จดหมายจากบุ้ง-ใบปอ
ถึงกระบวนการยุติธรรมและพี่น้องเสื้อแดง: การจับเราเข้าเรือนจำ
ไม่ได้ทำให้คนหยุดตั้งคำถาม
วานนี้
(1 มิ.ย. 65) ทนายความได้เข้าเยี่ยม “บุ้ง” เนติพร และ
“ใบปอ” สองสมาชิกกลุ่ม “ทะลุวัง” ทั้งสองถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางมาแล้ว 30 วัน หลังถูกศาลเพิกถอนประกันเมื่อวันที่ 3 พ.ค.
ที่ผ่านมา ในคดีมาตรา 112 กรณีทำโพลสำรวจความเดือดร้อนจากขบวนเสด็จที่บริเวณห้างสยามพารากอน
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 65
สำหรับคดีที่ทั้งสองถูกคุมขัง
เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 65
มีรายงานว่าพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องคดีต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ไปแล้ว
ทำให้ทั้งสองถูกคุมขังระหว่างพิจารณาในชั้นศาล
และศาลได้กำหนดนัดสอบถามคำให้การในวันนี้ (2 มิ.ย. 65) ซึ่งทีมทนายความจะได้ยื่นประกันตัวทั้งสองคนอีกครั้ง
ทั้งสองคนฝากจดหมาย
2 ฉบับ ออกมาจากเรือนจำ ฉบับหนึ่งถึง “กระบวนการยุติธรรม” อีกฉบับหนึ่งถึง
“พี่น้องเสื้อแดง” ชวนอ่านก่อนจับตาผลการประกันตัวอีกครั้งในวันนี้ (2 มิ.ย. 65)
ใจความของจดหมายฉบับที่ถึง
“กระบวนการยุติธรรม” มีความว่า
สวัสดีกระบวนการยุติธรรม
สิ่งที่บุ้งกับใบพอทำเป็นเพียงการตั้งคำถามตามระบอบประชาธิปไตย
แต่กระบวนการยุติธรรมจับบุ้งกับใบปอเข้าคุก ไม่ต้องการให้เราตั้งคำถาม การทำแบบนี้กลับทำให้เกิดคำถามขึ้นมากกว่าเดิม
แม้ในเรือนจำเองก็เกิดคำถามว่าทำไมเราสองคนถึงต้องมาอยู่ในเรือนจำ
เราสองคนทำความผิดร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ เลยต้องจับเราสองคนเข้าเรือนจำ
แต่จะบอกว่าการจับเราสองคนเข้าเรือนจำ ไม่ได้ทำให้คนหยุดตั้งคำถามได้
เข้ามาในนี้
เราสองคนพบว่า หลายคนไม่ได้รับสิทธิของตัวเองตามที่ควรจะเป็น
หลายคนยากจนหลายคนไม่มีเงินแม้กระทั่งจะประกันตัว
บุ้งและใบปอก็ได้ช่วยให้เขารู้สิทธิที่ควรมีของเขา
บุ้งและใบปอได้ช่วยให้เขาตื่นรู้จากความไม่เป็นธรรม เป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ
ที่เราพอจะทำได้ในเรือนจำนี้
กระบวนการยุติธรรมควรพิจารณาถึงการมีอยู่ของตัวเองว่าการมีอยู่ของพวกท่านมีขึ้นเพื่อประชาชนหรือไม่
ทั้งที่เงินเดือนของข้าราชการในกระบวนการยุติธรรมก็ล้วนมาจากภาษีของประชาชน
การแก้ไขปัญหาความแออัดในเรือนจำ
ไม่ควรเป็นการยัด EM
ติดข้อเท้าประชาชน แต่กระบวนการยุติธรรมต้องปฏิรูป เราเจอว่าหลายคนยังไม่ถูกตัดสินเหมือนกับเรา
หลายคนไม่มีเงินประกันตัว หลายคนต้องรอคดีนานจนรับสารภาพ
กระบวนการยุติธรรมต้องย้อนกลับมาดูตัวเองว่ากฎหมายเป็นธรรมจริงหรือไม่
ในเรือนจำหลายอย่างมีลักษณะเป็นการลงโทษมากกว่าการเรียนรู้เพื่อการแก้ไขปรับปรุง
หากสมมติว่ามีคนกระทำความผิดจริงเข้ามาอยู่ในนี้
เราก็ไม่เห็นว่าจะมีกระบวนการที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ว่าสิ่งที่พวกเขากระทำเป็นความผิดได้เลย
นอกจากนั้นอยู่ในนี้ยังทำให้เกิดความเครียด
แต่คนในนี้สามารถพบจิตแพทย์ได้เพียงสัปดาห์ละครั้ง ในสถานที่ที่มีความเครียดเช่นนี้ควรมีจิตแพทย์ที่เข้าถึงได้
มีสุขอนามัยที่เข้าถึงได้
ที่แปลกอย่างหนึ่งคือ
การเข้ามาในเรือนจำทำให้รู้สึกเหมือนตอนอยู่โรงเรียนของรัฐบาลที่อยู่สมัยตอนเด็กๆ
ระบบการสั่งสอน การตีตรา การลงโทษ ห้ามพูด ห้ามคุย ห้ามลุก ห้ามนั่ง
มันแปลกมากที่การเข้ามาในเรือนจำกลับทำให้นึกถึงโรงเรียนเพราะมันเหมือนกัน
ทุกคนลองคิดดูว่าทางโรงเรียนและเรือนจำจะสามารถผลิตประชากรที่มีคุณภาพได้อย่างไร
บุ้งรู้สึกเหมือนเคยติดคุกมาก่อน แน่นอนว่าเรื่องความสะอาด
สุขอนามัยในเรือนจำแย่กว่าโรงเรียนหลายเท่ามากๆ แต่ทั้งสองที่ซึ่งควรเป็นพื้นที่ในการเรียนรู้
กลับไม่ทำให้เกิดการเรียนรู้
นอกจากนี้ยังมีมุมของการยัดเยียดศาสนา
จะต้องสวดมนต์เช้า บ่าย หรือก่อนกินข้าว ทั้ง ๆ ที่คนในเรือนจำก็นับถือหลายศาสนา
แต่กลับบังคับให้สวดมนต์ ก่อนจะกินข้าวจะมี บทท่องอยู่ท่อนหนึ่งว่า
“เราเป็นผู้มีกรรม” เป็นการสั่งสอนประชาชนให้ยอมรับการกระทำของตนเอง
ส่วนจดหมายถึงพี่น้องเสื้อแดง
มีใจความว่า
ถึงพี่น้องเสื้อแดง
ความเป็นอยู่ในนี้ค่อนข้างลำบากสำหรับบุ้งและใบปอ
เราแพ้น้ำที่อาบ ทำให้ผื่นขึ้นทั่วตัวเพราะน้ำสกปรก กินข้าวไม่ค่อยได้
เวลากลางคืนก็นอนไม่ค่อยหลับ เพราะราชทัณฑ์เปิดไฟสว่างตลอดเวลา
บวกกับความเครียดที่ต้องเผชิญ แต่สิ่งที่ทำให้บุ้งและใบปอยังพอประคองกันไปได้เพราะว่าได้รับความช่วยเหลือจากพี่
ๆ แม่ ๆ เสื้อแดงในเรือนจำ
ทุกๆ
คนทำให้สิ่งที่เราเผชิญอยู่ไม่สาหัสจนเกินไปและมีแรงสู้ต่อ
พี่น้องคนเสื้อแดงมีอยู่ทุกที่ ทุกคนอยู่กับเรามาตลอดตั้งแต่เริ่มทำกิจกรรม
จนไปศาล แม้กระทั่งตอนเข้ามาในเรือนจำแล้ว แม่ ๆ เสื้อแดงตามดูแลเราเสมอ
หลายครั้งเราท้อไปแล้วแต่สุดท้ายยังไม่ยอมแพ้
เพราะพี่น้องเสื้อแดงทุกคนที่ยังอยู่เคียงข้าง ขอบคุณทุกคนที่ไม่ทิ้งบุ้งกับใบปอ
ไม่ว่าจะอยู่ข้างนอกและข้างใน
คนที่ไม่ทิ้งเราคือประชาชน เป็นพี่ๆ แม่ๆ ที่ช่วยเหลือ
ขอบคุณที่ไม่ทิ้งเราทั้งสองคน เราอยู่ในนี้มาเกือบเดือนแล้วได้รับข่าวและข้อความจากทนาย
จากคนที่นั่งรถเรือนจำออกไปศาลแล้วเห็นพี่ๆ ที่มาทำกิจกรรมหน้าเรือนจำก็เล่าให้ฟัง
และตอนที่เราออกไปศาลด้วยตัวเอง เรารู้ว่าคนข้างนอกไม่ลืมเรา
คนข้างนอกสู้ยังไงคนข้างในก็ยังสู้อยู่
บุ้งและใบปอ
ทัณฑสถานหญิงกลาง
ที่มาภาพและข่าว
: ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
#ปล่อยเพื่อนเรา #ยกเลิก112
#คืนสิทธิการประกันตัว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์