วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2565

ทัณฑสถานหญิงกลาง ปฏิเสธ กรณีแพทย์ละเมิดผู้ต้องขังหญิงด้วยคำพูด ชี้เป็นการซักประวัติและตรวจรักษาอาการตามปกติ พร้อมยืนยัน ผู้ต้องขังทุกรายได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องและเป็นมาตรฐาน”

 


ทัณฑสถานหญิงกลาง ปฏิเสธ กรณีแพทย์ละเมิดผู้ต้องขังหญิงด้วยคำพูด ชี้เป็นการซักประวัติและตรวจรักษาอาการตามปกติ พร้อมยืนยัน ผู้ต้องขังทุกรายได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องและเป็นมาตรฐาน”


จากกรณีที่ “ใบปอ” ได้มีจดหมายแจ้งผ่านทนายความที่เข้าไปเยี่ยมเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า นายแพทย์ที่ตรวจอาการของเธอนั้น ระหว่างที่ซักถามอาการ ได้ใช้คำพูดข่มขู่ เสียดสี และคุกคามเธอ


โดยวานนี้ (17 มิ.ย. 65) ที่เพจ ประชาสัมพันธ์ กรมราชทัณฑ์ ได้มีการโพสต์ชี้แจง กรณีแพทย์ละเมิดผู้ต้องขังหญิงด้วยคำพูด โดยมีความว่า


วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน 2565 เวลา 12.00 นาฬิกา กรมราชทัณฑ์ ชี้แจง กรณี แพทย์ประจำทัณฑสถานหญิงกลาง ถูกกล่าวหาว่า กระทำการละเมิดผู้ต้องขังหญิงด้วยคำพูดข่มขู่ เสียดสี และคุกคาม ขณะทำการตรวจรักษาอาการป่วย นั้น


กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงว่า ในวันที่ 16 มิถุนายน 2565 เวลา 10.30 นาฬิกา ผู้ต้องขังหญิงรายดังกล่าว ซึ่งถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ได้เข้าพบแพทย์ด้วยอาการแสบท้องจากการอดอาหาร เพื่อทำการตรวจประเมินอาการและสั่งยาเพิ่มเนื่องจากยาชุดเดิมที่ถูกสั่งจ่ายไว้จากแพทย์ท่านอื่นได้หมดลง โดยแพทย์ที่ทำหน้าที่ตรวจรักษาประจำสถานพยาบาลทัณฑสถานหญิงกลางในห้วงเวลาดังกล่าว คือ นายแพทย์ชาตรี จองศิริเลิศ โดยได้ดำเนินการซักประวัติเพื่อประกอบการวินิจฉัยอาการป่วย รวมถึงได้ให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวเพิ่มเติมเพื่อมิให้เกิดการเจ็บป่วยทางร่างกาย ซึ่งผู้ต้องขังหญิงรายดังกล่าวได้แจ้งความประสงค์ว่า ไม่ขอรับยารักษาโรค และไม่ขอรับการรักษา รวมถึงไม่ขอรับคำแนะนำจากแพทย์แต่อย่างใด จากนั้นได้กลับเรือนนอนและปฏิบัติภารกิจประจำวันตามปกติ


อย่างไรก็ตาม ทัณฑสถานหญิงกลาง ยืนยันว่า ผู้ต้องขังหญิงรายดังกล่าว รวมถึงผู้ต้องขังหญิงทุกรายในการควบคุม ดูแล ได้รับการปฏิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน (SOPs) ของกรมราชทัณฑ์ และตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างถูกต้อง ครบถ้วนทุกประการ และนายแพทย์ชาตรี จองศิริเลิศ ที่ถูกกล่าวหาดังกล่าว เป็นแพทย์อายุรกรรมที่อุทิศเวลามาให้การรักษาดูแลผู้ต้องขังหญิงภายในทัณฑสถานหญิงกลางมาแล้ว 15 ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น หรือได้รับข้อร้องเรียนจากผู้ต้องขังหญิงที่ได้รับการรักษาจากนายแพทย์คนดังกล่าวแต่อย่างใด


ทั้งนี้ในวันเดียวกัน ทางแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ทำกิจกรรมเชิญชวนสมาชิก นักกิจกรรม ผู้สนับสนุน ตลอดจนผู้ที่สนใจประเด็นสิทธิมนุษยชนเขียนจดหมายถึงนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมที่ประท้วงด้วยการอดอาหาร ให้สิทธิในการประกันตัว ยกเลิกข้อกล่าวหาและการดำเนินคดีอาญาใดๆ ต่อนักกิจกรรมที่ออกมาใช้สิทธิของตนโดยสงบ และในระหว่างรอการปล่อยตัวต้องให้การประกันว่าทั้งหมดจะสามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้อย่างเหมาะสม ทั้งยังเรียกร้องให้เจ้าพนักงานปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศของไทย ที่จะเคารพ คุ้มครอง และเติมเต็มสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก การสมาคม และการชุมนุมโดยสงบ ซึ่งการรณรงค์นี้จะมีไปถึงวันที่ 9 ส.ค. 2565


ขณะที่ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จี้ แพทยสภา-รมว.ยุติธรรม เร่งตรวจสอบกรณีร้องเรียน “แพทย์ประจำเรือนจำหญิง” ละเมิดสิทธิผู้ต้องหา “บุ้ง-ใบปอ” โดยนางอมรัตน์ กล่าวว่า ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว กรณีนี้ถือเป็นอีกความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้คือการไม่อนุญาตให้ประกันตัวนักกิจกรรม ทั้งที่ยังไม่เคยมีการตัดสินความผิด ประเด็นนี้เป็นประเด็นที่พรรคก้าวไกลเรียกร้องมาโดยตลอด เพราะการไม่อนุญาตให้มีการประกันตัวโดยยังไม่มีการตัดสิน เป็นการกระทำที่ขัดกับหลักสากลและคือความอยุติธรรม


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์