วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2564

แนวร่วมกลุ่มราษฎรและเครือข่าย ยื่นจดหมายถึง 3 สถานทูตให้ติดตามสถานการณ์การเมือง-สิทธิมนุษยชนไทย หวังให้เข้าเยี่ยมราษฎรในเรือนจำ

 


แนวร่วมกลุ่มราษฎรและเครือข่าย ยื่นจดหมายถึง 3 สถานทูตให้ติดตามสถานการณ์การเมือง-สิทธิมนุษยชนไทย หวังให้เข้าเยี่ยมราษฎรในเรือนจำ

 

วันนี้ (30 เม.ย. 64) เวลา 10.00 น. แนวร่วมกลุ่มราษฎร นำโดย สิรภพ อัตโตหิ หรือ แรปเตอร์, ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์, จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ หรือ อั๋ว, บอย ธัชพงศ์ แกดำ รวมทั้งสมาชิกจาก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม, กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย DRG, ศิลปะปลดแอก, เยาวชนปลดแอก, ราษฎร, Root, We Volunteer และเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือต่อสถานทูต  3 แห่ง ได้แก่ สถานทูตสหรัฐอเมริกา สถานทูตเยอรมัน และสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เพื่อเรียกร้องให้ทั้ง 3 สถานทูตติดตามสถานการณ์และเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีในมาตรา 112 และยังไม่ได้รับการประกันตัว โดยเฉพาะ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ซึ่งได้อดอาหารและมีอาการป่วย เกรงว่าจะไม่ได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรม

 

โดยบรรยากาศในวันนี้ผู้ชุมนุมได้ถือป้ายข้อความว่า “I’ve lost faith in this broken system”, อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชน สิทธิการประกันตัวเป็นของประชาชน, ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ไม่ใช่อาชญากรรม

 

โดยสิรภพ อัตโตหิ หรือ แรปเตอร์ เปิดเผยว่ามีวัตถุประสงค์ ต้องการให้สถานทูตติดตามสถานการทางการเมืองและปัญหาของประเทศไทย ที่มีการเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษทางการเมือง ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนจะต้องได้รับสิทธิประกันตัวและออกมาต่อสู้คดีตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากทั้ง 7 คน ศาลยังไม่ได้ตัดสินว่าเป็นผู้กระทำผิด จึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยเฉพาะ เพนกวินและรุ้ง ที่อดอาหารและมีอาการป่วยจึงอยากให้ตัวแทนสถานทูตได้เข้าเยี่ยมและได้เห็นด้วยสายตาตัวเองในสิ่งที่เกิดขึ้น

 

ในวันนี้เรายื่นจดหมายโดนมีเนื้อความว่า เราอยากให้สถานทูตฯได้ติดตามปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย รวมถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ถูกคุมขังทางการเมืองอยู่ตอนนี้ ซึ่งเนื้อความในจดหมายได้มีการแจ้งถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและสภาพร่างกายของเพนกวินและรุ้ง ปนัสยา ที่วันนี้เพนกวิน อดอาหารเป็นวันที่ 45 และรุ้งครบ 1 เดือนเรียบร้อยแล้ว สภาพร่างกายในตอนนี้ก็ย่ำแย่ ในเนื้อความจดหมายนอกจากจะให้ติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้ที่ถูกคุมขังในเรือนจำตอนนี้ ด้วยกฎหมายตาม ม.112 และกฎหมายทางการเมืองต่าง ๆ ยังต้องการให้ท่านทูตได้ไปเยี่ยมเพื่อนของเราที่อยู่ในเรือนจำเพื่อจะได้ทราบสถานการณ์ที่เป็นความจริงด้วยสายตาของตัวท่านเอง” นายสิรภพ กล่าว

.

ด้าน มายด์ ภัสราวลี เปิดเผยว่า เบื้องต้นตนเชื่อมั่นว่าทั้ง 3 ประเทศนี้เห็นแก่เรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก ซึ่งรู้สึกว่าตอนนี้ไม่สามารถพึ่งรัฐไทยได้ และตอนนี้รัฐไทยไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับเพื่อนของเราที่อยู่ในเรือนจำและประชาชนที่ถูกจับไปด้วยคดีทางการเมืองเลย ตนจึงอยากจะขยายความ ความจริงที่เกิดขึ้นให้ทั่วโลกได้รับรู้ และช่วยจับตาดูอย่างใกล้ชิดกับคดีทางการเมือง เพราะสถานการณ์โควิด และที่รัฐบาลไทยอยากให้เรื่องนี้ดูเงียบ ๆ ไปด้วย จึงอยากขยายเรื่องนี้ให้ดังอยู่ตลอดเวลา เพราะเพื่อนของเรายังไม่ได้รับความยุติธรรม สำหรับส่วนตัวของภัสราวลีเอง ไม่ได้มีความกังวลที่จะถูกขัง ถ้าหากถูกขังจริง ก็เป็นที่ตอกย้ำให้รู้ว่าประเทศมีความยุติธรรมมากแค่ไหน ทำให้ต่างชาติได้รู้ว่ารัฐไทยได้ใช้กฎหมายปิดกั้นเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกทางการเมือง ซึ่งตนยืนยันสิ่งที่ทำเป็นสิ่งที่ทำได้ตามกฎหมายตามระบอบประชาธิปไตย

 

ทั้งนี้ด้านการดูแลความปลอดภัยนั้นทางตำรวจได้จัดกำลังมาคอยดูแลความเรียบร้อยตามปกติ ไม่มีเหตุการณ์ความวุ่นวายเกิดขึ้นแต่อย่างใด

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์


ประมวลภาพ