ศูนย์ทนายฯเผย "พลพล ทะลุแก็ส" วัย 20 ปี เครียดหนัก พยายามฆ่าตัวตาย กินยาแก้ปวดกว่า 60 เม็ด ก่อนถูกส่งล้างท้องที่ รพ.ราชทัณฑ์ ยังไม่ทราบชะตากรรม ขณะ 2 ทะลุแก็ส ใช้ฝาปลากระป๋อง "กรีดแขนตัวเอง" หลายสิบแผล เพื่อประท้วงศาลที่สั่งไม่ให้ประกัน
วันนี้ (27 มิ.ย. 65) ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานผ่านเพจเฟสบุ๊ค ระบุว่า
27 มิ.ย. 2565 ทนายความได้เดินทางไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังคดีการเมืองกลุ่ม #ทะลุแก็ส จำนวน 11 ราย ซึ่งทั้งหมดถูกคุมขังมาตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 2565 โดยมีสาเหตุมาจากการชุมนุมที่บริเวณดินแดง ในวันที่ 11, 14 และ 15 มิ.ย. 2565
#ธีรวิทย์ 1 ใน 11 ผู้ต้องขังทะลุแก็สเล่าให้ทนายฟังว่า ตนเองอายุมากที่สุดในห้องขัง คือ อายุ 41 ปี จึงอาสาทำหน้าที่คอยดูแลน้องๆ อีก 10 คนที่เหลือ หนึ่งในหน้าที่ของธีรวิทย์คือดูแลกล่องยาสามัญประจำบ้านที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มอบให้ไว้ติดห้องขังเผื่อมีใครเจ็บป่วย โดยเขาจะวางกล่องยานี้ไว้ใกล้ตัวเสมอแม้กระทั่งเวลานอนก็ตาม
ต่อมา ในคืนวันศุกร์ (24 มิ.ย. 2565) ธีรวิทย์คาดว่า พลพลได้แอบมาหยิบ ‘#พาราเซตามอล’ (Paracetamol) จำนวนหลายแผงออกไปจากกล่องยาดังกล่าวในขณะที่ทุกคนนอนหลับอยู่และกินเข้าไปจำนวนมากเพื่อหวังจะจบชีวิตในห้องขัง โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คาดว่าพลพลน่าจะกินยาพาราเข้าไปมากกว่า 60 เม็ด
เช้าวันต่อมา (25 มิ.ย. 2565) เพื่อนผู้ต้องขังสังเกตว่า พลพลมีอาการ #อาเจียน ตลอดทั้งวันตั้งแต่เช้าตรู่ นอกจากนี้ยังมีอาการมึนงง สับสน หน้าซีด และพูดจาไม่ได้ความ ซึ่งเป็นอาการที่ผิดปกติ เพื่อนอีก 10 คนจึงพากันคาดคั้นความจริงจากเขาว่า อาการอาเจียนมาจากสาเหตุใดกันแน่ และทุกคนพากันตรวจค้นที่นอนของพลพล กระทั่งพบว่า ใต้ผ้าปูนอนของเขามีแผงยาพาราที่ถูกแกะเม็ดยาออกไปแล้วจำนวนหลายสิบแผงด้วยกัน
เขาจึงยอมรับสารภาพว่า “#พยายามฆ่าตัวตาย” ด้วยการกินยาพาราเข้าไปหลายสิบเม็ดในกลางดึกที่ผ่านมา เพื่อนผู้ต้องขังจึงรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รับทราบ
ในช่วงเย็นของวันนั้น เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงพาตัวพลพลไปล้างท้องที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ จากนั้นเพื่อนผู้ต้องขังคนอื่นๆ ก็ไม่ทราบความคืบหน้าของพลพลอีกเลย แม้วันนี้ทนายจะไปทวงถามคำตอบเกี่ยวกับอาการของพลพลหลังถูกส่งไปโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ว่า “#จนถึงขณะนี้พลพลปลอดภัยดีหรือไม่”
ธีรวิทย์เล่าให้ฟังว่า หลังพลพลถูกขังในคดีนี้เขาคือคนเดียวที่มี ‘#อาการเครียดหนักมากที่สุด’ พลพลเคยเล่าให้ธีรวิทย์ฟังว่า วันที่เลือกเข้าแสดงตัวกับตำรวจ ทั้งๆ ที่ไม่มีหมายจับใดๆ เป็นเพราะว่าพลพลมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง ว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุตามที่ถูกกล่าวหาแน่นอน แต่ทว่าเขากลับถูกดำเนินคดีและศาลก็อนุญาตให้ฝากขังจนถึงทุกวันนี้
อีกอย่างหนึ่งพลพลเพิ่งอายุได้เพียง 20 ปีเท่านั้น ในสายตาของธีรวิทย์ พลพลคือเยาวชนคนหนึ่ง หลังถูกขัง พลพลชอบพูดในทำนองสิ้นหวัง เสียใจ และพูดบ่อยๆ ว่า “#อยากตาย” หลายครั้งเขานิ่งเงียบอยู่ในมุมห้องและร้องไห้คนเดียวด้วย
ด้านเพื่อนผู้ต้องขังทะลุแก็สคนอื่นๆ ต่างก็มีอาการเครียดไม่แพ้กัน แทบทุกคนกินอาหารได้น้อยลงเพียงวันละ 1 มื้อ หรือบางวันก็ไม่กินเลย มีความกังวล วิตก โดยยังพบว่ามีเพื่อนผู้ต้องขัง 2 ราย คือ #พุฒิพงศ์ และ #ใบบุญ ได้ #กรีดแขนตนเอง เพื่อประท้วงที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังพวกเขาทุกคนและมีคำสั่งไม่ให้ประกันตัว โดยพวกเขาใช้ฝาปลากระป๋องกรีดหน้าแขนตัวเองมากกว่า 10 แผล ยาวตั้งแต่บริเวณข้อมือมาจนถึงข้อศอก
นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องขังอีก 1 ราย คือ #ธีรวิทย์ ทำการ #อดอาหารประท้วง มาตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. 2565 เพื่อทวงคืนความยุติธรรมเช่นกัน โดยกินแต่น้ำเปล่าและเกลือแร่เท่านั้น ขณะนี้พบว่าเขามีอาการอ่อนแรงมาก หน้าซีด ซูบผอมจากเดิม ขนาดต้องใช้วิธี ‘#คลาน’ แทนการเดิน เพราะไม่มีแรงจะเดินได้แล้ว หากจะเดินต้องมีเพื่อนคอยพยุงสองข้างเท่านั้น
สำหรับ “พลพล” ถูกกล่าวหาจากการเผารถยนต์ตำรวจ สน.ดินแดง หลังเหตุการณ์ชุมนุม #ราษฎรเดินไล่ตู่ หรือ #ม็อบ11มิถุนา65 โดยเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2565 พลพลเดินทางไปแสดงความบริสุทธิ์กับตำรวจที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)
แต่กลับถูกตำรวจแจ้งข้อกล่าวหา 5 ข้อกล่าวหาเช่นเดียวกับผู้ต้องหา 4 รายแรกในคดีนี้ โดยที่คนอื่นๆ ตำรวจมีการขอศาลออกหมายจับ แต่กรณีของพลพลยังไม่ได้มีการออกหมายจับแต่อย่างใด
ในคืนนั้นพลพลไม่ได้ถูกควบคุมตัวไว้ เนื่องจากไม่มีหมายจับ ตำรวจจึงไม่มีอำนาจควบคุมตัวไว้ แต่ได้นัดหมายเขาไปยื่นขอฝากขังต่อศาลอาญาในวันรุ่งขึ้น และศาลได้อนุญาตให้ฝากขังมาตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย. 2565 จนถึงปัจจุบัน
ขอบคุณข้อมูล : ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์