วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2564

"ยืนหยุดขัง" ผนึกกำลัง "อยู่หยุดขัง" หน้าศาลฎีกา น้องสาวเพนกวินร่วมด้วย เรียกร้องคืนสิทธิประกันตัว

 


"ยืนหยุดขัง" ผนึกกำลัง "อยู่หยุดขัง" หน้าศาลฎีกา น้องสาวเพนกวินร่วมด้วย เรียกร้องคืนสิทธิประกันตัว


วันนี้ (26 เม.ย.64) เวลา 17.30 น. ที่ หน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน กรุงเทพฯ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดยนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดาของ นายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือ น้องเฌอ ผู้ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการสลายการชุมนุมเสื้อแดง เมื่อปี 2553 นัดหมายทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ "ยืนหยุดขัง ปล่อยตัวเพื่อนเรา" เป็นกิจกรรมดาวกระจาย ต้านภัยโควิด 19 เป็นเวลา 1.12 ชม. ซึ่งนับป็นวันที่ 34 เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังจากการทำกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งได้ประกาศจัดทุกวันจนกว่าเพื่อนจะได้รับอิสรภาพ 


วันนี้ยังคงมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยมีการยืนเว้นระยะห่าง และสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกราย โดยมีการปรับลดเวลาจากเดิม 112 นาที เหลือ 1 ชั่วโมง 12 นาทีมาตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา โดยผู้ร่วมกิจกรรมจะอยู่ในพื้นที่ที่เชือกกั้นซึ่งจำกัด 40 คน แต่ผู้ที่เกินจากลำดับ 40 ได้พากันยืนริมรั้วศาลฎีกา นอกพื้นที่กั้น โดยเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด พร้อมทั้งมีการนำภาพแสตนดี้ผู้ต้องขัง อาทิ ภาพนายพรหมศร วีระธรรมจารี  หรือ ฟ้า, นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่, นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง เป็นต้น


โดยรูปแบบการยืนก็เหมือนเช่นทุกครั้ง คือประกอบกับการแสดงออกทางสัญลักษณ์ด้วยการยืนชูสามนิ้ว และถือป้ายข้อความแทนเสียงการเรียกร้องรวมทั้งรูปนักโทษการเมือง สะท้อนด้วยการร่วมกันส่งเสียงดังด้วยการยืนเฉย ๆ เพื่อปล่อยผู้ต้องขังจากกิจกรรมทางการเมือง  


ซึ่งมีการวัดอุณหภูมิที่จุดพยาบาลและล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ สวมใส่หน้ากากอนามัยทุกราย อย่างไรก็ตาม นอกพื้นที่เชือกกั้นซึ่งจำกัด 40 คน มีประชาชนที่มีความประสงค์เข้าร่วมกิจกรรม ต่างยืนเว้นระยะห่างถือ รูปภาพและป้ายข้อความอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งมีอาสาคอยเดินฉีดแอลกอฮอล์ล้างมือ


ทั้งนี้บรรยากาศหน้าศาลฎีกาในวันนี้นอกจากมีกลุ่มพลเมืองโต้กลับ จัดกิจกรรม "ยืนหยุดขัง" แล้วยังมี "แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม" ได้จัดกิจกรรม "อยู่หยุดขัง"  ร่วมกับกลุ่มพรรควิฬาร์ ของนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นคืนที่ 2 ด้วย


หลังจากวานนี้ได้ ประกาศเปิดตัวกิจกรรมปักหลักหน้าศาลฎีกา (อยู่หยุดขัง) พร้อมการรวบรวมรายชื่อทวงคืนความเป็นธรรม


โดยสถานการณ์ทั่วไป มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม เดินตรวจตราความเป็นเรียบร้อยเป็นระยะ ๆ ทั้งนี้ทางกลุ่มแนวร่วมมธ.ฯ ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย เจลล้างมือ สำหรับผู้ร่วมลงชื่อ โดยในคืนนี้ "พ้อย" น้องสาวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ประกาศร่วมกิจกรรมโดยค้างคืนหน้าศาลฎีกาด้วย


โดย "พ้อย" น้องสาวนายพริษฐ์ ได้ร่วมกิจกรรมผูกโบว์ขาวบริเวณฝั่งประตู 3 ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ศาลฎีกาเฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจะร่วมปักหลักค้างในคืนนี้  น้องสาวนายพริษฐ์กล่าวว่า เราคิดว่าตั้งแต่ที่เรามานอนค้างข้างหน้าศาลฎีกา รวมถึงการผูกโบว์ในวันนี้ เพื่อเป็นการแสดงออกว่าเราจะไม่ยอมรับความอยุติธรรมที่พี่ชายและเพื่อนเรากำลังเจออยู่ คิดว่าเป็นการประท้วงแสดงออกอย่างหนึ่ง 


ภายในอาทิตย์นี้คิดว่าศาลควรจะให้ประกัน เพราะทั้งพี่ไผ่และอาสมยศก็กระทำในลักษณะเดียวกัน และศาลยังไม่ได้ตัดสินว่ามีความผิด เพนกวินอ่อนแรงจากการอดอาหาร อีกทั้งราชทัณฑ์ปล่อยให้มีเชื้อโควิดมาระบาด แสดงว่ากรมราชทัณฑ์ไม่มีความรับผิดชอบ บกพร่องต่อหน้าที่ ทำให้เชื้อเข้ามาระบาดในนี้ หากคุณไม่มีรับความรับผิดชอบ ก็ควรจะปล่อยเขาออกมาให้เราได้ดูแล ทุกคนตอนนี้ควรจะได้ประกันแบบไม่มีเงื่อนไขด้วย


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ยืนหยุดขัง #พลเมืองโต้กลับ #แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม


ประมวลภาพ