วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564

ศาล ให้ประกัน “หมอลำเเบงค์” วงเงิน 2 แสน มีเงื่อนไขห้ามพูดถึงสถาบันกษัตริย์ในทางเสื่อมเสีย ส่วน ไผ่ - สมยศ ยกคำร้องเพราะมีพฤติการณ์เป็นอุปสรรคต่อการพิจารณาหลังถอนทนายความและไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม

 


ศาล ให้ประกัน “หมอลำแบงค์ วงเงิน 2 แสน มีเงื่อนไขห้ามพูดถึงสถาบันกษัตริย์ในทางเสื่อมเสีย ส่วน ไผ่ - สมยศ ยกคำร้องเพราะมีพฤติการณ์เป็นอุปสรรคต่อการพิจารณาหลังถอนทนายความและไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม


วันที่ 9 เม.ย. 64 จากข่าวแจกสื่อมวลชนของศาลอาญา แจงรายละเอียดในการให้และไม่ให้ประกันจำเลย โดยความรายละเอียดดังนี้


ศาลอาญา


วันนี้ (วันที่ 9 เมษายน 2564) เวลา 11 นาฬิกา ศาลอาญาอ่านคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในคดีอาญาหมายเลขดำที่ 287/2564 ระหว่างพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด โจทก์ และ นายพริษฐ์หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ กับพวกรวม 22 คน ตามที่ทนายความยื่นคำร้องขอให้ศาลปล่อยชั่วคราวนายปติวัฒน์หรือหมอลำแบงค์ สาหร่ายแย้ม จำเลยที่ 3 นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 4 และนายจตุภัทร์หรือไผ่ดาวดิน บุญภัทรรักษา จำเลยที่ 7 เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2564 ศาลอาญาได้ไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวแล้วมีคำสั่งว่า พิเคราะห์จากคำแถลงและการไต่สวนตามคำร้องของนายปติวัฒน์หรือหมอลำแบงค์ สาหร่ายแย้ม จำเลยที่ 3 ประกอบกับคำรับรองของผู้ที่เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ 3 แล้ว น่าเชื่อว่าจำเลยที่ 3 จะไม่ไปก่อเหตุอันตรายประการอื่นได้อีก จึงอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกันสองแสนบาท โดยไม่เงื่อนไขห้ามมิให้จำเลยที่ 3 กระทำการในลักษณะเช่นเดียวกับที่จำเลยที่ 3 ถูกกล่าวหาตามฟ้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ซ้ำอีก หรือไปร่วมกิจกรรมที่อาจทำให้เสื่อมเสียแก่สถาบันพระมหากษัตริย์ ห้ามจำเลยที่ 3 เดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากศาล และให้จำเลยที่ 3 มาศาลตามกำหนดนัดโดยเคร่งครัด ก่อนปล่อยตัวจำเลยที่ 3 แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ


ในส่วนของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข จำเลยที่ 4 และนายจตุภัทร์หรือไผ่ดาวดิน บุญภัทรรักษา จำเลยที่ 7 แม้จะให้ถ้อยคำในชั้นไต่สวนขอปล่อยชั่วคราวเช่นเดียวกับจำเลยที่ 3 แต่กลับปรากฏข้อเท็จจริงในภายหลัง ว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2564 ศาลนัดสอบคำให้การตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยานคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ 287/2564 จำเลยที่ 4 และที่ 7 และทนายจำเลยที่ 4 และที่ 7 ไม่ยอมลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณาโดยไม่มีเหตุอันสมควร มีเพียงจำเลยที่ 3 และทนายความจำเลยที่ 3 เท่านั้นที่ลงลายมือชื่อในรายงานกระบวนพิจารณา ปรากฏตามรายงานเจ้าหน้าที่ และรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ 8 เมษายน 2564 ทั้งทนายจำเลยที่ 4 และที่ 7 นำรายงานกระบวนพิจารณาไปเขียนข้อความเพิ่มเติมโดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาล ระบุว่า “ทนายความจำเลยที่ 1 ที่ 2 และที่ 4 ถึงที่ 22 ไม่ขอลงชื่อในรายงานกระบวนพิจารณา เนื่องจากไม่ยอมรับกระบวนพิจารณา” กับมีพฤติการณ์จะไม่ยอมไปกำหนดวันนัดสืบพยานที่ศูนย์นัดความ และยื่นคำร้องขอถอนทนายความ ทำให้การกำหนดวันนัดสืบพยานเป็นด้วยความยากลำบาก ซึ่งเป็นอุปสรรคและก่อให้เกิดความเสียหายต่อการดำเนินคดีในศาล ข้อความและคำแถลงของจำเลยที่ 4 และที่ 7 ว่าจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่แถลงไว้ต่อศาล จึงไม่น่าเชื่อถือว่าสามารถปฏิบัติตามทีแถลงไว้ต่อศาลได้ ในชั้นนี้ไม่อนุญาตให้ปล่อยจำเลยที่ 4 และที่ 7 ชั่วคราว ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ 4 และที่ 7

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์