วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2565

“ณัฐวุฒิ” เชื่อ “เพื่อไทย” เอาชนะพรรคร่วมรัฐบาลได้ทุกพรรค แต่คู่แข่งสำคัญคือ 250 ส.ว. ขอแรงสนับสนุนจากประชาชนให้ "เพื่อไทย" แลนด์สไลด์

 




“ณัฐวุฒิ” เชื่อ “เพื่อไทย” เอาชนะพรรคร่วมรัฐบาลได้ทุกพรรค แต่คู่แข่งสำคัญคือ 250 ส.ว. ขอแรงสนับสนุนจากประชาชนให้แลนด์สไลด์


เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ได้กล่าวในรายการ หัวใจไม่หยุดเต้น EP.60 ซึ่งเผยแพร่ทางยูทูปช่อง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ Official ตอน คู่แข่งสำคัญของเพื่อไทย คือ 250 ส.ว. โดยนายณัฐวุฒิ กล่าวว่า


ในที่สุด “กฎหมายกัญชา” ก็ได้เวลาเข้าสภาเสียทีนะครับ ผมเข้าใจว่าถ้าเลือกได้ “พลังประชารัฐ” พรรคแกนนำรัฐบาลคงไม่อยากเอาเข้า เพราะทั้ง “ภูมิใจไทย” และ “ประชาธิปัตย์” ตั้งป้อมซัดกันมาต่อเนื่องหลายวันแล้ว แต่เป็น “ภูมิใจไทย” ใครเขาจะยอมล่ะครับ ในเมื่อนโยบายกฎหมายกัญชานี้เป็นเรื่องโชว์เรื่องขายของ “ภูมิใจไทย” เขา ยังไงเขาก็ต้องเอาเข้า ดังนั้น อนาคตหรือความเป็นไปของกฎหมายฉบับนี้ ไอ้ที่ว่าจะผ่านสภาหรือรู้เรื่องกันในสมัยรัฐบาลปัจจุบัน ผมว่ายากครับ!!!


เหตุที่ยังไม่รู้เรื่องเพราะพรรคร่วมรัฐบาลเองนั่นแหละยังคุยกันไม่รู้เรื่องว่าเอายังไง?


ดังนั้น สิ่งที่น่าจะเป็นของกฎหมายฉบับนี้ก็คือ “ลอยไปลอยมา” อยู่จนรัฐบาลครบวาระหรือยุบสภา หรือไม่?


สิ่งที่อาจจะเป็นในการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ก็คือ “สภาล่ม” ต่อเนื่องซ้ำซากอีกครั้ง หรือไม่?


อย่าประมาทว่ามันจะเป็นไปไม่ได้นะครับ เพราะนี่คือเทคนิคทางสภาที่จะทำให้บรรยากาศที่คุกรุ่นกันตามตลอดระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลไม่เดือด ไม่เข้มข้น มากไปกว่านี้


ขออนุญาตมองโลกในแง่ร้ายไว้ล่วงหน้าว่า กฎหมายกัญชาจะอยู่ในสภาพตายก็ไม่ตาย เป็นก็ไม่เป็น แต่จะถูกใช้กันเป็นของเล่นทางการเมืองให้ “สภาล่ม” ซ้ำซากขึ้นอีกครั้งครับ


จากเรื่องพ.ร.บ.กัญชา สัปดาห์นี้ข่าวเขาว่า “ภูมิใจไทย” ก็จะมีอีกอีเว้นท์ใหญ่นะครับ ก็คือ ส.ส. ที่แอบเลี้ยงดูปูเสื่อกันไว้ตามพรรคต่าง ๆ ได้รับสัญญาณจากคนใหญ่คนโตของ “ภูมิใจไทย” ให้ตบเท้ากันลาออกแล้วก็มาแสดงตัวเป็นสมาชิก เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส. ในนาม “พรรคภูมิใจไทย” ต่อไป


ข่าวแบบนี้ออกมา ผู้คนตกอกตกใจเช็คข่าวไถ่ถามกันให้ขวักให้ไขว่ อย่าไปตกใจอะไรมากเลยครับ แม้ว่าหากจะมีการลาออกกันจริงจะกระทบต่อคะแนนเสียงของทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลในสภา อาจจะถูกตั้งคำถามเรื่องสภาพองค์ประชุมที่กำลังกระท่อนกระแท่นต่อเนื่องกันมาอยู่ แต่คงไม่ถึงขั้นจะบีบให้พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจยุบสภาได้ ถ้าตัวเขาเองไม่ต้องการนะครับ 


เพราะว่างานนี้มันเป็นเพียงแค่งานจ่ายตังค์แล้วก็เรียกดูของ ไม่รู้ว่าใครจ่ายตังค์ให้ใคร ดูของอะไรนะครับ แต่ว่าใครก็ตาม ถ้าเขาจ่ายตังค์กันไปมาก ๆ นาน ๆ พักหนึ่งแล้ว ถึงเวลาเขาก็ต้องเอาของมาวางโชว์ ให้มันรู้ว่า “ไผเป็นไผ” นี่ผมพูดเรื่องคนซื้อของนะครับ แต่เรื่องอดีตส.ส.เขาจะลาออก ตบเท้าเข้ามาใน “พรรคภูมิใจไทย” จะเกี่ยวกันหรือเปล่า? ก็แล้วแต่ทุกท่านจะพิจารณา


สิ่งที่กำลังเป็น เชื่อว่าพรรคการเมืองทุกพรรคที่มีส.ส.ในสังกัดกำลังจะลาออกไม่มีใครเซอร์ไพรส์อ่ะครับ เพราะแวว “งูเห่า” มันเห็นชัดกันมาแล้วทุกพรรค ดังนั้นน่าจะเป็นไปได้ด้วยซ้ำว่า พรรคการเมืองต้นสังกัดเขาอาจจะมีมาตรการประเภทขับออกจากพรรคเสียก่อน หรือไม่ก็ประกาศตัวว่าที่ผู้สมัครรายใหม่สวนขึ้นมาทันที แล้วการเมืองก็จะเดินหน้ากันไปแบบนี้นะครับ ส.ส.ในสภาเหลือเท่าไหร่ก็เท่านั้น เพราะตามกรอบเวลาที่เหลืออยู่กฎหมายเขาบอกว่าไม่ต้องเลือกตั้งซ่อม พล.อ.ประยุทธ์ก็จะพยายามประคองอำนาจเดินต่อไปเรื่อย ๆ จนถึงสถานการณ์ที่พร้อมที่สุดในการที่จะลงเลือกตั้ง


สถานการณ์การเมืองในภาพรวมจึงน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งนะครับ โฟกัสไปที่พรรคร่วมรัฐบาลแทบไม่มีพรรคไหนอยู่ในช่วงขาขึ้นเลย “พลังประชารัฐ” กับ “รวมไทยสร้างชาติ” ยังพ่อแง่แม่งอนกันอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ แม้ว่าจะต้องไปแน่ ๆ แต่ก็ยังมีสายตาอาลัยอาวรณ์


ในขณะที่ “พรรคประชาธิปัตย์” ขณะนี้ไปไกลถึงขั้นมีข่าว กรรมการบริหารพรรคบางส่วนจะชวนกันลาออก กดดันให้เปลี่ยนหัวหน้าพรรคไปด้วยซ้ำ เรื่องนี้ถ้าเป็นจริงเท่ากับ “ประชาธิปัตย์” ป่วยซ้ำซ้อน แบกหม้อยาแล้วนะครับ ดี/ไม่ดี ก่อนยุบสภาจะได้เห็นข่าวพรรคเก่าแก่แตกละเอียดอีกครั้งด้วยซ้ำไป!!!


จะมีที่คึกคักอยู่บ้างก็เป็น “ภูมิใจไทย” ซึ่งถ้าให้ประเมิน ผมมองว่าในสนามเลือกตั้ง “พรรคภูมิใจไทย” ไม่ใช่คู่แข่งหลักของ “พรรคเพื่อไทย” หรือฝ่ายประชาธิปไตยอ่ะครับ แต่ “พรรคภูมิใจไทย” นี่แหละ จะไล่เก็บแต้มพื้นที่ในพรรคร่วมรัฐบาล ก็ภาคใต้ “ภูมิใจไทย” เขาจะเอาเพิ่ม ภาคอื่น ๆ ของ “พลังประชารัฐ” เดิม ก็ดูดี ๆ นะครับ “ภูมิใจไทย” เขาหมายตาไว้ทั้งนั้น ก็ขนาด ส.ส. กทม. บางคน ยังออกไปอยู่ “ภูมิใจไทย” เลย


ส่วนทางพรรคฝ่ายค้าน ก็อย่างเก่าอ่ะครับ งานหนักเหมือนเดิม เจอของแข็งเหมือนเดิม ไม่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะมีสถานการณ์เป็นอย่างไร คู่แข่งอันดับหนึ่งของพรรคฝ่ายค้าน พรรคฝ่ายประชาธิปไตย โดยเฉพาะ “พรรคเพื่อไทย” คือ 250 ส.ว. ครับ


วันนี้ทุกพรรคการเมืองที่ยืนร่วมรัฐบาล “พรรคเพื่อไทย” เอาชนะได้ง่าย ๆ ทั้งนั้น แต่งานยากคือทำยังไงถึงจะชนะ 250 ส.ว. ได้ด้วย นั่นแหละครับคือคู่แข่งที่แท้จริง และถ้าจะเอาชนะได้มีทางเดียวคือขอแรงสนับสนุนจากประชาชนให้แลนด์สไลด์!!!


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ณัฐวุฒิใสยเกื้อ #เพื่อไทย