วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2565

จดหมายจากบุ้ง-ใบปอ ถึงกระบวนการยุติธรรมและพี่น้องเสื้อแดง: การจับเราเข้าเรือนจำ ไม่ได้ทำให้คนหยุดตั้งคำถาม

 


จดหมายจากบุ้ง-ใบปอ ถึงกระบวนการยุติธรรมและพี่น้องเสื้อแดง: การจับเราเข้าเรือนจำ ไม่ได้ทำให้คนหยุดตั้งคำถาม


วานนี้ (1 มิ.ย. 65) ทนายความได้เข้าเยี่ยม “บุ้ง” เนติพร และ “ใบปอ” สองสมาชิกกลุ่ม “ทะลุวัง” ทั้งสองถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางมาแล้ว 30 วัน หลังถูกศาลเพิกถอนประกันเมื่อวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา ในคดีมาตรา 112 กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จที่บริเวณห้างสยามพารากอน เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 65


สำหรับคดีที่ทั้งสองถูกคุมขัง เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 65 มีรายงานว่าพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องคดีต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ไปแล้ว ทำให้ทั้งสองถูกคุมขังระหว่างพิจารณาในชั้นศาล และศาลได้กำหนดนัดสอบถามคำให้การในวันนี้ (2 มิ.ย. 65)  ซึ่งทีมทนายความจะได้ยื่นประกันตัวทั้งสองคนอีกครั้ง


ทั้งสองคนฝากจดหมาย 2 ฉบับ ออกมาจากเรือนจำ ฉบับหนึ่งถึง “กระบวนการยุติธรรม” อีกฉบับหนึ่งถึง “พี่น้องเสื้อแดง” ชวนอ่านก่อนจับตาผลการประกันตัวอีกครั้งในวันนี้ (2 มิ.ย. 65)


ใจความของจดหมายฉบับที่ถึง “กระบวนการยุติธรรม” มีความว่า


สวัสดีกระบวนการยุติธรรม


สิ่งที่บุ้งกับใบพอทำเป็นเพียงการตั้งคำถามตามระบอบประชาธิปไตย แต่กระบวนการยุติธรรมจับบุ้งกับใบปอเข้าคุก ไม่ต้องการให้เราตั้งคำถาม การทำแบบนี้กลับทำให้เกิดคำถามขึ้นมากกว่าเดิม แม้ในเรือนจำเองก็เกิดคำถามว่าทำไมเราสองคนถึงต้องมาอยู่ในเรือนจำ เราสองคนทำความผิดร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ เลยต้องจับเราสองคนเข้าเรือนจำ แต่จะบอกว่าการจับเราสองคนเข้าเรือนจำ ไม่ได้ทำให้คนหยุดตั้งคำถามได้


เข้ามาในนี้ เราสองคนพบว่า หลายคนไม่ได้รับสิทธิของตัวเองตามที่ควรจะเป็น หลายคนยากจนหลายคนไม่มีเงินแม้กระทั่งจะประกันตัว บุ้งและใบปอก็ได้ช่วยให้เขารู้สิทธิที่ควรมีของเขา บุ้งและใบปอได้ช่วยให้เขาตื่นรู้จากความไม่เป็นธรรม เป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราพอจะทำได้ในเรือนจำนี้


กระบวนการยุติธรรมควรพิจารณาถึงการมีอยู่ของตัวเองว่าการมีอยู่ของพวกท่านมีขึ้นเพื่อประชาชนหรือไม่ ทั้งที่เงินเดือนของข้าราชการในกระบวนการยุติธรรมก็ล้วนมาจากภาษีของประชาชน


การแก้ไขปัญหาความแออัดในเรือนจำ ไม่ควรเป็นการยัด EM ติดข้อเท้าประชาชน แต่กระบวนการยุติธรรมต้องปฏิรูป  เราเจอว่าหลายคนยังไม่ถูกตัดสินเหมือนกับเรา หลายคนไม่มีเงินประกันตัว หลายคนต้องรอคดีนานจนรับสารภาพ กระบวนการยุติธรรมต้องย้อนกลับมาดูตัวเองว่ากฎหมายเป็นธรรมจริงหรือไม่


ในเรือนจำหลายอย่างมีลักษณะเป็นการลงโทษมากกว่าการเรียนรู้เพื่อการแก้ไขปรับปรุง หากสมมติว่ามีคนกระทำความผิดจริงเข้ามาอยู่ในนี้ เราก็ไม่เห็นว่าจะมีกระบวนการที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ว่าสิ่งที่พวกเขากระทำเป็นความผิดได้เลย นอกจากนั้นอยู่ในนี้ยังทำให้เกิดความเครียด แต่คนในนี้สามารถพบจิตแพทย์ได้เพียงสัปดาห์ละครั้ง ในสถานที่ที่มีความเครียดเช่นนี้ควรมีจิตแพทย์ที่เข้าถึงได้ มีสุขอนามัยที่เข้าถึงได้


ที่แปลกอย่างหนึ่งคือ การเข้ามาในเรือนจำทำให้รู้สึกเหมือนตอนอยู่โรงเรียนของรัฐบาลที่อยู่สมัยตอนเด็กๆ ระบบการสั่งสอน การตีตรา การลงโทษ ห้ามพูด ห้ามคุย ห้ามลุก ห้ามนั่ง มันแปลกมากที่การเข้ามาในเรือนจำกลับทำให้นึกถึงโรงเรียนเพราะมันเหมือนกัน


ทุกคนลองคิดดูว่าทางโรงเรียนและเรือนจำจะสามารถผลิตประชากรที่มีคุณภาพได้อย่างไร บุ้งรู้สึกเหมือนเคยติดคุกมาก่อน แน่นอนว่าเรื่องความสะอาด สุขอนามัยในเรือนจำแย่กว่าโรงเรียนหลายเท่ามากๆ แต่ทั้งสองที่ซึ่งควรเป็นพื้นที่ในการเรียนรู้ กลับไม่ทำให้เกิดการเรียนรู้


นอกจากนี้ยังมีมุมของการยัดเยียดศาสนา จะต้องสวดมนต์เช้า บ่าย หรือก่อนกินข้าว ทั้ง ๆ ที่คนในเรือนจำก็นับถือหลายศาสนา แต่กลับบังคับให้สวดมนต์ ก่อนจะกินข้าวจะมี บทท่องอยู่ท่อนหนึ่งว่า “เราเป็นผู้มีกรรม” เป็นการสั่งสอนประชาชนให้ยอมรับการกระทำของตนเอง


ส่วนจดหมายถึงพี่น้องเสื้อแดง มีใจความว่า


ถึงพี่น้องเสื้อแดง


ความเป็นอยู่ในนี้ค่อนข้างลำบากสำหรับบุ้งและใบปอ เราแพ้น้ำที่อาบ ทำให้ผื่นขึ้นทั่วตัวเพราะน้ำสกปรก กินข้าวไม่ค่อยได้ เวลากลางคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ เพราะราชทัณฑ์เปิดไฟสว่างตลอดเวลา บวกกับความเครียดที่ต้องเผชิญ แต่สิ่งที่ทำให้บุ้งและใบปอยังพอประคองกันไปได้เพราะว่าได้รับความช่วยเหลือจากพี่ ๆ แม่ ๆ เสื้อแดงในเรือนจำ


ทุกๆ คนทำให้สิ่งที่เราเผชิญอยู่ไม่สาหัสจนเกินไปและมีแรงสู้ต่อ พี่น้องคนเสื้อแดงมีอยู่ทุกที่ ทุกคนอยู่กับเรามาตลอดตั้งแต่เริ่มทำกิจกรรม จนไปศาล แม้กระทั่งตอนเข้ามาในเรือนจำแล้ว แม่ ๆ เสื้อแดงตามดูแลเราเสมอ หลายครั้งเราท้อไปแล้วแต่สุดท้ายยังไม่ยอมแพ้ เพราะพี่น้องเสื้อแดงทุกคนที่ยังอยู่เคียงข้าง ขอบคุณทุกคนที่ไม่ทิ้งบุ้งกับใบปอ


ไม่ว่าจะอยู่ข้างนอกและข้างใน คนที่ไม่ทิ้งเราคือประชาชน เป็นพี่ๆ แม่ๆ ที่ช่วยเหลือ ขอบคุณที่ไม่ทิ้งเราทั้งสองคน เราอยู่ในนี้มาเกือบเดือนแล้วได้รับข่าวและข้อความจากทนาย จากคนที่นั่งรถเรือนจำออกไปศาลแล้วเห็นพี่ๆ ที่มาทำกิจกรรมหน้าเรือนจำก็เล่าให้ฟัง และตอนที่เราออกไปศาลด้วยตัวเอง เรารู้ว่าคนข้างนอกไม่ลืมเรา


คนข้างนอกสู้ยังไงคนข้างในก็ยังสู้อยู่


บุ้งและใบปอ

ทัณฑสถานหญิงกลาง


ที่มาภาพและข่าว : ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน


#ปล่อยเพื่อนเรา #ยกเลิก112

#คืนสิทธิการประกันตัว

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์