วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2564

ปล่อยตัว "ไมค์-บอย-ฟ้า-ณัฐชนน" พ้นเรือนจำ ส่วน"เพนกวิน" ถูกอายัดตัว คดีถูกถอนประกันที่ศาลอาญา ทีมทนายเตรียมเดินหน้าประกันตัวต่อในอาทิตย์หน้า อายัดเพนกวินต่อ ‘ พ้นเรือนจำ ลั่น เดินหน้าสู้ต่อ 3 ข้อเรียกร้องต้องได้

 


ปล่อยตัว "ไมค์-บอย-ฟ้า-ณัฐชนน" พ้นเรือนจำ ส่วน"เพนกวิน" ถูกอายัดตัว คดีถูกถอนประกันที่ศาลอาญา ทีมทนายเตรียมเดินหน้าประกันตัวต่อในอาทิตย์หน้า


อายัดเพนกวินต่อ ‘ พ้นเรือนจำ ลั่น เดินหน้าสู้ต่อ 3 ข้อเรียกร้องต้องได้


วันนี้ (15 ก.ย. 64)  สืบเนื่องศาลอุทธรณ์ภาค 1 มีคำสั่งให้ประกันตัว นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือ ฟ้า, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน, นายธัชพงศ์ แกดำ หรือ บอย, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์, และ นายณัฐชนน ไพโรจน์  โดยตีราคาประกัน 1000,000 บาท และให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM)


ต่อมามีกระแสข่าวว่า จะมีการอายัดตัวนายพริษฐ์ นายภาณุพงศ์ และนายธัชพงศ์ จากนั้น รุ้ง ปนัสยาและกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม จึงเรียกรวมพลหน้าเรือนจำธัญบุรี เวลา 13.00 น. เนื่องจากหวั่น เพนกวิน-ไมค์-บอย จะถูกอายัดตัวต่อ 


ขณะที่นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดานายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน หลั่งน้ำตา เนื่องจาก นายพริษฐ์ถูกอายัดตัวต่อ โดยมี นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และ ประชาชนกล่าวให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง


นางสุรีย์รัตน์ กล่าวว่า แม่อยากให้รักษาเพนกวินให้หาย เพราะว่าอาการมันก็จะยิ่งกำเริบ ๆ สะสมขึ้นเรื่อย ๆ คือเด็กก็ไม่ได้หนีไปไหนก็ถูกกักขังอยู่เหมือนเดิมเพียงแต่อยากให้เขาได้รีบการรักษาอย่าให้เขาทุกข์ทรมานและยิ่งตอนนี้พวกพี่ ๆ เขาได้ออกไปแล้ว ถ้าเกิดฉุกละหุกพี่ ๆ เขายังพอช่วยได้ อันนี้เพนกวินอยู่คนเดียว หากเกิดอะไรขึ้น เพนกวินไม่สามารถเรียกร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้ และอย่างหนึ่งมันก็เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องมีชีวิตอยู่ก็อยากให้ศาลยุติธรรม ไม่ว่าคำร้องอันนี้จะไปอยู่ที่ท่านใด รัฐมนตรีช่วยหรือรองปลัดใครก็แล้วแต่คำร้องอยู่โต๊ะท่านกรุณาพิจารณา เพราะชีวิตมีคุณค่าไม่ว่าเขาจะเป็นใครไม่ว่าเขาจะมาจากครอบครัวไหนจะอยู่ระดับไหนก็แล้วชีวิตทุกคนมีคุณค่า


ตอนนี้ทุกคนได้รับการปล่อยคดีของศาลธัญบุรี มีไมค์ ฟ้า ณัฐชนน พี่บอย แต่พี่บอยได้ถูกตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต อายัดตัวคดีม็อบซึ่งก็มีได้ปล่อยตัวก็ต้องไปดูกัน แต่ที่แน่ๆ คนหนึ่งไม่ได้ไปไหนคือเพนกวินก็คงไม่ได้ถูกปล่อยตัวและถูกไปกักขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ กรณีศาลถอนประกันตัวคดีเก่าถูกอายัดไปกักขังตัวต่อ ขณะนี้ทางทนายความกำลังทำเรื่องยื่นให้ศาลสั่งย้ายเพนกวินไปที่อื่น นางสุรีย์รัตน์กล่าว


กระทั่งเวลา 16.40 น. ที่หน้าเรือนจำอำเภอธัญบุรี ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายพรหมศร วีระธรรมจารี, นายชาติชาย แกดำ, นายภาณุพงศ์ จาดนอก ได้เดินออกมาจากเรือนจำ โดยมีพ่อแม่ บรรดา เพื่อน ๆ กว่า 100 คน เดินทางมาคอยต้อนรับหลังจากทราบข่าวว่าศาลให้ประกันตัว โดยเมื่อทั้งสามคนเดินออกมา เพื่อนๆและมวลชน ต่างส่งเสียงด้วยความดีใจ พร้อมทั้งโผเข้ากอด และมอบดอกกุหลาบแดงเพื่อแทนกำลังใจให้กับทั้งสาม โดยทั้งสามคนได้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ออกมาด้วย


ด้านนายภาณุพงศ์  กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนร่วมสู้กันมา และขอบคุณศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขอบคุณราษฎร ขอบคุณเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทุกคนที่ไม่เคยทิ้งเรา ตนได้สื่อสารออกมาภายนอกแล้วว่า ตนจะไม่ร้องขอความยุติธรรม กับ คนที่ไม่ยุติธรรมกับเรา สิ่งที่ทำได้คือ รอว่าจะเอาอย่างไรกับเราต่อ


การสูญเสียอิสรภาพ หรือถูกกักขังของพวกเรา ถือเป็นภารกิจของการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ฉะนั้นแล้ว นับต่อจากนี้ไป ขอให้เป็นเวลาของการเปลี่ยนแปลงจากพ่อแม่พี่น้องประชาชน มวลชนทุกคนที่ต่อสู้ร่วมกัน ไม่ว่าจากที่ไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ผมจะยังสู้ต่อไป


การถูกพันธนาการด้วย EM ไม่สามารถทำอะไรพวกเราทั้ง 3 คนได้ หลายครั้งที่เราให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เราจะไม่เปลี่ยนแปลงอุดมการณ์โดยเด็ดขาด ไม่ว่าเราจะเจออะไรก็ตาม อยู่ในเรือนจำเราเจออะไรมากมาย อยู่ข้างนอกสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี แต่เข้าไปในเรือนจำติดโควิดทั้งหมดทันที


นายภาณุพงศ์กล่าวในตอนท้ายว่า ยังยืนยันว่าจะร่วมต่อสู้กับพี่น้องประชาชนทุกท่าน ยังยืนหยัดใน 3 ข้อเรียกร้องของเราเหมือนเดิม ตราบใดที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังด้านอยู่ เราก็จะยังหน้าด้านไล่ ไม่มีคำว่าท้อหรือถอย หากวันนี้ยังได้กำลังใจจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนอยู่ ฝากขอบคุณจากใจ ไม่มีอะไรทดแทนได้นอกจากการต่อสู้ที่จะเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม


ด้านนายธัชพงศ์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้เราตลอดระยะเวลาที่อยู่ในห้องขัง สิ่งที่เป็นกำลังใจกับเรามากที่สุดคือได้รู้ว่าพี่น้องที่อยู่ข้างนอก "ยังคงเคลื่อนไหวอยู่"  มันคือลมหายใจของพวกเราที่อยู่ข้างใน ทำให้พวกเรามีความหวัง แม้อยู่ข้างในก็พร้อมที่จะสู้ รู้ว่าข้างนอกก็มีการสูญเสีย จากนี้ไปเราจะสู้ด้วยกัน เรายืนยันจุดยืนของเรา 3 ข้อ ประยุทธ์ต้องออกไป, ร่างธรรมนูญใหม่ และ ปฏิรูปสถาบันฯ ให้ได้ ไม่มีนาทีไหนแล้วที่เราจะรวมพลังกันได้มากเท่านี้


นายธัชพงศ์ กล่าวถึงประเด็นการติดโควิดว่า สิ่งสำคัญตอนที่เราถูกจับอยู่ ตอนที่โควิดลงปอด ผมอยู่ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่ง รพ.ราชทัณฑ์ ทำผักชีโรยหน้าตอนที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนไปเยี่ยมผมกับเพนกวิน การที่ขึ้นไปนอนบนเตียงผู้ป่วยได้ นั่นหมายความว่าเราสองคนใกล้จะตายแล้ว ท่านรู้หรือไม่ มีผู้ป่วยอีกหลาย 100 คน ที่ต้องนอนกองกันอยู่ในห้องเดียวกันเกือบ 50 กว่าชีวิตที่เป็นโควิด นั่นคือโรงพยาบาลสนาม เขาเอาเราไปนอนกองกัน ปิดไม่ให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้าไปตรวจสอบโรงพยาบาลสนาม กรรมการสิทธิเข้าไป ก็พูดอีกอย่างว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์ดูแลเป็นอย่างดี สิ่งที่แย่ที่สุด การที่ถูกย้ายมาเรียนจำธัญบุรี กรมราชทัณฑ์ปล่อยให้เจ้าหน้าที่เรือนจำเข้าไปลากตัวเพนกวินจากเตียงผู้ป่วย


นายธัชพงศ์ กล่าวต่อว่า หลังจากนั้น ไม่พอ ผู้คุมได้พูดคำหยาบคายและใช้กริยาท่าทีประทุษร้ายเรา 2 คน ที่น่าอับอายคือการแถลงของราชทัณฑ์ว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อจากนี้เราจะกดดันไปที่กรมราชทัณฑ์ ให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ รพ.ราชทัณฑ์ ในกรณีใช้ความรุนแรงกับเราทั้งหมดในเรือนจำ


อีกคนหนึ่งที่ยังไม่ได้ออก ยังอยู่ในเรือนจำธัญบุรีคือ เพนกวิน ขอเสียงปรบมือให้กำลังใจ เพนกวินจะถูกย้ายไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มีอานนท์ นำภา ไผ่ ดาวดิน และ เพนกวิน เราจะไม่ปล่อยให้เพื่อนเราอยู่เรือนจำ ข้างนอกเราต้องสู้ให้ถึงที่สุด  อีกคนคือ ณัฐชนน ไพโรจน์ แนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ อยู่ที่เรือนจำชั่วคราวรังสิต วันนี้ก็จะได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน


ด้าน นายพรหมศร กล่าวว่า ดิฉันได้รับข่าวความไม่ยุติธรรม คือ อาทิตย์ ทีมทะลุฟ้า ไม่ได้รับการประกันตัว ตลอดเวลาที่ติดคุกในเรือนจำครั้งนี้ ทำให้การใส่กำไล EM จน กลายเป็นเพื่อนสนิท แต่ไม่อาจลดทอนความเป็นนักสู้ลงแม้แต่นิด

.

ชาติเท่ากับประชาชน นับจากนี้ประชาชนจะทวงสถาบันชาติให้กลับมาเป็นของประชาชน นับจากนี้ ข้อเรียกร้องของเราทั้ง 3 ข้อ จะเข้มข้น ดุเดือดยิ่งขึ้น ตอนแรกเป็นการตั้งไฟ ต่อมาเคี่ยวกะทิ ตอนนี้เตรียมใส่เครื่อง ตักแกงใส่ขึ้นจานแล้ว


จากนั้นได้อ่านข้อความ ของนายพริษฐ์ที่ฝากออกมาใจความตอนหนึ่งว่า

เผด็จศึก เบ็ดเสร็จด้วยมวลชนนำนา

การใหญ่อาศัยคน กว่าล้าน

ส่งสามัคคีผจญ ทรราช

พินาศ แต่ต่อต้าน

ต่อด้วย แรงเรา


จากนั้นนายภาณุพงศ์ นายธัชพงศ์ และนายพรหมศร กอดคอ ร่วมร้องเพลง "แสงดาวแห่งศรัทธา" โดยทนายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนเข้ามาจับมือและสวมกอด


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์