วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2565

ภาคประชาชนบุกกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ยื่นหนังสือรัฐมนตรีฯ ไม่เอาร่าง พ.ร.บ. ควบคุมการรวมกลุ่มประชาชน ชี้ ละเมิดสิทธิฯ ประกาศหากยังดื้อเจอกันทำเนียบ

 


ภาคประชาชนบุกกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ยื่นหนังสือรัฐมนตรีฯ ไม่เอาร่าง พ.ร.บ. ควบคุมการรวมกลุ่มประชาชน ชี้ ละเมิดสิทธิฯ ประกาศหากยังดื้อเจอกันทำเนียบ 


วันนี้ (24 มี.ค. 65) เวลา 9.00 น. ที่หน้า "บ้านมนังคศิลา" ถนนหลานหลวง ขบวนประชาชนต่อต้านร่างกฏหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน นัดรวมตัวเพื่อแสดงออกคัดค้าน ร่างพ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร หรือร่างพ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่ม โดยเคลื่อนขบวนมุ่งไปที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) 


โดยก่อนเคลื่อนขบวนนั้น นุชนารถ แท่นทอง จากเครือข่ายสลัมสี่ภาคได้อ่านแถลงการณ์ เกี่ยวกับขบวนประชาชนต่อต้านร่างกฎหมายทําลายการรวมกลุ่มของประชาชน ขอประกาศยืนหยัดต่อต้าน กฎหมายทําลายสิทธิและเสรีภาพในการรวมกลุ่มทุกฉบับ และขอประกาศคัดค้านทุกกฎหมายที่มีเจตนา ออกมาเพื่อควบคุม กํากับ และทําลายสิทธิเสรีภาพประชาชน


จากนั้น 9.15 น. ขบวนการประชาชนฯได้เคลื่อนขบวนพร้อมป้ายข้อความต่าง ๆ อาทิ เรามีเสรีภาพในการรวมกลุ่ม หยุดกฎหมายควบคุมองค์กรเอกชน, การวมกลุ่มคือพื้นฐานประชาธิปไตย ใยมาทำลายแบบเผด็จการ? เป็นต้น


โดยขบวนได้ใช้เส้นทางถนนหลานหลวง เลี้ยวซ้ายที่แยกสะพานขาวเข้าถนนกรุงเกษม


กระทั่ง เวลา 9.42 น. หัวขบวนได้เคลื่อนเข้ากระทรวงพัฒนาสังคมฯ โดยแถวหน้าของขบวนนั้น ประชาชน 4 รายถือพวงหรีดข้อความ "ร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. ...." เดินเข้ามา ด้านนายจำนงค์ หนูพันธ์ุได้ประกาศย้ำเรื่องมาตรการป้องกันโควิด 19 พร้อมแจ้งมีเจลแอลกอฮอล์ บริการ 


จากนั้นได้มีการสลับสับเปลี่ยนกันปราศรัยข้างรถเครื่องเสียง ระหว่างที่รอทะลุฟ้าเซตเวทีหน้าประตูทางเข้ากระทรวงฯ ด้านใน


ทั้งนี้ พรุ่งนี้ (25 มีนาคม 2565) จะเป็นวันสุดท้ายที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จะเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างพ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร กระทรวงพม. เปิดรับฟังความเห็นทางออนไลน์แต่ไม่ลงมารับฟังความคิดเห็นประชาชนตัวเป็น ๆ วันนี้ขบวนการประชาชนฯ จึงต้องมาเพื่อแสดงออกว่าไม่เอากฎหมายควบคุมประชาชน หนึ่งในผู้ปราศรัยกล่าว


จากนั้นเมื่อทะลุฟ้า ตั้งเวทีเรียบร้อยแล้ว ธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย รับหน้า ที่ผู้ดำเนินรายการ โดยเปิดเวทีให้ตัวแทนจากเครือข่ายต่าง ๆ ขึ้นปราศรัย 


ด้านธนพร วิจันทร์ หรือไหม จากเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน กล่าวบนเวทีบางส่วนว่า ยุคสมัยนี้ พวกเราอยู่ในระบอบประชาธิปไตย เราไม่ได้อยู่ใต้อำนาจของชนชั้นปกครอง รัฐบาลอ้างความมั่นคงอย่างเดียว เราต้องมีเสรีภาพในการรวมกลุ่ม มีเสรีภาพในการเจรจาต่อรอง ปัญหาที่เรารวมกลุ่มกันขึ้น มันเกิดจากโครงการของรัฐที่เหยียบย่ำพวกเรา รัฐสวัสดิการที่จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากมีพ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่ม การรวมกลุ่มจึงเป็นทางออกของประชาธิปไตย เพราะจะทำให้เกิดเวทีเจรจาต่อรอง ทำให้อยู่ร่วมกันได้


ขณะที่ สุริยา แสงแก้วฝั้น จากเครือข่ายผู้พิการภาคเหนือ กล่าวถึง 8 ปีผ่านไป ถึงแม้จะมีการเลือกตั้ง แต่ใช่ว่าจะเป็นประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ เพราะฉะนั้น พ.ร.บ.ควบคุมการรวมกลุ่ม กฏหมายฉบับนี้ไม่ควรจะต้องใช้ เพราะมาจากผู้นำเผด็จการ และหากผู้นำเป็นประชาธิปไตย ต้องฟังเสียงประชาชน หากอ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง ต้องฟังเสียงประชาชน เพราะประชาชนเป็นเจ้าของประเทศที่แท้จริง


ในส่วน ณวรรษ เลี้ยงวัฒนา หรือแอมป์ จากแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้กล่าวถึงพ.ร.บ. ควบคุมการรวมกลุ่มในฐานะกลไลของรัฐที่ไม่ส่งเสริมประชาธิปไตย คือเครื่องมือที่เอาไว้เตะถ่วง สกัด ขัดขา การออกมาแสดงเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญของประชาชน คือพ.ร.บ.ที่เกื้อหนุนให้รัฐยังเป็นเผด็จการ


ณวรรษ ย้ำว่า"การเห็นต่างกับรัฐบาลไม่ใช่อาชญากรรม" และ "การทำกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลไม่ใช่กบฏ"


จากนั้นเวทีได้เปิดช่วงรับฟังความเห็นของประชาชนที่มีต่อร่าง พ.ร.บ. การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ. ... โดย สุภาภรณ์ มาลัยลอย จาก EnLaw และ นิมิตร์ เทียนอุดม จาก เครือข่ายรัฐสวัสดิการ


ตัวแทนจากเครือข่ายความหลากหลายทางเพศกล่าวถึงปัญหาที่ประสบจากการที่กฎหมายหลงลืมคนหลากหลายทางเพศแต่ในทางกลับกันก็ถูกควบคุมด้วย โดยระบุว่า “ปกติแล้ว คนหลากหลายทางเพศไม่ถูกคุ้มครองอยู่แล้ว” และ “เมื่อพวกเราขายตัว ก็ถูกควบคุมร่างกายอยู่แล้ว แล้วถ้ามีกฎหมายนี้ออกมา เราจะขายให้ใคร จะประกอบอาชีพได้อย่างไร”


“ที่ผ่านมาเราถูกปิดสถานบริการกว่าห้าร้อยแห่ง และกว่าสองปีที่เราไม่มีรายได้มาดูแลครอบครัว เราเรียกร้องความชดเชย ไม่ใช่การเยียวยา ที่ผ่านมาเราถูกกระทำจากกฎหมายออกโดยรัฐบาลทุกฉบับ กฎหมายที่เอาเปรียบประชาชนต้องหมดไป”


ในเวลาต่อมา บอย ธัชพงศ์ ได้ประกาศข้อเรียกร้อง โดยขอให้นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ลงมารับหนังสือและฟังข้อเรียกร้องจากเครือข่ายด้วยตนเองเท่านั้น หากไม่มาภายใน 10 นาที ประชาชนจะไปพบที่หน้าห้องทำงาน


กระทั่ง 14.20 น. นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินออกมาจากอาคารกระทรวงพม. เพื่อมารับหนังสือ 


จากนั้นตัวแทนกลุ่ม ได้อ่านแถลงการณ์ จากขบวนการประชาชนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน โดย รมว.พม.ยืนรับฟัง ระบุว่า ร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร ที่กระทรวงพม. กำลังเปิดรับฟังความคิดเห็น มีเนื้อหากว้าง คลุมเครือ และมีการกำหนดบทลงโทษ นอกจากนี้ยังมีข้อน่าห่วงกังวลว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวให้อำนาจปลัดกระทรวงพม. ในฐานะนายทะเบียน ระงับการกระทำขององค์กรไม่แสวงหากำไรได้หากกระทำการที่กระทบความมั่นคง 


เห็นได้ว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ได้มีเจตนารมณ์สนับสนุนให้องค์กรไม่แสวงหากำไรทำงานง่ายขึ้น แต่มุ่งเน้นจำกัดเสรีภาพในการรวมกลุ่มของประชาชนรวมถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งจะส่งผลต่อนักสิทธิมนุษยชนและประชาชนในการตรวจสอบภาครัฐ 


จึงขอให้นายกฯ และรัฐมนตรี ยุติกระบวนการเสนอร่างพระราชบัญญัติ และเรียกร้องให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และองคาพยพ ลาออกเพื่อเปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญ ให้ประชาชนกำหนดอนาคตตนเองและสร้างหนทางสู่ประชาธิปไตย


จากนั้น นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ขึ้นเวทีไปรับหนังสือจากตัวแทนภาคประชาชน และกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ตนได้ตั้งใจฟังความเห็นจากพี่น้องประชาชนแล้ว จะนำความคิดเห็นพี่น้องประชาชนเพื่อไปเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป


จากนั้นกิจกรรมบนเวทียังดำเนินต่อไป โดย มีแม่ช้อย ทะลุฟ้า และ ปูน ทะลุฟ้า เป็นผู้ปราศรัยคนสุดท้าย ด้านบอยประกาศ จะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์


16.00 น. บิ๊กเซอร์ไพรส์ เครือข่ายประชาชนที่มาร่วมในการคัดค้าน พ.ร.บ.การควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชน ต่างร่วมกันชูกระดาษขนาด A4 ที่มีข้อความ อาทิ "การวมกลุ่มคือพื้นฐานประชาธิปไตย ใยมาทำลายแบบเผด็จการ? " แล้วหันไปทางป้ายสีเหลืองขนาดใหญ่ที่หันหน้ามาทาง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยในป้ายสีเหลืองขนาดใหญ่ มีข้อความว่า "หยุดพ.ร.บ.ควบคุมรวมกลุ่มของประชาชน NO NPO BILL พวกเราจะซวยกันหมด" บนตึกสำนักงานธนานุเคราะห์


ต่อมา เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ เป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์ ใจความว่า รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ผลักดันร่างพ.ร.บ.การดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร เพื่อขจัดพลังของประชาชน แบ่งกลุ่มองค์กรขบวนประชาชนที่ดีในสายตาของรัฐแยกออกจากกลุ่มองค์กรที่เลวในสายตาของรัฐออกจากกัน นี่คือการกระทำที่มองเห็นประชาชนเป็นศัตรู 


ภารกิจของประชาชนในการคัดค้านร่างกฎหมายดังกล่าวไม่ได้ยุติแค่เพียงวันนี้ แต่จะทำงานทางความคิดและขยายเครือข่ายประชาชน เพื่อให้ประชาชนเห็นผลกระทบของร่างกฎหมายและไปเรียกร้องยังหน้าทำเนียบรัฐบาล เราจะไม่หันหลังกลับจนกว่ารัฐบาลจะยุติการผลักดันร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน


ตามด้วยกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์แสดงออกไม่รับร่างกฏหมายฉบับนี้ ด้วยการเผากระดาษจำลองร่าง พ.ร.บ.การควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชน ป้ายกระดาษปรากฏข้อความมากมายอาทิ "ขอรัฐสวัสดิการแต่ได้กฏหมายสามานย์ควบคุมการรวมกลุ่มประชาชน" , "พัฒนาสังคมยังไม่ดียังกดขี่การรวมกลุ่มประชาชน", "การรวมกลุ่มคือพื้นฐานประชาธิปไตย ใยมาทำลายแบบเผด็จการ? " และวางพวงหรีด “ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาองค์กรภาคประชาสังคม


ทั้งนี้ขณะที่ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ วงสามัญชนด้วยขึ้นเวทีเล่นดนตรี เพลง"โซลิดาริตี้" ต่อด้วย "บทเพลงของสามัญชน" โดยปูนทะลุฟ้าได้ขึ้นไปกล่าว บทกวี "ปฐพีกวีดิน" ประกอบเพลง จากนั้นสามัญชนได้กล่าวส่งพี่น้องประชาชนโดยบอกว่าขอส่งพี่น้องประชาชนด้วยเพลง"อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้"


ด้านบอย ธัชพงศ์ กล่าว ขอบคุณประชาชนทั้ง 18 เครือข่ายรวมถึงประชาชนทั่วไปที่มาร่วมคัดค้านการ ออกกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มประชาชนในครั้งนี้ และขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เตรียมกระเป๋าเตรียมร่างกายเตรียมรองเท้าให้พร้อมแล้วเราจะไปพบกันที่ทำเนียบรอการนัดหมายอีกครั้ง และยุติกิจกรรมในเวลา 16.20 น


#ม็อบ24มีนา65 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ 

#ไม่เอากฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มประชาชน 

#หยุดพรบควบคุมการรวมกลุ่ม 

#ขบวนประชาชนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน