมรส พร้อม คุณชิต สิงหเสนี คุณบุศย์ ปัทมศริน
ทั้ง
๓ ท่านตกเป็นจำเลยคดีลอบปลงพระชนม์ในหลวง ร.๘
ด้วยความเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตัวเองคุณตาไม่หลบหนียืนหยัดต่อสู้คดี
ถูกใส่ร้าย ถูกปรักปรำ
ฝ่ายโจทก์สร้างหลักฐานพยานเท็จ
คุณตาเฉลียวทนทุกข์ต่อสู้คดีต้องเข้าออกคุกนานร่วม
๑๐ ปี
ครอบครัวลูกเมียแพแตกสาแหรกขาด
เรือนจำบางขวาง
๑๗
กุมภาพันธ์ ๒๔๙๘
ตี
๒ ผู้คุมปลุกจำเลยทั้ง ๓ ให้ตื่นขึ้นมารับฟังคำสั่งศาลฏีกาอนุมัติให้ประหารชีวิตโดยการยิงเป้า
ก่อนเดินเข้าหลักประหาร
คุณตาเฉลียวอาราธนาศีล สวดมนต์
คุณชิตช็อก
หน้าซีด
คุณตาเฉลียวจึงบอกคุณชิตว่า
"กลัวอะไรเกิดมาตายหนเดียว"
คุณบุศย์เขียนจดหมายถึงคุณบุญสมภรรยาจากนั้นเป็นลมแพทย์ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลให้ฟื้นพยุงปีกเข้าหลักประหาร
คุณตาเฉลียว
คุณชิต คุณบุศย์ ไม่มีโอกาสพบหน้า สั่งเสีย ร่ำลาลูกเมียเป็นครั้งสุดท้าย
คุณยายเมื่อทราบข่าวเป็นลมสิ้นสติ
ญาติได้นำร่างคุณตามาที่วัดสระเกศ
คุณยายเล่าว่า
เมื่อเห็นศพคุณตาใจแทบขาดสภาพศพพรุนไปด้วยกระสุนนับไม่ถ้วน
ศพคุณบุศย์ก็เอน็จอนาถน่าเวทนายิ่งนักถูกกระสุนแขนแทบขาดออกจากร่าง
คุณยายเก็บร่างคุณตาไว้ไม่ยอมเผา
หวังว่าสักวันหนึ่งจะมีการพิสูจน์ความบริสุทธิ์คืนความยุติธรรมให้คุณตา
วันเวลาล่วงเลยมาเรื่อย ๆ ๑๐ ปี ๒๐ ปี ๓๐ ปี ๔๐ ปี จนคุณยายรอไม่ไหว
ตัดสินใจเผาคุณตาในปี ๒๕๒๑ ด้วยเกรงว่าจะลาโลกไปก่อนได้เผาคุณตา
คุณตาเฉลียว
คุณชิต คุณบุศย์ ทั้ง ๓
ท่านได้สังเวยชีวิตให้กับการแก่งแย่งช่วงชิงอำนาจที่สกปรกโสมม
อำมหิตโหดเหี้ยมที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย
ชีวิตคนเรียกคืนไม่ได้
แต่ประวัติศาสตร์ที่บิดเบือนยังรอสะสาง
ความยุติธรรมยังรอการทวงคืน
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์