วันจันทร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2564

เบิกตัว"เพนกวิน”ขึ้นศาลคดี 112 จากการชุมนุมม็อบเฟส "ทนาย-แม่" เผยจะแจ้งเรื่องมีผู้ใหญ่หลายคนส่งความห่วงใยมาถึงให้ยุติการอดอาหาร

 


เบิกตัว "เพนกวิน" ขึ้นศาลคดี 112 จากการชุมนุมม็อบเฟส "ทนาย-แม่" เผยจะแจ้งเรื่องมีผู้ใหญ่หลายคนส่งความห่วงใยมาถึงให้ยุติการอดอาหาร


วันนี้ (19 เม.ย. 64) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดตรวจหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.286/2564 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยในความผิดฐานหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตาม ป.อาญา ม.112 กรณีจำเลยร่วมชุมนุมปราศรัยกลุ่มม็อบเฟสต์ เมื่อวันที่ 14-15 พ.ย. 63 ที่แยกคอกวัว และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนินกลาง 


โดยศาลเบิกตัวนายพริษฐ์ จำเลย ซึ่งอดอาหารประท้วง ไม่ได้รับการประกันตัวคดีชุมนุม 19-20 ก.ย. 63 และถูกแจ้งข้อหาตาม ม.112 จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาศาล




ขณะที่บรรยากาศที่ศาลอาญาช่วงเช้าที่ผ่านมา นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนได้เดินทางมาพร้อมกับ นางสุรีรัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของนายพริษฐ์ นอกจากนี้ได้มีบรรดาเพื่อน ๆ ของนายพริษฐ์เดินทางมาให้กำลังใจด้วย


โดย นายกฤษฎางค์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า วันนี้เป็นการนัดตรวจพยานหลักฐานจากกรณีที่นายพริษฐ์ร่วมชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และถูกฟ้อง ม.112 เพียงคนเดียว สำหรับการนัดตรวจพยานหลักฐานวันนี้มีจำเลยเพียงคนเดียวคือนายพริษฐ์ ตนเองจึงมีความกังวลว่าราชทัณฑ์จะให้ทนายความเข้าห้องพิจารณาคดีเพื่อพบปะกับลูกความหรือไม่ เพราะมีหลายประเด็นที่ต้องพูดคุยและหารือกับนายพริษฐ์ เกี่ยวกับแนวทางในการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม


โดยก่อนหน้านี้ ทนายความระบุว่า เคยยื่นขอต่อศาลให้นำนายพริษฐ์ไปรักษาตัวที่สถานพยาบาลที่ผู้เป็นแม่รู้สึกมีความมั่นใจเกี่ยวกับรูปแบบของการรักษา แต่ศาลก็ไม่อนุญาต ซึ่งทนายความเองได้พยายามปรึกษากับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้นายพริษฐ์ได้รับการรักษาตัวจากการอดอาหาร โดยจะกำหนดเงื่อนไขอย่างไรก็ได้ ซึ่งส่วนนี้ถือเป็นสิ่งที่นางสุรีรัตน์ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการประทุษร้ายในเรือนจำอยู่ด้วย ซึ่งวันนี้ตนเองจะไปพูดคุยกับนายพริษฐ์ เพื่อขอให้ยุติการอดอาหาร เนื่องจากมีผู้หลักผู้ใหญ่ฝากความห่วงใยมา แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ใจของนายพริษฐ์ด้วย เพราะจากการที่เจอครั้งล่าสุดที่นายพริษฐ์บอกกับทนายความว่า เขาไม่ได้ทำร้ายใคร แต่เป็นการทำร้ายตนเอง และสิ่งที่กระบวนการยุติธรรมทำร้ายเขา มันคือการไปทำร้ายคนอื่นที่ไม่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวทั้งปัจจุบันและอนาคตด้วย




ขณะที่ นางสุรีรัตน์ ระบุว่า วันนี้ตั้งใจเดินทางมาพบหน้าลูกชาย เพื่อถามลูกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง และอยากได้ยินจากปากลูกเอง เพราะในช่วงที่ผ่านมามีข่าวว่าลูกชายมีอาการวูบ เป็นลม น้ำตาลตก และเลือดไหลออกจากสายน้ำเกลือ ทำให้ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงลูกชายมาก อยากขอโอกาสและเวลาพูดกับลูกบ้าง โดยวันนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่จะได้เจอลูก เพราะไม่ทราบว่าลูกจะได้มาศาลอีกครั้งวันไหน ส่วนการออกมาทำกิจกรรมของตนเอง เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวลูกชาย ก็ส่งผลต่อการทำงาน แต่ก็พยายามแบ่งเวลาไปทำงานในช่วงกลางดึกแทน เพื่อหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว ถึงแม้จะเหนื่อยแต่ก็จะสู้ต่อไปอย่างมีความหวัง  


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์