วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

ก้าวไกล จ่อยื่นฟ้องปปช. เอาผิด 5 รมต. หลังอภิปราย โรม ย้ำชัด หลักฐานการค้ามนุษย์ชัดเจน รัฐต้องชี้แจงต่อประชาชน "อย่าใช้ความเงียบกลบความจริง“

 


ก้าวไกล จ่อยื่นฟ้องปปช. เอาผิด 5 รมต. หลังอภิปราย โรม ย้ำชัด หลักฐานการค้ามนุษย์ชัดเจน รัฐต้องชี้แจงต่อประชาชน "อย่าใช้ความเงียบกลบความจริง"


วันนี้ (23 ก.พ. 65) ที่อาคารรัฐสภา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์  สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต1 , นายวาโย อัศวรุ่งเรือง  ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 พรรคก้าวไกล ร่วมกันเเถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลเตรียมยื่นหลักฐานต่อคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเเบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย


นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ปกติการอภิปรายทั่วไปของรัฐบาลตามมาตรา 152 นั้น หลัก ๆคือซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะต่อรัฐบาล  เเต่ในช่วงสถานการณ์เตรียมข้อมูลอภิปรายในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลพบว่ามีหลักฐานที่สามารถเอาผิดรัฐบาลได้ อย่างกรณีของ นายรังสิมันต์ โรม ในประเด็นค้ามนุษย์ ที่พรรคก้าวไกลจะดำเนินการต่ออย่างแน่นอน เพราะเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องทางการเมือง และในประเด็นการระบาดของโรคอหิวาต์ในสุกรของนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมทั้งในประเด็นของนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ เป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในด้านการเอี่ยวทุจริต และเอื้อผลประโยชน์ของบุคคลในครม. และประเด็นสุดท้าย คือ ประเด็นน้ำมันรั่วในทะเลภาคตะวันออก ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในระยะยาว


นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า จากกรณีที่ตนได้อภิปรายการระบาดของ ASF หลักฐานที่มีอยู่สามารถยื่นเอาผิดต่อ ป.ป.ช. ได้ เนื่องจากมีการปกปิดข้อเท็จจริงต่อการทุจริตที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อพี่น้องประชาชน เรื่องนี้จะต้องเข้าสู่การตรวจสอบข้อเท็จจริงของกมธ.ป.ป.ช. สภาผู้เเทนราษฎรด้วยอีกหนึ่งช่องทาง ซึ่งจำเป็นที่จะต้องซักฟอกและซักถามอีกหลายประเด็น การปกปิดข้อมูลในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีข้าราชการที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยเฉพาะข้าราชการระดับสูง ซึ่งอาจจะต้องฟ้องร้องต่อศาลอาญาคดีการทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เรื่องนี้ต้องมีผู้รับผิดชอบ โดยเฉพาะกรมปศุสัตว์ ซึ่งสุดท้ายความเสียหายที่เกิดขึ้นส่งผลต่อ supply chain ทั้งหมดในอุตสาหกรรมในสุกร มีมูลค่ามากกว่า 200,000 ล้านบาท  โดยพรรคจะรวบรวมภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบเพื่อฟ้องร้องค่าเสียหายกรณีนี้ต่อไปด้วย


ด้าน นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า จากกรณีที่ตนได้อภิปรายถึงการทุจริตของสถานีกลางบางซื่อ ถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นเรื่องระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยที่ได้ค้างชำระค่าก่อสร้างกับผู้รับเหมาและได้ยื่นเรื่องต่อรัฐมนตรีให้นำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขอขยายวงเงินในการก่อสร้างเกือบ 3 ปีเเล้ว ซึ่งนายศักดิ์สยาม ยังไม่ได้ดำเนินการนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ครม. จนมีการใช้สถานีกลางบางซื่อเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนกลาง และสุดท้ายผู้รับเหมาได้ฟ้องร้องจำนวน 7,200 ล้านบาท จากเอกสารคำฟ้องพบว่า ผู้รับเหมาคือบริษัท ชิโนไทย และยูนิค ได้ใช้ข้ออ้างว่ารัฐบาลนำสถานีกลางบางซื่อไปใช้ประโยชน์เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนแล้ว ถือว่าได้รับงานจากผู้รับเหมาเรียบร้อย และนำไปใช้งานแล้ว แต่กลับยังค้างจ่ายค่าก่อสร้าง จึงเรียกร้องค่าเสียหาย 7,200 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นประเด็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะนายอนุทินเกี่ยวข้องกับบริษัทชิโนไทย ซึ่งเป็นผู้ฟ้องรัฐบาล ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่เราจะนำเรื่องนี้ยื่นต่อ ป.ป.ช. ต่อไป


ต่อมา นายรังสิมันต์ โรม กล่าวว่า  จากกรณีการค้ามนุษย์ และการลี้ภัยของพลตำรวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ที่ลี้ภัยไปยังประเทศออสเตรเลีย เป็นประเด็นที่จะต้องติดตามในสังคมอย่างใกล้ชิด โดยมีทั้งหมด 3 ประเด็นหลัก

 

ประเด็นเเรก เราจะทลายขบวนการค้ามนุษย์ได้อย่างไร และประเด็นต่อมา เจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ที่เหลืออยู่ยังมีใครอีกบ้าง มีหน่วยงานรัฐที่ต้องรับผิดชอบหลายหน่วย ต้องไม่ลืมว่ามีใครที่รู้เห็นต่อขบวนการนี้ กองทัพเรือภาค 3 ดูแลชายแดนบริเวณดังกล่าว แต่ทหารเรือกลับถูกดำเนินคดี แค่ 1 คนเท่านั้น ยังมีทหารเรืออีกจำนวนมากที่ตนเชื่อว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ หรือในประเด็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่ควบคุมดูเเลเพื่อไม่ให้เกิดการกระทำที่ผิดกฎหมาย  ซึ่งพบว่าตำรวจที่เกี่ยวข้องถูกดำเนินคดีน้อยมาก นี่ยังไม่นับถึงฝ่ายปกครองที่เกี่ยวข้องกับหลายจังหวัด ซึ่งพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย น่าจะรู้เห็นต่อกรณีนี้เป็นอย่างดี ความคืบหน้าตรงนี้ยังไม่มี


ประเด็นสุดท้าย ปัจจัยที่นำไปสู้การลี้ภัยของพลตำรวจตรี ปวีณ ทั้งกรณีการย้ายตำแหน่งที่ให้ไปอยู่ที่ 3 จังหวัดชายแดน และการบีบบังคับต่าง ๆ ที่ตามมา โดยจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้คณะกรรมาธิการได้เเสวงหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และให้รัฐบาลได้ชี้แจงต่อสังคม เพราะจากวันศุกร์จนถึงวันนี้กว่า100 ชั่วโมงแล้ว ตนยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาลเลย ไม่ว่าจะเป็นจากปากพลเอกอนุพงษ์ ที่จากการปรากฏต่อสื่อมวลชนหลังจากที่ตนอภิปรายมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ก็ท้องเสีย ไม่ชี้แจงและไม่ตอบคำถามต่อสื่อมวลชนว่าเหตุใดใช้ ก.ตร. ในการย้ายพลตำรวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ ทั้ง ๆ ที่พลตำรวจตรี ปวีณ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้พลตำรวจตรี ปวีณ ต้องตัดสินใจลาออกจากข้าราชการตำรวจ ที่เป็นอาชีพที่เขารัก และอีกหลายคนรวมถึงพลเอกประยุทธ์ , กองทัพเรือ ยังไม่ชี้แจงต่อกรณีนี้อย่างชัดเจน เราอยู่ในสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะผู้เเทนราษฎรที่มีหน้าที่ซักถามรัฐบาล สิ่งที่เราเห็น คือไม่ตอบอะไรเลย และหวังว่าความเงียบจะทำให้ทุกสิ่งที่เราทำถูกกลบหายไป ซึ่งพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า ท่านไม่สามารถนำความเงียบ ความกลบฝัง ความจริงได้ต่อไป


“ประเด็นการค้ามนุษย์ เป็นประเด็นเเหลมคมทางการเมืองสูงมาก ที่เกี่ยวข้องกับการลี้ภัยและลาออกของพลตำรวจตรี ปวีณ พงศ์สิรินทร์ โดยพยานหลักฐานที่ดีที่สุด คือ พลตำรวจตรี ปวีณ ที่ลี้ภัยในออสเตรเลีย การที่เราให้มาชี้แจงในกมธ.กฎหมาย จะเป็นช่องทางที่ดีที่สุด เพราะตั้งเเต่มีการอภิปรายเรื่องนี้  ยังไม่มีกมธ.ไหนในสภา ที่ติดตามและพร้อมที่จะตรวจสอบต่อ เพราะยังมีข้อกังขาต่อสังคมในหลายประเด็น ในกมธ.กฎหมาย เรายังมีผู้อาวุโสหลายคน หลายพรรคการเมือง และประเด็นการค้ามนุษย์ ตนคิดว่าเป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญ เพื่อนำไปสู่การยื่นหลักฐานฟ้องต่อ ป.ป.ช. ต่อไป “ รังสิมันต์ กล่าว


ขณะที่ นายวาโย อัศวรุ่งเรือง กล่าวถึงกรณีที่ตนได้อภิปรายนายวราวุธ ศิลปอาชา ที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดการรั่วไหลของน้ำมันในท้องทะเลภาคตะวันออก ปล่อยให้เกิดมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในระยะยาว ในส่วนประเด็นนี้ ของตนและน.ส.เบญจา แสงจันทร์ ทีมงานพรรคก้าวไกล จะยื่นหลักฐานเอาผิดนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะผู้รับผิดชอบต่อกรณีที่เกิดขึ้น ต่อคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเแห่งชาติต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคก้าวไกลเตรียมจะยื่นฟ้องรัฐมนตรี ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. จำนวน 5 คน คือ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  โดยคาดว่าพร้อมยื่นฟ้องในสัปดาห์หน้า


#ก้าวไกล #UDDnews #ยูดีดีนิวส์