วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2565

“ณัฐวุฒิ” ฟันธง! คะแนนนิยมทางการเมืองของ “ประยุทธ์” ไม่มีทางเพิ่มขึ้น

 


"ณัฐวุฒิ" ฟันธง! คะแนนนิยมทางการเมืองของ "ประยุทธ์ ไม่มีทางเพิ่มขึ้น

วันที่ 22 ธันวาคม 2565 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้กล่าวในรายการ หัวใจไม่หยุดเต้น EP.61 ซึ่งเผยแพร่ทางยูทูปช่อง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ Official ตอน ไม่มีทางเห็นคะแนนประยุทธ์เพิ่มขึ้น โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า

พล.อ.ประยุทธ์ปรารภในที่ประชุมครม.ว่ารัฐบาลจะอยู่ต่ออีก 3 เดือน! ไม่มีอะไรใหม่ล่ะครับ เพราะอายุรัฐบาลก็อยู่ได้เท่านั้น แต่ผมเชื่อว่าในช่วงเวลาท้าย ๆ จะมีการยุบสภาอยู่ดี เพื่อให้ส.ส.ลูกหาบที่จะย้ายพรรคตามกันไปมีเวลาย้ายได้ตามกฎหมาย


การเมืองชั่วโมงนี้ของพล.อ.ประยุทธ์เรื่องใหญ่สุดก็คือ คิดถึงความปลอดภัยในการรักษาอำนาจ ความปลอดภัยในทางการเมือง รอบคอบมาก คิดหน้าคิดหลัง จนคนเริ่มเห็นอาการลังเล รอบคอบขนาดนี้ไม่ยักเหมือนกรณีเรือหลวงสุโขทัย อะไรก็ไม่ครบไม่มีสักอย่าง ความปลอดภัยทางการเมืองของผู้มีอำนาจมันเทียบไม่ได้กับความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ทหารที่เขาปฏิบัติหน้าที่ หรือยังไงครับ?


มาถึงตรงนี้ คนที่ยังเชียร์พล.อ.ประยุทธ์อยู่ก็ถือเป็นสิทธิ์นะครับ แต่คิดตกหรือยังว่าตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมา คนกลุ่มนี้ทำเพื่อผลประโยชน์ประเทศชาติประชาชนหรือผลประโยชน์ทางการเมืองทางอำนาจของตัวเอง


ที่เล่น ๆ กันอยู่เนี่ยยิ่งกว่านักการเมืองอีกนะครับ เป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคหนึ่ง แล้วก็ไปตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ แล้วทำท่าจะขนย้ายถ่ายโอนส.ส.กันไป นี่ทำเพื่อผลประโยชน์ของใคร?


ตลอดเวลาอายุรัฐบาลนี้มีแต่ข่าวการใช้กล้วยซื้อตัวส.ส. ซื้องู ซื้อคะแนนเสียงโหวตในสภา ถ้ารัฐบาลซื่อสัตย์สุจริตตรงไปตรงมา กล้วยพวกนี้หามาจากไหน


ยังจะเชียร์ก็เชียร์กันไปเถอะครับ แต่ไม่อยากให้หลอกตัวเองเท่านั้นว่ากำลังหลงไหลได้ปลื้มฮีโร่หรือวีรบุรุษที่ไหนอยู่


ล่าสุดประกาศแต่งตั้งคุณพีรพันธุ์ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นอำนาจโดยตรงของนายกฯ ล่ะครับ เชื่อว่าคนในพรรครวมไทยสร้างชาติก็คงมีความสุขแน่ ๆ แต่คนในพรรคพลังประชารัฐ ผมว่าไม่!


ไม่รู้วานาทีนี้หัวอกพล.อ.ประวิตรและพรรคพวกที่ยังอยู่ในพรรค จะเป็นยังไงนะครับ ก็พล.อ.ประยุทธ์แกเล่นเอาแต่ได้ ตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ของตัวเองมาเป็นนายกน้อย คอยบริหารงบกลางในโค้งสุดท้ายของรัฐบาล แต่ทีของพลังประชารัฐ ปลดรัฐมนตรีของเขาไปสองคนนะครับ คือผู้กองธรรมนัสกับคุณนฤมล ป่านนี้ปีกว่า ๆ ยังไม่ตั้งชดเชยให้


ไหนว่ารักกัน ตายแทนกันได้ ทำไมน้องเล็กทำกับพี่ใหญ่แบบนี้???


วันก่อนพล.อ.ประวิตรลงปักษ์ใต้ผัดซีอิ๊วแจกจ่ายประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ลงพื้นที่ตามหลังผัดกะเพราลบรอยตะหลิวพี่ใหญ่ทันที เห็นว่ากระเพรากระทะนี้ใส่หัวใจนายกรัฐมนตรีไปด้วย มิน่า! มีผู้สังเกตการณ์บอกมาว่ากะเพราจานนั้นดำมาก


บอลโลกเพิ่งจบไปนะครับ เมสซี่เล่นมานาน คนทั้งโลกเอาใจช่วย อยากให้ได้แชมป์โลกกับเขาสักที บ้านเรานายกรัฐมนตรีเป็นมาแล้ว 8 ปี คนส่วนใหญ่ก็เอาใจช่วยนะครับ อยากให้เลิกไปซะที ไม่ต้องเอาแชมป์อะไรไปหรอก!!!


อีกมุมหนึ่งที่มีความเคลื่อนไหวต่อเนื่องก็คือ พรรคการเมืองที่ตั้งขึ้นมาใหม่ประกาศตัวเป็นพรรคขั้วกลาง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง เป็นทางออกของสังคม ผมก็รับฟังนะครับ เพียงแต่ในทัศนะส่วนตัวเห็นว่าสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในสังคมไทยมันไม่ใช่เรื่องว่าขั้วไหน ไม่ใช่คำถามว่าเพื่อไทย หรือพลังประชารัฐ หรือพรรคใด แต่เป็นความขัดแย้งในทางโครงสร้าง ซึ่งคำตอบสุดท้ายคืออำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศเป็นของใคร ระหว่างประชาชน หรือคนบางคนบางกลุ่มเท่านั้น


ดังนั้นพรรคการเมืองที่จะเสนอตัวเข้ามาทำหน้าที่ จะบอกว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง จะมุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องอย่างเดียว เอาเข้าจริง ๆ มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ เพราะในที่สุดความขัดแย้งก็จะมีผลต่อการทำหน้าที่ทางการเมืองของทุกคนทุกพรรคอยู่ดี


ผมว่าพูดในทางเป็นจริงที่ชัดเจนกว่า ใครก็ตามที่เดินเข้าการเมืองวันนี้ พรรคการเมืองใดก็แล้วแต่ คือการเอาตัวเข้ามาในความขัดแย้ง แต่ต้องประกาศยืนอยู่กับหลักการที่ถูกต้องและแก้ปัญหาบ้านเมืองให้ไปถูกทิศถูกทางสู่อนาคตที่ดีกว่าภายใต้หลักการที่เป็นสากลให้ได้


ส่วนวิธีการ พรรคไหนจะเดินอย่างไร? ถูกทิศถูกทาง ช้าเร็ว สอดคล้องกับความเป็นจริงแค่ไหน? นำเสนอออกมาให้เจ้าของอำนาจเขาตัดสินใจครับ


ส่วนพรรคฝ่ายค้านหลังปีใหม่คงมีการยื่นอภิปรายรัฐบาลโดยไม่ลงมติ เวทีนี้จะเป็นรถไฟเที่ยวสุดท้ายที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องฝากรอยแผลไว้ให้กับรัฐบาลให้มากที่สุด เป็นการบ้านข้อใหญ่เหมือนกันนะครับ ประชาชนเขาจะได้พิจารณาและตัดสินใจในสนามเลือกตั้ง ถ้าผลงานติดตราตรึงใจก็เชื่อว่าฝ่ายประชาธิปไตยคงจะได้รับการสนับสนุนล้นหลามมากขึ้นไปอีก แต่ถ้าผลงานสู้รัฐบาลเขาไม่ได้ หนักอกหนักใจกันทุกคนอ่ะครับ


การเมืองปีหน้าก็จะเดินไปสู่การเลือกตั้งครับ เราจะเห็นการแยกพรรคกันระหว่างพล.อ.ประวิตรและพล.อ.ประยุทธ์อย่างชัดเจน แต่จะไม่เห็นการแยกทางกันนะครับ เพราะร่วมกันอีกได้ตลอดเวลา เราจะเห็นความตัวใครตัวมันของพรรคร่วมรัฐบาลชัดขึ้น มีการทิ่มแทงกันเองก่อนหมดวาระหรือยุบสภาหนักขึ้นทุกที เราจะเห็นพรรคเล็กและพรรคเกิดใหม่ควบรวมกันเพื่อเอาตัวรอดในกติกาบัตร 2 ใบ หาร 100 และเราก็คงจะได้เห็นการกระทบกระทั่งกันของพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเป็นระยะไปตลอดทาง นี่คือสิ่งที่จะได้เห็น


แต่สิ่งที่จะไม่ได้เห็นแน่ ๆ ผมฟันธงว่า จะไม่เห็นคะแนนนิยมทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ดีดตัวขึ้น ไม่เห็นน่ะครับ!!!


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ณัฐวุฒิใสยเกื้อ