“ทนายอนันตชัย” รับมอบอำนาจจาก
“เสรีพิศุทธ์” ร้องกรมการปกครอง เพิกถอนสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย
วันนี้
(6 มิ.ย. 65) เวลา 13.30 น. ที่ กรมการปกครอง ทนายอนันตชัย ไชยเดช
ได้นำหลักฐานเอกสาร รวม 352 เรื่อง ระหว่างปี 2562 ถึง 2565 เข้ายื่นเพิกถอน
“สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย” ต่อกรมการปกครอง
โดย
ทนายอนันตชัย กล่าวว่า
ที่ตนเองมายื่นหนังสือยุบสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยในวันนี้นั้น
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564 นายศรีสุวรรณ ในฐานะอุปนายกและเลขาธิการสมาคมฯ
ได้ยื่นหนังสือร้องเรียน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
ต่อคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ป.ป.ช.)
โดยกล่าวหาว่า กระทำการทิ้งหิน ดิน ล่วงล้ำลำน้ำแควน้อยเกินกว่าแนวเขตของตน
โดยไม่ได้รับอนุญาตจากกรมเจ้าท่าตาม มาตรา 119 พ.ร.บ.เดินเรือในน่านน้ำไทย
พ.ศ.2456 พร้อมกับปลูกต้นไม้เป็นสวนหย่อมและทำทางเท้าปูด้วยแผ่นหิน
อันเป็นการปลูกสร้างสิ่งอื่นใดล่วงล้ำเข้าไปในน้ำ
ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติของแผ่นดิน เมื่อปี 2551 ต่อเนื่องกันจนถึงปัจจุบัน
อันเป็นการกระทำเข้าข่ายฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ต่อมาเมื่อวันที่
10 กันยายน 2564 พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้มอบอำนาจให้ตนเอง
ยื่นฟ้องสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และนายศรีสุวรรณ ที่ศาลอาญา รัชดา
ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
โดยมอบหมายให้ตรวจสอบ และเพิกถอนสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ของนายศรีสุวรรณ
ออกจากทะเบียนสมาคม เพราะเกี่ยวกับเรื่องที่กล่าวหา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
แต่หารู้ไม่ว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ได้ขออนุญาตต่อกรมเจ้าท่า ภูมิภาค 3
สาขากาญจนบุรี ถูกต้องตามกฎหมาย แม้แต่ตำรวจ และอัยการก็ยังสั่งไม่ฟ้อง
อีกทั้งที่ดินที่ถูกร้องเรียนนั้น ทาง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์
ได้โอนที่ดินดังกล่าวให้กับบุตรสาว และบุตรชายก่อนเป็นนักการเมือง หรือเป็น ส.ส.
ดังนั้น เมื่อนายศรีสุวรรณ ยื่นหนังสือร้องเรียนผิดจริยธรรม เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม
2564 ในที่ดินดังกล่าว ซึ่งไม่ได้เป็นชื่อของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แล้ว
จึงไม่เป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัว
และที่ดินไม่ได้เกี่ยวกับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ แล้ว
นอกจากนี้
ทนายอนันต์ชัย ยังรวบรวมการร้องเรียนของสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย
และนายศรีสุวรรณ ตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน เท่าที่ตรวจพบ มีการร้องเรียนไป 352
เรื่อง ซึ่งเรื่องที่ร้องเรียนส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ อีกทั้งนายศรีสุวรรณ
ได้เคยให้สัมภาษณ์ รายการเผชิญหน้าของนายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ เมื่อวันที่ 29
กันยายน 2559 ว่าชาวบ้านที่มาร้องเรียนบางคนรวบรวมเงินคนละเล็กคนละน้อย 2-3 พันบาท
ถ้าคิดง่าย ๆ 3,000 คดี คดีละ 1,000 บาท ก็เป็นเงิน 3,000,000 บาท
บางคนซึ่งเป็นเศรษฐีให้หลักแสนก็มี อันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากการเป็นความกัน
หรือค้าความกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง อันมีวัตถุประสงค์ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน
ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 101(1) และ(2)
ทั้งนี้
ยังตรวจสอบพบอีกว่า ตั้งแต่ปี 2552 ที่มีการจัดตั้งสมาคมฯ ขึ้นมา
ไม่เคยมีการประชุมประจำปี ไม่เคยเปลี่ยนนายกสมาคมฯ หรือคณะกรรมการ
ไม่เคยจัดทำบัญชีงบดุลให้ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อได้เงินมา
ก็ไม่ได้ลงบัญชีรายรับรายจ่ายในนามสมาคมฯ ตามที่กฎหมายกำหนด
การทำหนังสือร้องเรียนของสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยโดยนายศรีสุวรรณ
ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนและหน่วยงานของรัฐ
อย่างไรก็ตาม
ตนเองจะให้เวลาอธิบดีกรมการปกครอง 30 วัน
เพื่อพิจารณาเพิกถอนสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย หากไม่ดำเนินการ
ก็จะยื่นหนังสือร้องเรียนกับ ป.ป.ช. ต่อไป
#UDDnews
#ยูดีดีนิวส์