สัมภาษณ์
อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ประเด็น :
“ความคิดเห็นเกี่ยวกับการชุมนุมภายใต้การนำของคนรุ่นใหม่
19 ก.ย. นี้”
ปัญหาก็คือจากการที่เรามีสภาพการเมืองการปกครองที่ไม่ปกติมาหลายปี
การที่มันถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพมากเกินไป
และการปกครองที่ไม่ใช่ระบอบปกติอันเนื่องมาจากการทำรัฐประหาร มันจึงทำให้เป็นแรงกดต่อสังคม
แล้วที่ใดมีแรงกด ที่นั่นต้องมีการต้าน!
ถ้าเป็นสังคมที่ไม่มีการกด
การใช้สิทธิเสรีภาพก็จะไม่มีลักษณะปะทุรุนแรง
ถ้าใครจะไปโทษการที่มีการลุกขึ้นทวงอำนาจ
หรือต้องการปฏิรูปโครงสร้างของประเทศทั้งหมด
ต้องเข้าใจว่าสังคมมันถูกกดมานานด้วยปัจจัยหลายอย่าง และด้วยการทะเลาะเบาะแว้งของคนรุ่นเก่าซึ่งเป็นผู้ใหญ่
การที่มีเยาวชนคนรุ่นใหม่ซึ่งเขาไม่ได้สัมพันธ์อะไรเลยกับความขัดแย้งเดิม
แต่เขาต้องการเปลี่ยนอนาคตตามความเข้าใจของเขา อาจารย์มองว่าเป็นเรื่องที่ดี
และมันมีเหตุมีผลว่าทำไมเขาจึงต้องทำอย่างนั้น
เพราะฉะนั้นเราต้องเข้าใจว่าโลกมันเปลี่ยนเร็ว
เยาวชนเหล่านี้เมื่อ 5 ปีก่อนอาจจะไม่มีอะไรอย่างนี้เลย เรานึกไม่ออกว่าเมื่อ 6
ปีที่แล้วจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น
เมื่อโลกมันเปลี่ยนเร็ว
ผู้คนก็เปลี่ยนเร็ว ดังนั้นผู้ที่เป็นผู้สูงอายุหรือเป็นผู้ใหญ่ทั้งหลายต้องปรับตัวและปรับความคิด
ก็คือเข้าใจเยาวชน
ถ้าคุณคิดว่าเขาไม่ถูกตรงไหน
คุณก็สามารถพูดได้ด้วยเหตุด้วยผล
เพราะว่าเท่าที่อาจารย์ดูเด็กพวกนี้หลายคนเป็นคนที่อ่านหนังสือ
อ่านประวัติศาสตร์ แล้วเรียนเก่ง ถ้าเป็นเด็กมัธยมอย่างโรงเรียนเตรียมฯ
ก็เป็นหัวกะทิทั้งนั้นเลย
มันต้องพูดจากับคนเหล่านี้ด้วยเหตุด้วยผล
จะใช้อำนาจไม่ได้!
ก็ขนาดนายกฯ
ยังพูดเองว่าสมมุติว่าจะไปห้ามก็ห้ามไม่ได้ เอาจริง ๆ
ไม่มีใครจะใช้อำนาจอะไรไปห้ามได้ จะใช้อำนาจว่าคุณเป็นอดีตแกนนำ
หรือคุณเป็นนายกรัฐมนตรี หรือเป็นผู้ใหญ่มาก่อน ไม่ได้ทั้งนั้น
เพราะว่าเขาใช้เวลามากพอในการก้าวข้ามปัญหาเพื่อที่เขาจะไปข้างหน้า
เพราะฉะนั้นขอให้เข้าใจ
มีอย่างเดียวก็คือคนรุ่นก่อนต้องปรับตัวให้ทันโลก คุณถึงจะพูดกับเขารู้เรื่อง
