วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ตัวแทนองค์กรวิชาชีพสื่อยื่นหนังสือ ผบ.ตร ทวงความคืบหน้ากรณี สื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บจากการสลายชุมนุมราษฎรหยุดเอเปค 2022 ด้านโฆษก ตร. ตัวแทนรับหนังสือ เผย สตช. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไว้แล้ว พร้อมให้ความกระจ่างแก่ประชาชน


ตัวแทนองค์กรวิชาชีพสื่อยื่นหนังสือ ผบ.ตร ทวงความคืบหน้ากรณี สื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บจากการสลายชุมนุมราษฎรหยุดเอเปค 2022 ด้านโฆษก ตร. ตัวแทนรับหนังสือ เผย สตช. ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไว้แล้ว พร้อมให้ความกระจ่างแก่ประชาชน

 

วันนี้ (21 ธ.ค. 65) เวลา 10.00 น. กลุ่มตัวแทน 5 องค์กรวิชาชีพสื่อ ประกอบด้วยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย, สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ, สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย, สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย และสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย นำโดย นายธีรนัย จารุวัสตร์ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เข้ายื่นหนังสือถึง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้เร่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มราษฎรหยุดเอเปค 2022 ที่ถนนดินสอ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา โดยมี พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นตัวแทนมารับหนังสือ

 

สำหรับในหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องขอให้สอบสวนข้อเท็จจริงกรณีสื่อมวลชนบาดเจ็บจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีรายละเอียดดังนี้ ด้วยเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกตัวเองว่า “ราษฎรหยุด APEC” ได้พยายามเดินขบวนไปยังสถานที่จัดการประชุม APEC ซึ่งต่อมาเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากทั้งผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงสื่อมวลชนภาคสนามจำนวนหนึ่ง ตามที่ปรากฏในรายงานข่าวจำนวนมากแล้วนั้น

 

หลังจากเหตุดังกล่าว ฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวฯ ได้รวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพ คลิปวิดิโอ และคำบอกเล่าของสื่อมวลชนที่ได้รับบาดเจ็บ ได้ความว่า มีผู้สื่อข่าวและช่างภาพอย่างน้อย 4 คน ได้รับบาดเจ็บจากกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประกอบด้วย:

 

ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าว The Matter ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กระบองและโล่กระแทกจนล้มลงกับพื้น ขณะกำลังรายงานการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มเดิมเตะซ้ำๆเข้าที่ศีรษะ และมีการใช้วาจาที่ไม่เหมาะสมจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

ช่างภาพจากสำนักข่าว Top News ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้โล่และกระบองฟาด ขณะกำลังเก็บภาพจังหวะกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุม โดยที่ช่างภาพคนดังกล่าวกำลังยืนอยู่บนฟุตบาท ส่งผลให้ฟกช้ำเล็กน้อยและแว่นสายตาเสียหาย

 

ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวประชาไท ถูกเจ้าหน้าที่ใช้โล่ทิ่มเข้าใส่ ขณะรายงานสถานการณ์การปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุม โดยที่ผู้สื่อข่าวคนดังกล่าวยืนอยู่บนฟุตบาธเช่นกัน ส่งผลให้ผู้สื่อข่าวบาดเจ็บที่มือ

 

ช่างภาพจากสำนักข่าว Reuters ถูกเศษแก้วจากขวดแก้วกระเด็นเข้าที่ใบหน้าขณะกำลังบันทึกภาพแนวตำรวจใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนได้รับบาดเจ็บบริเวณลูกตา ซึ่งวัตถุดังกล่าวลอยมาจากทิศทางของกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างชัดเจน

 

สื่อมวลชนที่บาดเจ็บในทั้ง 4 กรณี ได้ทำหน้าที่รายงานเหตุการณ์ตามข้อเท็จจริง แสดงสัญลักษณ์สื่อมวลชนชัดเจน และไม่ได้กีดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ ผู้บาดเจ็บยังระบุว่าไม่ได้รับแจ้งให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและสื่อมวลชนคอยระวังหรือหลบหลีก เมื่อเจ้าหน้าที่จะดำเนินการผลักดัน หรือตอบโต้ผู้ชุมนุม

 

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย

สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทยในฐานะองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ประกอบวิชาชีพ ขอเรียกร้องให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการดังต่อไปนี้

 

ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจบางส่วนที่ไม่เป็นไปตามหลักยุทธวิธีการควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ และชี้แจงผลการสอบสวนให้สาธารณชนได้รับทราบโดยไม่ชักช้า

 

เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเหตุการณ์ดังกล่าว

 

กำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่การชุมนุม ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดตามหลักยุทธวิธีการควบคุมฝูงชนที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบต่อการทำงานของสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นการจัดพื้นที่ปลอดภัยให้แก่สื่อมวลชน การประกาศเตือนอย่างชัดเจนก่อนใช้มาตรการควบคุมฝูงชน การละเว้นพฤติกรรมรุนแรงหรือคุกคามการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชน เป็นต้น

 

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการ

ขอแสดงความนับถือ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย, สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ, สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย, สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย, สหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย

 

ด้านนายธีรนัย เปิดเผยว่า วันนี้มายื่นหนังสือเพื่อทวงถามความคืบหน้า และขอให้มีการตรวจสอบ กรณีมีสื่อมวลชนได้รับบาดเจ็บ จากการสลายการชุมนุมที่ถนนดินสอ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 65 ที่ผ่านมา ตอนนี้ก็ผ่านมา 1 เดือนแล้ว ซึ่งเราอยากได้คำตอบว่าขณะนี้มีความคืบหน้า มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงไปถึงไหน และมีการสรุปบทเรียน หรือเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแล้วหรือไม่ และอยากให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ตามระบบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

นายธีรนัย กล่าวถึงกรณีที่มีสื่ออิสระได้รับบาดเจ็บจากการสลายการชุมนุม โดยระบุว่า สิทธิในการนำเสนอข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เพราะสื่อย่อมมีสิทธิ ประชาชนก็มีสิทธิ รวมทั้งสื่อกระแสหลัก สื่อพลเมือง และสื่ออิสระ ทุกคนมีสิทธิทั้งหมด แต่หากมีการทำร้าย หรือลิดรอนสิทธิ ก็จะต้องมีการตรวจสอบ หรือดำเนินการกับผู้ที่ลิดรอนสิทธิดังกล่าว ให้เป็นไปตามกระบวนการตรวจสอบ ซึ่งเป็นจุดยืนที่สมาคมนักข่าวย้ำมาโดยตลอด และได้ย้ำกับทางตำรวจเสมอมา

 

ขณะที่ทางด้านของ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) ได้มารับหนังสือ และกล่าวในเรื่องนี้ว่า เรื่องนี้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงไว้แล้วซึ่งจะนำข้อมูลมาประกอบและสรุปโดยเร็วเพื่อที่จะแจ้งกลับไปยังผู้ที่ยื่นหนังสือและให้ความกระจ่างแก่ประชาชนด้วย ถ้าหากมีความคืบหน้าจะแจ้งให้สื่อมวลชนและประชาชนทราบต่อไป

 

ทั้งนี้ที่ผ่านมาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้นิ่งเฉย เพราะได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว คาดว่าน่าจะใกล้สรุปผลการปฏิบัติได้แล้ว ส่วนการเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการทำงานของกองบัญชาการตำรวจนครบาลซึ่งก็ได้มีการสอบถาม สอบปากคำไว้เกือบครบทุกคนแล้ว แต่หากว่ามีใครที่จะมาให้ปากคำเพิ่มเติมทางเจ้าหน้าที่ก็ยินดี

 

นอกจากนี้ ทางผบ.ตร. ได้มีการแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อวางกรอบการทำงานระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับสื่อมวลชนในช่วงที่มีการชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุมในลักษณะใด เพื่อที่ว่าถ้าหากมีการกระทบกระทั่งในภายภาคหน้า จะได้มีการซักซ้อมแนวทางการทำงานร่วมกัน และจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์การบาดเจ็บอย่างที่ผ่านมาอีก

 

ทั้งนี้คาดว่าภายในต้นปีหน้าจะมีการพูดคุยกันอย่างจริงจังถึงภาพรวมในแนวทางการทำงาน และจะมีการเชิญสมาคมสื่อทุกสมาคมที่เกี่ยวข้องมาร่วมพูดคุยด้วย อย่างไรก็ตามพล.ต.ต.อาชยน ย้ำว่าเข้าใจการทำงานของผู้สื่อข่าวว่าจะต้องมีการเก็บภาพเหตุการณ์ เพื่อสะท้อนให้ประชาขนได้รับรู้ จึงต้องเข้าไปทำงานในพื้นที่เสี่ยง แต่ก็ต้องหาแนวทางที่มีความเหมาะสมและปลอดภัย ซึ่งคงต้องมาคุยกันในเร็ว ๆ นี้

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์