วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564

"ทะลุฟ้า" แกงใส่ "นางเลิ้ง" โผล่ "ท่าน้ำนนท์" หวังพบ "ประยุทธ์" แต่อดเจอ หลังนายกฯ เปลี่ยนแผน หลบม็อบต้าน มวลชนแน่นรอ (ต้อนรับ) ขับไล่

 


"ทะลุฟ้า" แกงใส่ "นางเลิ้ง" โผล่ "ท่าน้ำนนท์" หวังพบ "ประยุทธ์" แต่อดเจอ หลังนายกฯ เปลี่ยนแผน หลบม็อบต้าน มวลชนแน่นรอ (ต้อนรับ) ขับไล่


วันนี้ (30 ก.ย. 64) ที่ท่าน้ำเทศบาลปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นายอนุชา นาคาศัยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและส.ส.พรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพภาคที่ 1 เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และการก่อสร้างแนวกำแพงป้องกันน้ำท่วมรอบเกาะเกร็ด รับฟังแนวทางป้องกัน และลดผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย  ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเนื่องจากมีกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านบางกลุ่มเคลื่อนไหวขับไล่การลงพื้นที่ของ พล.อ.ประยุทธ์ในครั้งนี้ ด้วย


โดยเมื่อเวลา 15.30 น. ภายหลังเสร็จสิ้นการตรวจเยี่ยมและมอบถุงยังชีพให้ประชาชนที่ชุมชนตลาดขวัญ "นายกฯ" พร้อมคณะ ได้เปลี่ยนจุดจอดเรือจากเดิมที่กำหนดไว้ว่าจะนั่งเรือมาขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับที่ท่าน้ำนนทบุรี แต่ปรากฎว่าระหว่างที่ล่องเรือเพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่นั้น พบว่ามีกลุ่มต่อต้าน พลเอกประยุทธ์ ได้ทยอยรวมตัวกันจำนวนมากที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี


ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ได้มีมวลชนมาปักหลักรวมตัวเพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ บางรายเตรียมน้ำปลาร้ามาด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ คฝ.มาตั้งแถว ห้ามไม่ให้มวลชนเข้าใกล้ท่าน้ำนนท์ จนเกิดการผลักดันกันเป็นระยะ ๆ


พบว่ามวลชนทยอยเข้าพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จำนวนเพิ่มขึ้น ๆ โดยส่งเสียงตะโกนขับไล่พลเอกประยุทธ์  นายกฯให้ออกจากตำแหน่ง จนมีการใช้กำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนเข้ามาควบคุม อีกทั้งรถจีโน่ก็เข้าประจำการเตรียมความพร้อม


อย่างไรก็ตามเมื่อเวลา 15.05 น. เพจเฟซบุ๊ก ทะลุฟ้า - thalufah โพสต์ข้อความระบุว่า แกงหม้อใหญ่ ไม่ไปแยกนางเลิ้ง ทะลุฟ้าประจันหน้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งวันนี้ลงพื้นที่ จ.นนทบุรี และ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องรับฟังปัญหาของประชาชนที่แท้จริง


ขณะที่บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา ท่าน้ำนนท์  นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์ราษฎร และป้าเป้า ได้ใช้โทรโข่งปราศรัยถึงการทำงานของรัฐบาล ความล้มเหลวในเรื่องต่าง ๆ พร้อมขอให้นายกรัฐมนตรีมาพูดคุยรับฟังปัญหา ซึ่งตามกำหนดการ พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องเดินทางมายังจุดนี้ มวลชนจึงมารอแต่พบว่านายกรัฐมนตรีไม่มา


ด้านเจ้าหน้าที่ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่ามวลชนใช้เวลาแสดงออกพอสมควรแล้ว มีความยินดีที่จะให้แสดงออก แต่ขณะนี้มีกฎหมายโรคติดต่อ และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะการชุมนุมผิดกฎหมาย ขอให้แยกย้ายกันกลับ ด้วยความเป็นห่วงของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยากให้ปลอดภัยจากโควิด-19 ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ตั้งแนวสกัด


ขณะที่มวลชนยังคงรวมตัวแต่ตะโกนด่าทออย่างดุเดือดที่เจ้าหน้าที่ประกาศห้ามและที่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ยอมมารับฟัง พร้อมทั้งจุดธูปทำพิธีสวดไล่พล.อ.ประยุทธ์


อย่างไรก็ตาม นายกฯและคณะ ได้เปลี่ยนจุดขึ้นจากที่ท่าน้ำนนทบุรี มาเป็นโป๊ะเรือตรงตึก ส.ว.อาคารรัฐสภา เกียกกาย แทน โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและส่วนล่วงหน้า รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ร่วมกันประเมิน และแจ้งไปทางเรือของนายกฯ เพื่อประสานกับทีมรักษาความปลอดภัยให้เปลี่ยนจุดขึ้นเรือ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับมวลชน


จากนั้น 16.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอนกำลังออกจากบริเวณท่าน้ำนนท์


ต่อมามวลชนเริ่มทยอยออกจากบริเวณท่าน้ำนนท์แล้ว ขณะที่ กลุ่มทะลุฟ้า ประกาศผ่านเฟซบุ๊กอีกครั้งเมื่อเวลา 16.25 น. ระบุว่า "ประยุทธ์ไม่กล้าเผชิญหน้ากับประชาชน

ที่ออกมาร้องทุกข์ ณ ท่าน้ำนนท์ !

ไม่กล้าแค่นั้นยังไม่พอ ยังไม่ยอมรับฟังเสียงใดๆของประชาชน

เอารถน้ำจีโน่ เอาฝูงตำรวจ (ขี้ข้า)

มาปิดกั้นเสรีภาพการแสดงออก"


พร้อมย้ำข้อเรียกร้อง คือ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข, เขียนรัฐธรรมนูญใหม่โดยประชาชนเพื่อประชาชน, ปฏิรูปสถาบัน และปฏิรูปตุลาการเพื่อคืนสิทธิการประกันตัว 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ม็อบ30กันยา #ทะลุฟ้า #ท่าน้ำนนท์ #ไล่ประยุทธ์