"ณัฐวุฒิ" ปราศรัยขับไล่ประยุทธ์ อำนาจที่ยืนยง ไม่ใช่ยืนบนหัวประชาชน แต่ต้องยืนอยู่บนหัวใจประชาชนเท่านั้น ชี้ผู้มีอำนาจกำลังตีโจทย์ผิด ตั้งตัวเป็นศัตรูกับหนุ่มสาวที่เป็นอนาคตประเทศ พร้อมเปิดใจทำไมต้องใส่เสื้อแดง
วันนี้ (2 ก.ย. 64) สืบเนื่องจาก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ คนทำงาน #เครือข่ายไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.) และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ผู้ริเริ่มกิจกรรม #คาร์ม็อบ ประกาศนัดหมายทำกิจกรรม "ดีเดย์" ที่แยกอโศกมนตรี เพื่อแสดงจุดยืนขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นั้น
เวลาประมาณ 19.30 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ขึ้นปราศรัย มีใจความกล่าวถึงการบริหารงานที่ผิดพลาดภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า
ในยุคประยุทธ์ โควิดไม่มีทางหาย เพราะผิดพลาดมาแต่ต้น การหยิบจับในการแก้ปัญหาพังหมด ทั้งวัคซีน ทั้ง ATK นี่คือสภาพนายกฯ ที่บอกจะพาประเทศพ้นวิกฤต ถ้าคุณรอดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมจะชวนประชาชนชวนไล่ประยุทธ์ทุกเมื่อเชื่อวัน"
ทั้งยังได้กล่าวถึง คนรุ่นใหม่ต่อสู้มานานกว่า 2 ปี วันนี้ขอให้น้องดูใจพี่บ้าง พอตนลงจากคาร์ม็อบจะมาบนถนนเท่านั้น ก็มีราชกิจจานุเบกษาห้ามชุมนุม ยืนยันว่าไม่ได้ท้าทาย แต่เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งตั้งแต่ชุมนุมมาจนถึงวันนี้ ยังไม่เห็นมีคลัสเตอร์ม็อบ สำหรับสถานการณ์ในสภา ฝ่ายค้านทำหน้าที่อภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างดีที่สุดแล้ว ตอนนี้ รัฐบาลกำลังห้ำหั่นกันเอง คาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทางการเมือง แต่ไม่ว่าความขัดแย้งในพปชร. จะนำไปสู่อะไร ในนามประชาชน เรายอมรับแต่การเปลี่ยนแปลงใต้ระบอบบประชาธิปไตยเท่านั้น ไม่เอาวิธีพิเศษ หากประยุทธ์ต้องลงจากตำแหน่ง ถามว่า ใครจะเป็นนายกฯ ถ้ามีการลาออก ก็ต้องโหวตเลือกจากแคนดิเดตพรรคการเมือง ไม่อย่างนั้น คือนายกคนนอก แต่สำหรับตนต้องมาจาก สส.ในสภาเท่านั้น จึงจะเป็นไปตามหลักการ ประเด็นความถูกใจเอาไว้ทีหลัง ถ้าไม่เอาสัก อำนาจนอกระบบจะมา จับตาดู 2-3 วันนี้ไว้ให้ดี นายณัฐวุฒิกล่าว
สำหรับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ต้องพูดอะไรมาก แค่เดินก็เข้าใจสถานการณ์ประเทศ ไปไหนไม่ประคองคือล้ม นี่คือสถานการณ์ประเทศไทย ตนจึงต้องออกมายืนร่วมกับพี่น้องอีกครั้ง
“จำนวนครั้ง คูณด้วยจำนวนคดี เดี๋ยวนี้ตำรวจไม่ได้ขยันแค่คลุมถุงดำ ยังขยันออกหมายด้วย
สมัยก่อนปราบยาสามเหลี่ยมทองคำ เดี๋ยวนี้ปราบเด็กสามเหลี่ยมดินแดง สำหรับกองทัพ ถูกทำให้กลายเป็นคู่ต่อสู้กับประชาชน เขาให้สร้างห้องไอซียู แต่ไปสร้างห้องไอโอ นายณัฐวุฒิกล่าว
นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ถ้าประยุทธ์รอดอภิปราย จะชวนออกมาไล่ทุกวันจนกว่าจะไป การต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ เป็นพลังบริสุทธ์ งดงาม หลายคนต้องเข้าเรือนจำ แต่ยังยืนหยัด
เด็กไม่ได้ขออะไรมากมายไปกว่าการออกมาประกาศว่าจะไม่มีใครกดหัวได้อีกต่อไป ถ้าเด็กพลาดต้องเตือน บอกด้วยความเมตตา ไม่ใช่เอาไปขัง หลายคนติดโควิดในเรือนจำ ขอย้ายที่รักษาไม่ได้ แต่อดีต ผกก.โจ้ ย้ายไปหลายเรือนจำ
ทนายอานนท์ปี ๆ นึงเป็นจำเลย มากกว่าทนาย ผมเห็นโพสต์อานนท์คิดถึงลูกสาว หัวใจพ่อที่มีลูก ผมเข้าใจ เอาพวกนี้ไปขังมีแต่ความเจ็บปวดของประเทศ การทำเช่นนี้ มีแต่สร้างรอยแผลให้ประเทศ อดีตที่เป็นความจริง ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องปรากฏ เราอยู่บนสายลมของความเปลี่ยนแปลง วันนี้ใครจะอุ้มประยุทธ์คิดให้ดี ประยุทธ์คือศูนย์รวมของความชิงชัง
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อไปว่าวันนี้ขอส่งเสียงถึงทุกอำนาจ ทุกอิทธิพลในไทย อำนาจที่ยืนยง ไม่ใช่ยืนบนหัวประชาชน แต่ต้องยืนอยู่บนหัวใจประชาชนเท่านั้น
การเข้าไปอยู่ในใจประชาชน ไม่ได้เข้าด้วยการใช้ปลายกระบอกปืน ต้องเข้าไปด้วยความรัก ความปรารถนาดีต่อประชาชน
ผู้มีอำนาจทั้งหลายกำลังตีโจทย์ผิด ตั้งตัวเป็นศัตรูกับหนุ่มสาวที่เป็นอนาคตประเทศ คนส่วนใหญ่ที่เติบโตมา เขาคิดไปแบบเดียวกัน ถ้าจัดการเพนกวินวันนี้ เดี๋ยวก็มีนกสารพัดชนิดบินออกมาสู้ ท่านหักต้นไผ่ เดี๋ยวก็มีต้นอื่นๆ ออกมาสู้อยู่ดี ในบ้านเมืองแต่ละบ้านเมือง อำนาจทำได้แต่ลบอดีต แต่ไม่สามารถลบอนาคตได้ และอดีตที่ใช้อำนาจลบ ถ้าอำนาจเจือจางหาย ความจริงมันก็จะปรากฏออกมา
อำนาจต้องไม่ถูกโค่นทำลาย แต่อยู่เป็นที่ทางในระเบียบ อำนาจที่จะงดงาม และยืนยง ไม่ได้อยู่บนหัวประชาชน แต่ต้องอยู่ในหัวใจต่อประชาชน อำนาจที่อบอุ่น และปลอดภัย ไม่ได้อยู่ในค่ายทหาร ไม่ได้อยู่ในองคาพยพกองทัพ หรือการปกป้องของเผด็จการ แต่ที่ที่ปลอดภัยมีแต่ในหัวใจประชาชน การเข้าไปอยู่ในใจประชาชน ไม่ได้เข้าด้วยการใช้ปลายกระบอกปืน ต้องเข้าไปด้วยความรัก ความปรารถนาดีต่อประชาชน ด้วยความจริงใจต่อประชาชน
“ประยุทธ์ออกไปเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่งของประชาชน พรุ่งนี้ กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ และการชุมนุม นัดหมายที่ราชประสงค์ ผมจึงจะยุติเวที ที่นี่ไม่มีจัด ส่วนเราจะกลับมาเมื่อไหร่ขอให้รอประกาศนัดหมาย ถ้าประยุทธ์ยังไม่ออก เราต้องออกมา นายณัฐวุฒิกล่าว
ในช่วงท้ายของของการปราศรัย นายณัฐวุฒิ ได้ขอเปิดใจจากกรณีที่หลายคนถามว่า ทำไมต้องใส่เสื้อแดงออกมาสู้ เพราะอาจทำให้คนเห็นต่างแสลงใจ นายณัฐวุฒิได้กล่าวว่า ผมใส่เสื้อแดงออกมาทุกเวที ไม่ได้ใส่ให้นายณัฐวุฒิ แต่ใส่ให้พี่น้องที่ถูกฆ่าตายในปี 2553 พวกเราถูกฆ่ากลางถนน คดีไปไม่ถึงไหน ไม่ได้ต้องการบอกว่าเสื้อแดงมานำ แต่ใส่เพื่อห่มคลุมวิญญาณที่ถูกรัฐฆ่าตาย
10 กว่าปีแล้วพี่น้องผมถูกยิงตาย คดีไม่ไปถึงไหน ใครจะแสลงใจกับเสื้อสีแดงก็ตาม อย่าให้ผมถอดเสื้อสีแดงได้มั้ย นี่เป็นสิ่งเดียวจริง ๆ ที่ผมจะทำเพื่อพี่น้องผมได้ นายณัฐวุฒิกล่าวทิ้งท้าย
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ไล่ประยุทธ์ #ม็อบ2กันยา