ยูดีดีนิวส์ : 5 มิ.ย. 63 วานนี้ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก คดีหมายเลขดำ อ.968/2561 ที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้องอดีตแกนนำ นปช. และพวกรวม 13 คน จากเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2552
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังที่ออกจากห้องพิจารณาคดีว่า วันนี้ศาลมีคำสั่งเลื่อนการสืบพยานออกไป เนื่องจากจำเลยมาไม่ครบ และจำเลยบางคนทนายความขอถอนตัวเพราะไม่สะดวกในการมาทำหน้าที่
ดังนั้นศาลท่านก็เห็นว่าเมื่อขาดจำเลยบางส่วน บางคนก็ยังต้องตั้งทนายใหม่ ก็เลยเลื่อนไปนัดหนึ่ง เป็นนัดหน้าคือวันที่ 16 มิ.ย. 63 หลังจากนั้นก็จะดำเนินการสืบพยานตามกำหนดนัดเดิม ซึ่งได้มีวันนัดไว้แล้วก่อนหน้าสถานการณ์โรคระบาด COVID-19
นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า คดีนี้ได้มีการไปแจ้งความดำเนินคดี และอัยการมีคำสั่งฟ้องพวกผมไว้อีกรอบหนึ่งที่ศาลพัทยา เราก็ได้มีข้อต่อสู้ว่าเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นเป็นกรรมเดียวกัน คือการชุมนุมเมื่อปี 52 แล้วพวกผมถูกฟ้องอยู่แล้วที่ศาลอาญานี้ การไปสั่งฟ้องอีกครั้งที่ศาลพัทยา ถือว่าเป็นการฟ้องซ้ำหรือไม่
ศาลชั้นต้นที่พัทยาวินิจฉัยว่าเป็นการฟ้องซ้ำ มีคำพิพากษายกฟ้องไปแล้ว ขณะนี้อัยการยื่นอุทธรณ์ ก็อยู่ระหว่างรอคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ ก็คงต้องรอผลที่ศาลอุทธรณ์ ถ้าศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น นั่นก็หมายความว่าการต่อสู้คดีจากการชุมนุมปี 2552 ก็จะมีอยู่ที่ศาลอาญารัชดาฯ นี้เพียงแห่งเดียว
คดีที่พัทยานั้นเป็นการยื่นฟ้องโดยมีพยานหลักฐานชุดเดียวกัน ในเหตุการณ์เดียวกัน จำเลยก็เป็นคนกลุ่มเดียวกันกับที่ถูกฟ้องที่ศาลอาญารัชดาฯ เราจึงเห็นว่าเป็นการฟ้องซ้ำ แล้วก็เบื้องต้นศาลชั้นต้นก็วินิจฉัยไปในทางเดียวกันกับข้อต่อสู้ของฝ่ายจำเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่าคดีนี้มีกรณี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ถูกนำตัวมาส่งฟ้องไม่ทันด้วยหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า กรณีของคุณสุภรณ์เป็นคดีที่ศาลพัทยา ซึ่งตัวของคุณสุภรณ์ก็ไม่ได้อยู่ในกระบวนการพิจารณาคดีแล้ว เนื่องจากเหตุผลดังกล่าว ส่วนในคดีกรุงเทพมหานคร เข้าใจว่าไม่มีชื่อคุณสุภรณ์เป็นจำเลย
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทราบเหตุผลที่ไม่มีการฟ้องนายสุภรณ์หรือไม่ ทั้งที่ชุมนุมอยู่ด้วยกัน นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ เพราะไม่มีชื่อนายสุภรณ์เป็นจำเลยตั้งแต่ต้น
ส่วนที่พัทยาก็อย่างที่ปรากฎเป็นข่าวก่อนหน้านี้ว่าอัยการนำตัวมาฟ้องไม่ทันตามกำหนดเวลา นายณัฐวุฒิกล่าวในตอนท้าย