วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2565

“ณัฐวุฒิ” ชี้! “เนวิน” ประกาศพร้อมจับมือทุกขั้ว เป้าหมายยก “อนุทิน” เป็นนายกฯ “เพื่อไทย” ต้องเดินหน้าประกาศนโยบายให้ชัดเพื่อแลนด์สไลด์ ตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง!

 




“ณัฐวุฒิ” ชี้! “เนวิน” ประกาศพร้อมจับมือทุกขั้ว เป้าหมายยก “อนุทิน” เป็นนายกฯ “เพื่อไทย” ต้องเดินหน้าประกาศนโยบายให้ชัดเพื่อแลนด์สไลด์ ตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง!


วันที่ 27 ธันวาคม 2565 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้กล่าวในรายการ หัวใจไม่หยุดเต้น EP.62 ซึ่งเผยแพร่ทางยูทูปช่อง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ Official ตอน “ไม่เล่นเกมตีไพ่จับมือเพื่อไทย เดินหน้าแลนด์สไลด์ ฝ่ายประชาธิปไตยตั้งรัฐบาล” โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า


ชัดเจนแล้วนะครับว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ที่ยังไม่ชัดก็คือไม่รู้ว่าชาติหนี้หรือชาติหน้า กระนั้นก็ตามบรรดาลูกน้องลูกหาบวี้ดว้ายกระตู้วู้ ประกาศตัวเข้าร่วมพรรคกันเป็นขนานใหญ่


แต่ที่ผมยังเจ็บใจแทนไม่หายคือ พล.อ.ประวิตรกับพรรคพลังประชารัฐนี่แหละครับ คือ พล.อ.ประยุทธ์ นอกจากไปแน่ ๆ แล้ว ยังตั้ง คุณพีระพันธุ์ หัวหน้าพรรคใหม่ มาทำหน้าที่เลขาธิการนายกฯ บริหารงบกลางในโค้งสุดท้ายก่อนยุบสภา แต่กับเก้าอี้รัฐมนตรี 2 ที่นั่งที่ปลดไปจากพลังประชารัฐไม่ตั้งคืนให้เขา ของประชาธิปัตย์ตั้ง คุณนริศ ขำนุรักษ์ ไปได้ แต่ของพลังประชารัฐไม่ยอมตั้งให้ งานนี้ถ้า พล.อ.ประวิตรและคนพรรคพลังประชารัฐ ไม่รู้สึกเจ็บก็เกินไปล่ะครับ!!!


การเมืองจากนี้ในมุมแคบ ๆ คือสัมพันธภาพระหว่าง 3ป ปฏิสัมพันธ์ระหว่าง “พรรคพลังประชารัฐ” กับ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” จึงน่าจับตามองนะครับ เพราะนายกฯ จะลงพื้นที่ เลขาธิการนายกฯ จะทำอะไร เท่ากับเป็นการหาเสียงให้กับพรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นใหม่ “พลังประชารัฐ” ก็มองตาปริบ ๆ เราจึงเห็นภาพการลงพื้นที่ไล่หลังกันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร อยู่เนือง ๆ ประเภทพื้นที่เดียวกัน จังหวัดเดียวกัน ไปซ้ำกัน อย่างนี้แหละครับเป็นสัญญาณว่า ยิ่งใกล้วันยุบสภา การขับเคี่ยวของสองพรรคก็จะยิ่งเข้มข้นขึ้น


ส่วนส.ส.พลังประชารัฐที่จะย้ายไปอยู่กับประยุทธ์ หรือปักหลักอยู่กับประวิตร มันก็มีข้อพิจารณาบางประการนะครับ คือประยุทธ์มีกระแส แต่ประวิตรมีกระสุน ดังนั้นนักการเมืองที่ต้องการอิงกระแสก็คงจะถลาไปหาประยุทธ์ แต่นักการเมืองที่แข็งแรงในพื้นที่อาจจะปักหลักอยู่กับพล.อ.ประวิตร อาศัยกระสุนและทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์กลับเข้าสภาอีกครั้งก็เป็นได้


ส่วนในภาพใหญ่ก็ชัดนะครับว่าการเมืองไทยจะเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง ยุบสภาเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นล่ะครับ ส่วนผลการเลือกตั้งก็จะนำไปสู่ 2 ทางแยก 1) อำนาจรัฐยังคงอยู่กับขั้วรัฐบาลเดิม 2) เกิดความเปลี่ยนแปลง พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยสามารถตั้งรัฐบาลได้


เงื่อนไขสำคัญก็คือ “พรรคเพื่อไทย” แลนด์สไลด์ได้จริงหรือเปล่าในสนามเลือกตั้ง

 

ถ้า “เพื่อไทย” แลนด์สไลด์ได้ เงื่อนไขต่อไปก็คือ การตัดสินใจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของ ส.ว. 250 คน ที่ประวิตรเลือกให้ประยุทธ์ตั้ง


ผมเชื่อว่าถ้าแลนด์สไลด์กันจริง ๆ จะเห็นส.ว. 250 คน อยู่กับ 3ป ครับ 1) อยู่กับประยุทธ์ 2) อยู่กับประวิตร และ 3) อยู่เป็น


ประเภท “อยู่เป็น” นี่หมายความว่า พอเห็นเขาแลนด์สไลด์ จะยกมือไปสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์อย่างเก่าก็กระไรอยู่ เพราะกระแสสังคม กระแสของประชาชนคงจะกดดันเข้ามา จุดนี้อาจจะรวมตัวกันยกมือสนับสนุนให้กับ “พรรคเพื่อไทย” เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และอย่าประมาทนะครับ ผมเชื่อว่าถึงเวลา ส.ว. กลุ่มนั้นน่าจะมีจำนวนไม่น้อย เราไม่ได้พูดกันเรื่องจุดยืนหรืออุดมการณ์นะครับ เราพูดกันเรื่อง “อยู่เป็น” ล้วน ๆ


ส่วนการขยับตัวของพรรคการเมืองต่าง ๆ ก็ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด พรรคเล็กกับพรรคเกิดใหม่ ผมว่ายังเป็นโจทย์ยากที่จะเดินเข้าสู่สนามเลือกตั้งอย่างแข็งแรงได้


ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน ผมคิดว่า “ชาติไทยพัฒนา” คล่องตัว เคลื่อนที่เร็ว และง่ายที่สุด หากจะต้องมีการจัดขั้วจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง ขณะที่ “พรรคภูมิใจไทย” พลันที่คุณเนวินประกาศพร้อมจับมือกับทุกขั้วทุกข้างแม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยก็ตาม สปอร์ตไลท์ทางการเมืองจับส่องไปยังสองพรรคนี้ทันที


ในมุมมองผมเชื่อว่า คุณเนวินตีไพ่ใบนี้ไม่ได้มีเป้าหมายเรื่องจะเอาเพื่อไทยเป็นรัฐบาลนะครับ แต่ปลายทางสำคัญคือจะเอาคุณอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี อ่านเกมว่าจะเดินไปเสียบตรงกลางแล้วกินทั้งสองข้าง ในกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้คะแนนเลือกตั้งน้อยมาก ไม่สามารถไปต่อได้ และพรรคเพื่อไทยมีปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาล อาจจะด้วยว่าคะแนนเสียงยังไม่มากพอ หรือว่าผู้คุมเกมอำนาจยังไม่สบายใจ ตรงนั้นล่ะครับ “ภูมิใจไทย” อาจจะดันชื่อคุณอนุทินมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เป็นไปได้


ไพ่ใบนี้ไม่ซับซ้อนล่ะครับ เมื่อก้าวเดินก็มองเห็น สำคัญว่า “พรรคเพื่อไทย” อย่าไปเสียสมาธิ กองเชียร์ก็อย่าไปวิตกกังวลครับ มาถึงยกนี้ “เพื่อไทย” มีหน้าที่เดินหน้าเต็มตัว ประกาศนโยบายให้ชัดเจน และไปสู่เป้าหมายแลนด์สไลด์ ตั้งรัฐบาลของฝ่ายประชาธิปไตยให้ได้


ในบริบทการเมืองแบบนี้เชื่อว่าหลังการเลือกตั้งจะมีพรรคการเมืองที่ได้ที่นั่งเกิน 100 ไม่เกินสองพรรค และอันดับ 1 กับอันดับ 2 จะห่างกันไม่ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง นี่จะเป็นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ เป็นการเลือกตั้งที่จะกำหนดทิศทางและอนาคตของประเทศไทยอย่างแท้จริง ถ้าสร้างความเปลี่ยนแปลง เอาพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยตั้งรัฐบาลได้ จะเห็นแสงสว่างรออยู่ข้างหน้า


แต่ถ้าเปลี่ยนแปลงไม่ได้ “ประยุทธ์” กลับมา มืดดำทั้งแผ่นดิน บ้านเมืองเสียหายเสียเวลามา 8 ปี แล้วได้นายทหารกะล่อนคนหนึ่งมาทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี เห็นชัด ๆ กันแบบนี้ แล้วถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยังไปต่อได้ เราจะหวังอะไรกันอีกล่ะครับ!


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ณัฐวุฒิใสยเกื้อ