นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ กล่าวในรายการ หัวใจไม่หยุด 'เต้น' ep.43 เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 63 ว่า
ผมไม่เคยรู้จักคุณวันเฉลิม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัว การอุ้มหายไม่ควรเกิดขึ้นกับใครก็ตาม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือเหตุผลอื่นๆ และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องติดตามตรวจสอบความจริง อำนวยความยุติธรรมให้กับผู้ถูกกระทำและผู้สูญเสีย
กรณีคุณวันเฉลิม มีคำถามว่าทำไมเกิดปฏิกิริยาเป็นแรงกระเพื่อมมากกว่ากรณีอุ้มหายในหลาย ๆ ครั้ง
ข้อสันนิษฐานหนึ่งน่าจะเป็นเพราะมันเกิดขึ้นในหลายครั้ง เสียงเรียกร้องทวงถามจึงดังขึ้นตลอดเวลา เพื่อที่จะแสดงจุดยืนว่าไม่ควรมีเหยื่ออุ้มหายรายต่อไปและเหยื่อทุกรายควรได้รับความยุติธรรม
ขอแสดงความห่วงใยต่อคุณวันเฉลิมและส่งกำลังใจไปยังครอบครัวและญาติมิตรทุกคน แม้ว่าส่วนใหญ่จะประเมินชะตากรรมของคุณวันเฉลิมคล้าย ๆ กัน
สถานการณ์ในพรรคพลังประชารัฐยังคงพัฒนาต่อเนื่อง ล่าสุดท่าทีของ 4 กุมาร ดูเหมือนจะฝากความหวังไว้ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แม้แต่คุณสุวิทย์ เมษินทรีย์ ซึ่งโพสต์ข้อความทำนองจะถอดใจ ยังให้สัมภาษณ์ทิ้งท้ายว่าสำหรับการจะตัดสินใจลาออกหรืออยู่ต่อ ขอให้ท่านนายกฯ เป็นผู้พิจารณา
นี่คงเป็นความหวังเดียวของกลุ่ม 4 กุมาร ที่จะรับมือศึกนี้ได้ ทั้งที่หลายฝ่ายก็วิเคราะห์ตรงกันว่าสถานการณ์มาถึงวันนี้ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับรู้และไม่เห็นชอบด้วย ไม่มีทางเดินมาได้
18 กรรมการบริหารพร้อมใจยื่นใบลาออก พล.อ.ประวิตรแบะท่าจะเป็นหัวหน้าพรรค เรื่องอย่างนี้มีหรือพี่น้องป.ปลา เค้าจะไม่คุยกัน ดังนั้นทางเลือกของ 4 กุมาร คงเหลือไม่มาก
สำหรับผมคิดว่าข่าวที่ออกมาประมาณว่าจะชวนกันลาออกเพื่อรักษาศักดิ์ศรี น่าจะเป็นทางที่เป็นไปได้มากที่สุดเพราะจะทู่ซี้อยู่ต่อรักษาให้ครบทุกเก้าอี้ คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
พูดง่ายๆ ว่าถ้าเลือกศักดิ์ศรีก็ต้องทิ้งเก้าอี้ ถ้าเลือกเก้าอี้ก็จะไม่เหลือศักดิ์ศรีให้รักษา จะคิดว่ารักษารูปมวยไว้เผื่อได้อยู่ต่อบางเก้าอี้ บางคนอาจจะหลุดจากครม.ไป นั่นก็จะทำให้ 4 กุมารเดินบนถนนทางการเมืองอย่างไม่สง่างามอยู่ดี
คุณอุตตม คุณสนธิรัตน์ คุณสุวิทย์และคุณกอบศักดิ์ต้องไม่เผลอใจคิดไปว่า ตัวเองเป็นคนเสียสละลาออกจากครม.ยุคคสช.มาเพื่อสร้างพรรคพลังประชารัฐ เมื่อสร้างบ้านเสร็จแล้วหลายต่อหลายคนเค้าเห็นด้วยชอบใจ จึงพากันย้ายเข้ามาอยู่
เพราะแท้ที่จริงท่านออกมารับงานสร้างบ้านตามแบบแปลน ตามพิมพ์เขียวที่เค้าวางไว้เสร็จหมดแล้ว เจ้าของบ้านคือคนออกเงิน ดร.สมคิดเป็นผู้รับเหมาแล้วก็มอบหมายให้ 4 กุมารเป็นโฟร์แมนมาคุมงาน ซึ่งคุณชวน ชูจันทร์นั่นล่ะครับ เป็นคนสร้างตัวจริงเค้าทำเอาไว้
เมื่อสร้างบ้านคือพรรคพลังประชารัฐเสร็จ เขาก็ชวนบรรดานักการเมืองทั้งหลายเข้ามาอยู่รวมด้วยกัน ถึงวันนี้เจ้าของบ้านเค้าจะเอาคืน ก็อย่าไปคิดอะไรมากครับ ถือซะว่าในฐานะโฟร์แมน 4 กุมารได้ค่าตอบแทนแล้ว คือการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งสำคัญในกรรมการบริหาร
ถ้าคิดได้แบบนี้ก็จะไม่เครียดนะครับ แต่ถ้าคิดจะอยู่ต่อสู้กันไป รับรองจะเครียดและช้ำหนักกว่านี้หลายเท่า
ดูเอาตั้งแต่สถานการณ์ของดร.สมคิดก็ได้ ล่าสุดออกมาให้สัมภาษณ์ว่าคนดีอยู่ในการเมืองไม่ได้ เท่านั้นล่ะครับ คุณชัยวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คุณวันชัย ส.ส.สงขลาพลังประชารัฐ ออกมาสวนทันทีว่าพูดแบบนี้เอาดีเข้าตัว ทำพรรคเสียหาย
ส.ส. 2 คนนี้ ก่อนหน้านี้ถ้าเทียบกับดร.สมคิด กระดูกห่างกันหลายพ.ศ. แต่วันนี้สวนกันต่อหน้าต่อตาแบบไม่มีเกรงใจ สัญญาณแบบนี้ไม่มีเป็นอย่างอื่นล่ะครับ นอกจากจะไล่กันจนสุดทาง
จะไปหวังให้พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาค้ำเก้าอี้ให้ จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ ก็ในเมื่อพล.อ.ประวิตรออกหน้ามาเต็มหน้าซะขนาดนี้
เกมยึดคืนพรรคพลังประชารัฐคราวนี้ เห็นหน้าคนอื่นบ้างก็เพียงเล็กๆ น้อยๆ ล่ะครับ แต่หน้าพล.อ.ประวิตรบานเต็มเวที พี่น้องนายทหารกลุ่มนี้ ถ้าคิดจะหักกันเรื่องผลประโยชน์ เรื่องอำนาจ
เค้าหักกันนานแล้วล่ะครับ ไม่น่าจะมาหักกันวันนี้
แล้วถ้าประเมินความคิดพล.อ.ประยุทธ์ ไม่แน่นะครับว่าตัวนายกรัฐมนตรีก็อาจจะอยากเปลี่ยนแปลงทีมเศรษฐกิจอยู่พอดี
5-6 ปีที่ผ่านมาภายใต้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของดร.สมคิดและชาวคณะ มีแต่คนในรัฐบาลเท่านั้นล่ะครับที่พากันพูดว่ามาถูกทางแล้วเศรษฐกิจกำลังดี ไปถามชาวบ้าน ถามผู้ประกอบการคนเดินดินกินข้าวแกงทั่วๆ ไป บ่นกันเป็นเสียงเดียวกันว่าแย่
มาถึงช่วงโควิด มีเงินแจกชาวบ้านยังโดนด่าเละไม่มีชิ้นดี เรื่องพวกนี้ไม่มีใครรู้เต็มอกเท่าคนเป็นนายกรัฐมนตรีล่ะครับ
ดังนั้น แทนที่จะไปหวังให้พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตรหักกัน ประเมินใหม่ว่าอาจจะเป็นเรื่องสมเจตนาของทุกฝ่าย ฝ่ายหนึ่งก็ได้คุมสภาพการนำในพรรคพลังประชารัฐเต็มไม้เต็มมือ อีกฝ่ายก็จะได้เปลี่ยนทีมเศรษฐกิจเสียที
แต่ก็น่าสนใจมากอยู่เหมือนกันนะครับ สถานการณ์มาถึงวันนี้ ใครจะมานั่งเก้าอี้คุมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ถ้าจะให้บรรดาลูกหาบ พล.อ.ประวิตร ตามที่มีรายชื่อในสื่อก็ขนลุกพิลึกเพราะบางคนถูกมองว่าเป็น 'ทีมเศรษฐโกย' มากกว่า 'ทีมเศรษฐกิจ'
ขณะที่ถ้าจะไปเจรจาเอานักบริหารคนนอกเข้ามาซึ่งผมยืนยันนะครับว่ามีการทาบทามกันอยู่แล้วจริง อย่างน้อย 2 ป.ปลาที่เคยพูดไป หรืออาจจะมีคนอื่นๆ อีกก็ตาม คนที่ถูกทาบทามก็คิดหนัก
เพราะรัฐบาลโดยการนำของพล.อ.ประยุทธ์ รื้อทีมเศรษฐกิจมาแล้วอย่างน้อย 2 ชุด คือ ทีมหม่อมอุ๋ย และ กำลังจะเป็นทีม ดร.สมคิด ใครเข้ามารับมือกับวิกฤตหลังโควิด มั่นใจเหรอครับว่าจะเอาอยู่และอยู่ได้
เรื่องยุ่งๆ ที่เกิดจากสภาพเศรษฐกิจและซ้ำเติมด้วยโรคระบาดมันก็เลยยุ่งเข้าไปใหญ่ เมื่อเกิดจากความต้องการทางการเมืองของคนในพรรคและในรัฐบาล
ถ้าใครจะมองหาว่า สถานการณ์ที่เค้าขัดแย้งแก่งแย่งกันอยู่นี้ ผลประโยชน์ของประชาชนอยู่ตรงไหน แนะนำให้ไปถามกระทรวงสาธารณสุข ใช้กล้องส่องหาเถอะครับเพราะมันอาจจะเล็กกว่าเชื้อไวรัสก็ได้
บางคนพยายามมองโลกในแง่ดี บอกว่าเกมตบจูบแบบนี้เดี๋ยวก็เคลียร์กันจบ - ไม่จบอะครับ ถ้าจะจบก็จบเฉพาะผลประโยชน์ทางการเมืองของคนในพรรคและในรัฐบาลที่อาจจะจูนกันลงตัว
แต่สำหรับในใจประชาชนมันจบไม่ลงหรอกครับ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นใบเสร็จยืนยันว่า นี่คือเกมแย่งชิงอำนาจทางการเมืองโดยแท้
เมื่อ 3 มิตร เปิดเกมรุกเต็มตัว ถ้า 4 กุมารเล่นเกมการเมืองจนสมประโยชน์กันเพื่อรักษาเก้าอี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำเน่ากำลังสู้กับน้ำครำ คนช้ำก็คือประชาชนอยู่ดี
แต่ที่จะช้ำหนักหน่อย น่าจะเป็นคนที่เป่านกหวีดเรียกพวกนี้มานั่นล่ะครับ
- 'กลาโหม' ยอมรับล้วงโทรศัพท์ประชาชน
อีกเรื่องใหญ่คือ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหมออกมายอมรับว่าทำหนังสือขอข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของประชาชน อ้างว่าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกที่ 2 ใครจะเชื่อก็เชิญนะครับ แต่ผมไม่มองอย่างนั้นน่ะ มันเรื่องอะไรที่กระทรวงกลาโหมจะต้องเข้ามาล้วงลึกถึงข้อมูลของประชาชน สำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหมตัดสินใจทำแบบนี้ได้เองเลยหรือ หรือว่ามีใครเป็นคนสั่ง แล้วหนังสือที่ว่า ออกไปแล้วเป็นเดือน ถ้าไม่มีนักวิชาการเค้าไปได้มาแล้วออกมาเปิดเผยความจริง ประชาชนทั้งประเทศก็ยังไม่รู้จนปัจจุบัน
เจตนาซุกซ่อน การกระทำลับๆ ล่อๆ จะให้ประชาชนเกิดความไว้วางใจได้ยังไง ไอ้แบบนี้แอพฯ ไทยชนะที่ใช้เวลาจะเข้าห้างร้านหรือกิจการต่างๆ ก็กลายเป็นปัญหา จากไทยชนะจะกลายเป็นไทยชะงัก
เพราะคนที่จะเข้าก็รู้สึกลังเลว่า ถ้าสแกนไปแล้วจะเพลี่ยงพล้ำอะไรให้รัฐบาลหรือเปล่า นี่ใจคอเราจะควบคุมโรคระบาดด้วยหน่วยงานความมั่นคงกันจริงๆ น่ะเหรอครับ
บทบาทของกระทรวงสาธารณสุข เป็นหลักเรื่องตรวจหาเชื้อ คัดแยกและรักษาผู้ป่วย แต่ส่วนงานอื่นๆ สังเกตดูเถอะครับ ฝ่ายความมั่นคงเข้ามาเอี่ยวและมีบทบาทสำคัญทั้งสิ้น
ผมยังไม่เข้าใจจนเดี๋ยวนี้ว่าทำไมคนที่นั่งหัวโต๊ะในการพิจารณาจะให้เปิดกิจการอะไรได้บ้าง คลายล็อคเฟส 1 เฟส 2 เฟส 3 เฟส 4 ต้องเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ไม่ได้ว่าท่านไม่มีความรู้ความสามารถนะครับ แต่เลขาสมช. ท่านเคยเป็นผู้ประกอบการอยู่ในโลกธุรกิจจริงๆ อะไรกับเค้าบ้างไหม เข้าใจเหตุผลความจำเป็น ข้อจำกัด ผลกระทบของแต่ละกิจการบ้างหรือไม่
จะชี้แจงว่าในกรรมการชุดดังกล่าว มีภาคเอกชนนักธุรกิจร่วมคิดร่วมพิจารณา - ก็พ่อค้าเหล่านั้น เมื่อนั่งร่วมวงประชุมกับฝ่ายความมั่นคง เค้าจะกล้าขัดใจได้ยังไง
เสนอความเห็นก็ว่ากันไปล่ะครับ แต่บทจะตัดสินใจก็คงแล้วแต่เลขาฯ สมช. เพราะคนก็คงคิดว่ารับธงมาอีกต่อหนึ่ง นี่สำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหมจะป้องกันการระบาดระลอก 2 อีกแล้ว ไม่ใช่มั้งครับ
หน่วยงานสาธารณสุข อสม. ผสส. เค้าทำกันอยู่ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายท้องถิ่นเค้าก็สนับสนุนได้ ไม่ใช่เอะอะอะไรฝ่ายความมั่นคงก็จะมายืนอยู่แถวหน้า ประชาชนเค้าจะครหาเอานะครับว่าในวิกฤตฝ่ายความมั่นคงคิดจะหาเศษหาเลยตลอดเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็คงไว้คร่อมการเคลื่อนไหวแสดงสิทธิเสรีภาพของประชาชน อ้างโควิด-19 จะล้วงเข้าไปในข้อมูลส่วนตัวการใช้โทรศัพท์ของประชาชน
เวลาพูดท่านก็บอกว่าสถานการณ์นี้ต้องการความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจ รัฐก็ต้องทำให้ประชาชนไว้ใจด้วยครับถึงจะได้รับความร่วมมือ
- กลิ่นไม่ค่อยดี งบ 4 แสนล้าน
ส่วนงบเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจที่จะผลักดันไปสู่ชุมชน 4 แสนล้านบาท ฝากท่านนายกฯ และฝากพี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาเถอะครับ ขณะนี้เริ่มมีกลิ่นไม่ค่อยสู้ดีแล้ว ทั้งที่เค้าพูดกันในสภาว่าจะจัดแบ่งให้ส.ส.รายละ 80 ล้านบาทหรือกระทั่งเวลานี้เริ่มมีกระแสข่าวนักการเมืองบางกลุ่มบางพรรคไปเจรจากับผู้นำองค์กรปกครองท้องถิ่น จะเข้าไปมีส่วนกับการพิจารณาเสนอโครงการ ต้องรู้ไว้นะครับว่างบประมาณเงินกู้ก้อนนี้ ถ้าเป็นที่อยู่ที่กินของฝ่ายการเมืองหรือกลุ่มผู้มีอำนาจเมื่อไหร่ ประเทศจะพังพินาศและคนทั้งชาติจะไม่มีกิน
ไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายโวยวายไปก่อนเกิดเหตุล่ะครับ เพียงแต่ได้ยินได้ฟังมาก็ต้องเตือนดังๆ กันตรงนี้'นายณัฐวุฒิกล่าว
(ทีมงาน)
ผมไม่เคยรู้จักคุณวันเฉลิม แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องส่วนตัว การอุ้มหายไม่ควรเกิดขึ้นกับใครก็ตาม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลทางการเมืองหรือเหตุผลอื่นๆ และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว เป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องติดตามตรวจสอบความจริง อำนวยความยุติธรรมให้กับผู้ถูกกระทำและผู้สูญเสีย
กรณีคุณวันเฉลิม มีคำถามว่าทำไมเกิดปฏิกิริยาเป็นแรงกระเพื่อมมากกว่ากรณีอุ้มหายในหลาย ๆ ครั้ง
ข้อสันนิษฐานหนึ่งน่าจะเป็นเพราะมันเกิดขึ้นในหลายครั้ง เสียงเรียกร้องทวงถามจึงดังขึ้นตลอดเวลา เพื่อที่จะแสดงจุดยืนว่าไม่ควรมีเหยื่ออุ้มหายรายต่อไปและเหยื่อทุกรายควรได้รับความยุติธรรม
ขอแสดงความห่วงใยต่อคุณวันเฉลิมและส่งกำลังใจไปยังครอบครัวและญาติมิตรทุกคน แม้ว่าส่วนใหญ่จะประเมินชะตากรรมของคุณวันเฉลิมคล้าย ๆ กัน
สถานการณ์ในพรรคพลังประชารัฐยังคงพัฒนาต่อเนื่อง ล่าสุดท่าทีของ 4 กุมาร ดูเหมือนจะฝากความหวังไว้ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แม้แต่คุณสุวิทย์ เมษินทรีย์ ซึ่งโพสต์ข้อความทำนองจะถอดใจ ยังให้สัมภาษณ์ทิ้งท้ายว่าสำหรับการจะตัดสินใจลาออกหรืออยู่ต่อ ขอให้ท่านนายกฯ เป็นผู้พิจารณา
นี่คงเป็นความหวังเดียวของกลุ่ม 4 กุมาร ที่จะรับมือศึกนี้ได้ ทั้งที่หลายฝ่ายก็วิเคราะห์ตรงกันว่าสถานการณ์มาถึงวันนี้ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับรู้และไม่เห็นชอบด้วย ไม่มีทางเดินมาได้
18 กรรมการบริหารพร้อมใจยื่นใบลาออก พล.อ.ประวิตรแบะท่าจะเป็นหัวหน้าพรรค เรื่องอย่างนี้มีหรือพี่น้องป.ปลา เค้าจะไม่คุยกัน ดังนั้นทางเลือกของ 4 กุมาร คงเหลือไม่มาก
สำหรับผมคิดว่าข่าวที่ออกมาประมาณว่าจะชวนกันลาออกเพื่อรักษาศักดิ์ศรี น่าจะเป็นทางที่เป็นไปได้มากที่สุดเพราะจะทู่ซี้อยู่ต่อรักษาให้ครบทุกเก้าอี้ คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
พูดง่ายๆ ว่าถ้าเลือกศักดิ์ศรีก็ต้องทิ้งเก้าอี้ ถ้าเลือกเก้าอี้ก็จะไม่เหลือศักดิ์ศรีให้รักษา จะคิดว่ารักษารูปมวยไว้เผื่อได้อยู่ต่อบางเก้าอี้ บางคนอาจจะหลุดจากครม.ไป นั่นก็จะทำให้ 4 กุมารเดินบนถนนทางการเมืองอย่างไม่สง่างามอยู่ดี
คุณอุตตม คุณสนธิรัตน์ คุณสุวิทย์และคุณกอบศักดิ์ต้องไม่เผลอใจคิดไปว่า ตัวเองเป็นคนเสียสละลาออกจากครม.ยุคคสช.มาเพื่อสร้างพรรคพลังประชารัฐ เมื่อสร้างบ้านเสร็จแล้วหลายต่อหลายคนเค้าเห็นด้วยชอบใจ จึงพากันย้ายเข้ามาอยู่
เพราะแท้ที่จริงท่านออกมารับงานสร้างบ้านตามแบบแปลน ตามพิมพ์เขียวที่เค้าวางไว้เสร็จหมดแล้ว เจ้าของบ้านคือคนออกเงิน ดร.สมคิดเป็นผู้รับเหมาแล้วก็มอบหมายให้ 4 กุมารเป็นโฟร์แมนมาคุมงาน ซึ่งคุณชวน ชูจันทร์นั่นล่ะครับ เป็นคนสร้างตัวจริงเค้าทำเอาไว้
เมื่อสร้างบ้านคือพรรคพลังประชารัฐเสร็จ เขาก็ชวนบรรดานักการเมืองทั้งหลายเข้ามาอยู่รวมด้วยกัน ถึงวันนี้เจ้าของบ้านเค้าจะเอาคืน ก็อย่าไปคิดอะไรมากครับ ถือซะว่าในฐานะโฟร์แมน 4 กุมารได้ค่าตอบแทนแล้ว คือการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งสำคัญในกรรมการบริหาร
ถ้าคิดได้แบบนี้ก็จะไม่เครียดนะครับ แต่ถ้าคิดจะอยู่ต่อสู้กันไป รับรองจะเครียดและช้ำหนักกว่านี้หลายเท่า
ดูเอาตั้งแต่สถานการณ์ของดร.สมคิดก็ได้ ล่าสุดออกมาให้สัมภาษณ์ว่าคนดีอยู่ในการเมืองไม่ได้ เท่านั้นล่ะครับ คุณชัยวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คุณวันชัย ส.ส.สงขลาพลังประชารัฐ ออกมาสวนทันทีว่าพูดแบบนี้เอาดีเข้าตัว ทำพรรคเสียหาย
ส.ส. 2 คนนี้ ก่อนหน้านี้ถ้าเทียบกับดร.สมคิด กระดูกห่างกันหลายพ.ศ. แต่วันนี้สวนกันต่อหน้าต่อตาแบบไม่มีเกรงใจ สัญญาณแบบนี้ไม่มีเป็นอย่างอื่นล่ะครับ นอกจากจะไล่กันจนสุดทาง
จะไปหวังให้พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาค้ำเก้าอี้ให้ จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ ก็ในเมื่อพล.อ.ประวิตรออกหน้ามาเต็มหน้าซะขนาดนี้
เกมยึดคืนพรรคพลังประชารัฐคราวนี้ เห็นหน้าคนอื่นบ้างก็เพียงเล็กๆ น้อยๆ ล่ะครับ แต่หน้าพล.อ.ประวิตรบานเต็มเวที พี่น้องนายทหารกลุ่มนี้ ถ้าคิดจะหักกันเรื่องผลประโยชน์ เรื่องอำนาจ
เค้าหักกันนานแล้วล่ะครับ ไม่น่าจะมาหักกันวันนี้
แล้วถ้าประเมินความคิดพล.อ.ประยุทธ์ ไม่แน่นะครับว่าตัวนายกรัฐมนตรีก็อาจจะอยากเปลี่ยนแปลงทีมเศรษฐกิจอยู่พอดี
5-6 ปีที่ผ่านมาภายใต้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของดร.สมคิดและชาวคณะ มีแต่คนในรัฐบาลเท่านั้นล่ะครับที่พากันพูดว่ามาถูกทางแล้วเศรษฐกิจกำลังดี ไปถามชาวบ้าน ถามผู้ประกอบการคนเดินดินกินข้าวแกงทั่วๆ ไป บ่นกันเป็นเสียงเดียวกันว่าแย่
มาถึงช่วงโควิด มีเงินแจกชาวบ้านยังโดนด่าเละไม่มีชิ้นดี เรื่องพวกนี้ไม่มีใครรู้เต็มอกเท่าคนเป็นนายกรัฐมนตรีล่ะครับ
ดังนั้น แทนที่จะไปหวังให้พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตรหักกัน ประเมินใหม่ว่าอาจจะเป็นเรื่องสมเจตนาของทุกฝ่าย ฝ่ายหนึ่งก็ได้คุมสภาพการนำในพรรคพลังประชารัฐเต็มไม้เต็มมือ อีกฝ่ายก็จะได้เปลี่ยนทีมเศรษฐกิจเสียที
แต่ก็น่าสนใจมากอยู่เหมือนกันนะครับ สถานการณ์มาถึงวันนี้ ใครจะมานั่งเก้าอี้คุมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ถ้าจะให้บรรดาลูกหาบ พล.อ.ประวิตร ตามที่มีรายชื่อในสื่อก็ขนลุกพิลึกเพราะบางคนถูกมองว่าเป็น 'ทีมเศรษฐโกย' มากกว่า 'ทีมเศรษฐกิจ'
ขณะที่ถ้าจะไปเจรจาเอานักบริหารคนนอกเข้ามาซึ่งผมยืนยันนะครับว่ามีการทาบทามกันอยู่แล้วจริง อย่างน้อย 2 ป.ปลาที่เคยพูดไป หรืออาจจะมีคนอื่นๆ อีกก็ตาม คนที่ถูกทาบทามก็คิดหนัก
เพราะรัฐบาลโดยการนำของพล.อ.ประยุทธ์ รื้อทีมเศรษฐกิจมาแล้วอย่างน้อย 2 ชุด คือ ทีมหม่อมอุ๋ย และ กำลังจะเป็นทีม ดร.สมคิด ใครเข้ามารับมือกับวิกฤตหลังโควิด มั่นใจเหรอครับว่าจะเอาอยู่และอยู่ได้
เรื่องยุ่งๆ ที่เกิดจากสภาพเศรษฐกิจและซ้ำเติมด้วยโรคระบาดมันก็เลยยุ่งเข้าไปใหญ่ เมื่อเกิดจากความต้องการทางการเมืองของคนในพรรคและในรัฐบาล
ถ้าใครจะมองหาว่า สถานการณ์ที่เค้าขัดแย้งแก่งแย่งกันอยู่นี้ ผลประโยชน์ของประชาชนอยู่ตรงไหน แนะนำให้ไปถามกระทรวงสาธารณสุข ใช้กล้องส่องหาเถอะครับเพราะมันอาจจะเล็กกว่าเชื้อไวรัสก็ได้
บางคนพยายามมองโลกในแง่ดี บอกว่าเกมตบจูบแบบนี้เดี๋ยวก็เคลียร์กันจบ - ไม่จบอะครับ ถ้าจะจบก็จบเฉพาะผลประโยชน์ทางการเมืองของคนในพรรคและในรัฐบาลที่อาจจะจูนกันลงตัว
แต่สำหรับในใจประชาชนมันจบไม่ลงหรอกครับ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นใบเสร็จยืนยันว่า นี่คือเกมแย่งชิงอำนาจทางการเมืองโดยแท้
เมื่อ 3 มิตร เปิดเกมรุกเต็มตัว ถ้า 4 กุมารเล่นเกมการเมืองจนสมประโยชน์กันเพื่อรักษาเก้าอี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำเน่ากำลังสู้กับน้ำครำ คนช้ำก็คือประชาชนอยู่ดี
แต่ที่จะช้ำหนักหน่อย น่าจะเป็นคนที่เป่านกหวีดเรียกพวกนี้มานั่นล่ะครับ
- 'กลาโหม' ยอมรับล้วงโทรศัพท์ประชาชน
อีกเรื่องใหญ่คือ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหมออกมายอมรับว่าทำหนังสือขอข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของประชาชน อ้างว่าเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอกที่ 2 ใครจะเชื่อก็เชิญนะครับ แต่ผมไม่มองอย่างนั้นน่ะ มันเรื่องอะไรที่กระทรวงกลาโหมจะต้องเข้ามาล้วงลึกถึงข้อมูลของประชาชน สำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหมตัดสินใจทำแบบนี้ได้เองเลยหรือ หรือว่ามีใครเป็นคนสั่ง แล้วหนังสือที่ว่า ออกไปแล้วเป็นเดือน ถ้าไม่มีนักวิชาการเค้าไปได้มาแล้วออกมาเปิดเผยความจริง ประชาชนทั้งประเทศก็ยังไม่รู้จนปัจจุบัน
เจตนาซุกซ่อน การกระทำลับๆ ล่อๆ จะให้ประชาชนเกิดความไว้วางใจได้ยังไง ไอ้แบบนี้แอพฯ ไทยชนะที่ใช้เวลาจะเข้าห้างร้านหรือกิจการต่างๆ ก็กลายเป็นปัญหา จากไทยชนะจะกลายเป็นไทยชะงัก
เพราะคนที่จะเข้าก็รู้สึกลังเลว่า ถ้าสแกนไปแล้วจะเพลี่ยงพล้ำอะไรให้รัฐบาลหรือเปล่า นี่ใจคอเราจะควบคุมโรคระบาดด้วยหน่วยงานความมั่นคงกันจริงๆ น่ะเหรอครับ
บทบาทของกระทรวงสาธารณสุข เป็นหลักเรื่องตรวจหาเชื้อ คัดแยกและรักษาผู้ป่วย แต่ส่วนงานอื่นๆ สังเกตดูเถอะครับ ฝ่ายความมั่นคงเข้ามาเอี่ยวและมีบทบาทสำคัญทั้งสิ้น
ผมยังไม่เข้าใจจนเดี๋ยวนี้ว่าทำไมคนที่นั่งหัวโต๊ะในการพิจารณาจะให้เปิดกิจการอะไรได้บ้าง คลายล็อคเฟส 1 เฟส 2 เฟส 3 เฟส 4 ต้องเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ไม่ได้ว่าท่านไม่มีความรู้ความสามารถนะครับ แต่เลขาสมช. ท่านเคยเป็นผู้ประกอบการอยู่ในโลกธุรกิจจริงๆ อะไรกับเค้าบ้างไหม เข้าใจเหตุผลความจำเป็น ข้อจำกัด ผลกระทบของแต่ละกิจการบ้างหรือไม่
จะชี้แจงว่าในกรรมการชุดดังกล่าว มีภาคเอกชนนักธุรกิจร่วมคิดร่วมพิจารณา - ก็พ่อค้าเหล่านั้น เมื่อนั่งร่วมวงประชุมกับฝ่ายความมั่นคง เค้าจะกล้าขัดใจได้ยังไง
เสนอความเห็นก็ว่ากันไปล่ะครับ แต่บทจะตัดสินใจก็คงแล้วแต่เลขาฯ สมช. เพราะคนก็คงคิดว่ารับธงมาอีกต่อหนึ่ง นี่สำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหมจะป้องกันการระบาดระลอก 2 อีกแล้ว ไม่ใช่มั้งครับ
หน่วยงานสาธารณสุข อสม. ผสส. เค้าทำกันอยู่ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายท้องถิ่นเค้าก็สนับสนุนได้ ไม่ใช่เอะอะอะไรฝ่ายความมั่นคงก็จะมายืนอยู่แถวหน้า ประชาชนเค้าจะครหาเอานะครับว่าในวิกฤตฝ่ายความมั่นคงคิดจะหาเศษหาเลยตลอดเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็คงไว้คร่อมการเคลื่อนไหวแสดงสิทธิเสรีภาพของประชาชน อ้างโควิด-19 จะล้วงเข้าไปในข้อมูลส่วนตัวการใช้โทรศัพท์ของประชาชน
เวลาพูดท่านก็บอกว่าสถานการณ์นี้ต้องการความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจ รัฐก็ต้องทำให้ประชาชนไว้ใจด้วยครับถึงจะได้รับความร่วมมือ
- กลิ่นไม่ค่อยดี งบ 4 แสนล้าน
ส่วนงบเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจที่จะผลักดันไปสู่ชุมชน 4 แสนล้านบาท ฝากท่านนายกฯ และฝากพี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาเถอะครับ ขณะนี้เริ่มมีกลิ่นไม่ค่อยสู้ดีแล้ว ทั้งที่เค้าพูดกันในสภาว่าจะจัดแบ่งให้ส.ส.รายละ 80 ล้านบาทหรือกระทั่งเวลานี้เริ่มมีกระแสข่าวนักการเมืองบางกลุ่มบางพรรคไปเจรจากับผู้นำองค์กรปกครองท้องถิ่น จะเข้าไปมีส่วนกับการพิจารณาเสนอโครงการ ต้องรู้ไว้นะครับว่างบประมาณเงินกู้ก้อนนี้ ถ้าเป็นที่อยู่ที่กินของฝ่ายการเมืองหรือกลุ่มผู้มีอำนาจเมื่อไหร่ ประเทศจะพังพินาศและคนทั้งชาติจะไม่มีกิน
ไม่ได้มองโลกในแง่ร้ายโวยวายไปก่อนเกิดเหตุล่ะครับ เพียงแต่ได้ยินได้ฟังมาก็ต้องเตือนดังๆ กันตรงนี้'นายณัฐวุฒิกล่าว
(ทีมงาน)