แลไปข้างหน้า กับ ธิดา ถาวรเศรษฐ EP.78
ตอน : ประเมินความคิดทางการเมืองการปกครองจากผลการเลือกตั้งของคนภาคใต้
จากผลการเลือกตั้งซ่อมในไม่กี่วันมานี้
เป็นสิ่งที่ตัวดิฉันอยากจะคิดทบทวน เพราะฉะนั้นวันนี้ก็คิดว่าเราจะคุยกันในประเด็นว่า
“ประเมินความคิดทางการเมืองการปกครองจากผลการเลือกตั้งของคนภาคใต้”
คือดิฉันก็ไม่ได้แปลกใจ
ประหนึ่งเป็นการแข่งขันระหว่าง "พรรคพปชร." กับ "พรรคประชาธิปัตย์" เท่านั้น พรรคอื่น ๆ
ก็เรียกว่าหลุดประเด็นไปเลย มันก็น่าสนใจที่ว่าคะแนนเสียงก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน
ยกตัวอย่างที่ชุมพรนั้น พปชร.ก็ยังได้คะแนนเท่าเดิม
ในที่สุดปรากฏว่าทั้งสองพรรคที่สงขลาคะแนนมากกว่าเดิม แต่ว่าพปชร.ถึงได้คะแนนมาก แต่ก็ไม่สามารถจะชนะการเลือกตั้งได้
แน่นอนมีคนวิเคราะห์อยู่เป็นจำนวนมากถึงสาเหตุที่พปชร.อาจจะแพ้
เช่น ประเด็นไม่นำเสนอบิ๊กตู่ หรือปัญหาที่คุณธรรมนัสออกมาพูดในเชิงที่ว่าเป็นโทษ ในเรื่องที่ว่าต้องเลือกคนมีชาติตระกูล
ต้องเลือกคนมีเงิน อันนั้นก็อาจจะมีส่วน
แต่ดิฉันอยากจะเข้าใจภาพรวมทั้งหมด
เพราะว่าพรรคอื่น ๆ ได้คะแนนลดลงหมด เช่น พรรคก้าวไกล เป็นต้น
แต่ว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถ้าดิฉันจะพูดถึงที่น่าสังเกต
ดิฉันก็อยากจะวิเคราะห์พรรคประชาธิปัตย์ในชัยชนะการเลือกตั้งอันนี้ด้วย และต้องการแสดงให้เห็นถึงเรามาทำความเข้าใจธาตุแท้
ประชาธิปัตย์รอบที่แล้วมันก็ดูเหมือนว่าพรรคนี้จะไม่มีอนาคต
ดังนั้นการทุ่มสุดตัวของทั้งสองพรรค ซึ่งเป็นซีกจารีตนิยมอำนาจนิยมทั้งคู่
เป็นการทุ่มสุดตัว เพราะเป็นการเดิมพันว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป "ประชาธิปัตย์" จะพ่ายแพ้ให้แก่ "พปชร." เหมือนกับรอบปี 2562 หรือเปล่า? เพราะรอบปี 2562 เป็นปีที่ “ประชาธิปัตย์” พ่ายแพ้หมดรูป
สูญเสียที่นั่งในภาคใต้เกือบทั้งหมด ทั้ง ๆ
ที่ก่อนหน้านี้ก็มีความคิดว่าส่งเสาไฟฟ้าก็ได้เหมือนกัน จึงเป็นที่น่าสนใจ
แต่ว่าดิฉันอยากจะพูดถึง
คุณจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในประเด็นที่พูดถึง
แน่นอน ก็โฆษณานำเสนอผลงาน
เพราะฉะนั้นประชาธิปัตย์ก็อาจจะได้แต้มในเรื่องโครงการประกันรายได้ยาง, ปาล์ม ดังนี้เป็นต้น
แต่สิ่งที่ดิฉันอยากจะฝากเอาไว้ก่อนที่จะวิเคราะห์ลงลึกถึงปัญหาเชิงความคิดของประชาชนภาคใต้นั้น
ก็อยากจะวิเคราะห์จากคำพูดของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เล็กน้อยก็คือ คุณจุรินทร์พูดว่า
“ผมสงสารลูกหมี
(นายชุมพล จุลใส) สงสารลูกหมีที่ต้องนั่งน้ำตาตกใน ลูกหมีเคยทุ่มเทชีวิต
สู้กับความไม่ถูกต้องจนถูกตัดอนาคตทางการเมือง
ทำให้บางพรรคสามารถชูคอขึ้นมามีอำนาจล้นฟ้าเป็นรัฐบาลอยู่ในวันนี้ได้
แต่ไม่กี่วันเพื่อนรู้หมดแล้ว แค่เก้าอี้ตัวเดียวตัวเดิมของลูกหมียังตามมาทวงเลย กับความดีของลูกหมีเขายังลืม”
ความหมายคืออะไร?
ความหมายก็คือ
ดิฉันมองว่าคุณจุรินทร์สรรเสริญพฤติกรรมของกปปส.
คือลูกหมีเขาไม่ใช่กปปส.ธรรมดานะคะ เขาเป็นกปปส.แบบตัวเอ้
ถือปืนอาวุธสงครามในสภาก็แล้วกัน แล้วก็เป็นคนสำคัญฝ่ายใช้กำลังในกปปส.ด้วย
แต่คุณจุรินทร์สรรเสริญ ถ้าอย่างนั้นประชาธิปัตย์อย่ามาแก้ตัวว่า ผมไม่เกี่ยวกับกปปส.
มาต่อต้านแค่นิรโทษกรรม ที่จริงแล้วมาวันนี้ก็ยังสรรเสริญ ประมาณว่าอะไรที่คิดว่าจะได้ประโยชน์ก็โอเค
กปปส. แต่ถ้าคิดว่าจะเสียประโยชน์ก็จะบอกว่าไม่ใช่ กปปส.
แต่จากอันนี้ทั้งหมดและภาพที่ทุกคนจำได้ ไม่ว่าจะเป็นคุณชวน หลีกภัย, คุณอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ ห้อยนกหวีดกันทั้งนั้น คุณจุรินทร์ก็เหมือนกัน
ดังนั้น
สรุปเลยว่าพรรคประชาธิปัตย์นั้น
ในขณะนั้นมาจนถึงบัดนี้ก็ยังยินดีในพฤติกรรมที่ได้ทำมาทั้งหมด ในการทำให้เกิดกปปส.และสนับสนุนรัฐประหาร
และจนบัดนี้ก็มาร่วมรัฐบาล นี่ก็คือทุกคนต้องชัดเจนในจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์
แล้วไม่ต้องกะล่อนเป็นอย่างอื่นอีกนะ “ไม่ใช่กปปส. ผมมาประท้วงแค่นิรโทษ หลักจากนั้นก็ไม่เกี่ยว”
อันนั้นไม่ใช่แล้ว
เพราะบัดนี้คุณก็ยังทำตามมรดกและสิ่งที่ได้พูดไว้ก็คือมาร่วมรัฐบาลกับคณะรัฐประหาร
พูดก็พูด
สมมุติว่าถ้าคุณยืนตามที่คุณโฆษณาก่อนเลือกตั้งว่าคุณไม่สนับสนุนรัฐประหาร
ถามว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ได้มั้ย? อยู่ไม่ได้!
รัฐบาลนี้อยู่ได้ก็เพราะประชาธิปัตย์ ถึงได้คะแนนน้อย แต่ก็มีคะแนนจำนวนหนึ่ง
มิฉะนั้นรัฐบาลนี้ก็อยู่ไม่ได้
และมิฉะนั้นพลเอกประยุทธ์ก็จะไม่อยู่มาจนถึงนี่จะครบ 8 ปีอยู่แล้ว
ดังนั้น
สรุปเลยว่าพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในขบวนการ ไม่ว่าประท้วงไม่ลงสู่การเลือกตั้ง
ออกมาประท้วงบนท้องถนน อยู่กับพันธมิตรประชาชนประชาธิปไตย และมาอยู่กับกปปส.
ทำให้เกิดการรัฐประหาร และคณะรัฐประหารสามารถอยู่ต่อได้จนถึงบัดนี้
แต่ก็อาศัยใบบุญในการร่วมรัฐบาลเพื่อที่จะฟื้นตัวเอง สิ่งที่เราจะต้องดูต่อไปก็คือว่า
หลังจากมาร่วมรัฐบาลแล้วสามารถที่จะเอาเรื่องของประกันราคาข้าว, ยาง, ปาล์ม
เข้ามามีส่วนหนุนเพื่อที่จะเรียกคะแนน จะได้ผลหรือเปล่า?
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ดูแล้วมันก็คือเกือบเท่า
ๆ กัน ตอนนี้ต่างคนต่างก็มาเถียงกัน
เหมือนที่คุณปารีณาออกมาพูดประมาณว่าใครซื้อเก่งกว่า?
ที่ชนะเพราะซื้อเสียงเก่งกว่าหรือเปล่า? หรือว่าข่าวคราวที่มีการถ่ายรูปกาเบอร์ 1
แล้วก็ออกมา 5-6 คนที่จับได้ อันนี้ดิฉันก็จะไม่พูดถึง
เพราะดิฉันจะพูดภาพรวมภาพใหญ่ว่า
ทำไมพรรคการเมืองอำนาจนิยมจารีตนิยมจึงครองใจประชาชนภาคใต้ได้มายาวนาน
เพราะว่าถ้าเราย้อนดูตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งเลย เราดูว่าตอนที่มีการลงประชามติ คะแนนเสียงของคนภาคใต้ในการลงประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ก็คือหลังรัฐประหาร 2549 และรัฐธรรมนูญ 2560 แต่ว่าไปรับทำประชามติกันตอนปี 2559 เราก็จะพบว่าเสียงของคนภาคใต้ในการทำประชามติทุกครั้ง (ทั้งสองครั้ง) ประชามติร่างรัฐธรรมนูญ 2550 เราก็จะพบว่าถ้าแยกเป็นสีน้ำเงินกับสีแดง สีน้ำเงินในภาคใต้นั้นหมดเลย มันจะมีติ่งปลายขวานคือกลุ่ม 3 จังหวัดภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นปี 2550 หรือ 2560 คนเหล่านี้เขาจะไม่เอารัฐธรรมนูญที่มาจากการทำรัฐประหาร แต่ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตกบางส่วน ส่วนมากแล้ว หรือว่าภาคเหนือตอนล่างนิดหน่อย อันนี้ก็คือจะรับ จึงทำให้เราพบว่ามีผู้เห็นชอบรัฐธรรมนูญ 2550 57.81% สีน้ำเงิน ไม่เห็นชอบ 42.19% สีแดง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ภาคอีสาน โดยเฉพาะเรียกว่าภาคอีสานเหนือ พอลงมาบางส่วนเปอร์เซ็นก็ลดลง คือภาคอีสานก็ไม่ใช่ว่าไม่รับรัฐธรรมนูญแบบ 100% เพราะมันมีตั้งแต่ 100%, 80%, 70%, 60% รวมทั้งภาคเหนือจำนวนหนึ่ง นี่ก็คือเมื่อตอนรัฐธรรมนูญ 2550
ประชามติรัฐธรรมนูญ 2559 ร่างโดยเผด็จการทหารปี 2557 |
พอมาดูรัฐธรรมนูญ 2560 ถ้าผู้ชมดูในตารางก็จะพบว่าสีน้ำตาลเข้มจะเป็นส่วนที่รับรัฐธรรมนูญปี 2559 หรือ 2560 ที่มาจากการเขียนของคณะรัฐประหาร เหมือนเดิม ตะวันออก, ภาคกลาง แล้วคนไม่รับก็เหมือนเดิม คนไม่รับก็จะเป็นภาคอีสานกับภาคเหนือตอนบน ซึ่งนับเป็นจำนวนคนเท่ากันเลยนะ ไม่รับปี 2550 ก็ 10 ล้านคน อันนี้เป็นตัวเลขความทรงจำเลย ปี 2560 ก็ 10 ล้านคน
เพราะฉะนั้นในทัศนะของดิฉันที่เคยพูดแต่ไหนแต่ไร มีคนถามว่าคนเสื้อแดง คนที่ไม่เอารัฐประหาร คนที่ต่อต้านเผด็จการมีเท่าไร ดิฉันบอกว่าถ้าดูจากประชามติ คนเหล่านี้ ความจริงมันมากกว่านี้ แต่ว่าเอาคนที่ยืนหยัด 10 ล้านคน อาจจะมีถอยไปก็มีคนใหม่มา เพราะฉะนั้นนั่นคือตัวเลข 10 ล้านคน ถ้าท่านผู้ชมเห็นก็ยังเหมือนเดิมก็คือภาคใต้ตอนล่างสุดก็ไม่เอารัฐธรรมนูญทหาร
แล้วมาเทียบกับผลการเลือกตั้งของปี
2562 ผลการเลือกตั้งปี 2562 แม้ “ประชาธิปัตย์” จะถูกเรียกว่าเขี่ยทิ้งไปเยอะ
แต่คำถามว่าแล้วมีพรรคอื่นในฝ่ายไม่ใช่จารีตนิยม ไม่ใช่อำนาจนิยม มาแทนที่มั้ย
ไม่ใช่! มันก็ยังเป็นอำนาจนิยมแท้ ๆ เลย คือ “พปชร.” ก็มีบางส่วน “ภูมิใจไทย”
ดังนั้น
ถ้าเราดูพฤติกรรมเหล่านี้เราก็จะพอมองเห็นว่า ทัศนะทางการเมืองการปกครอง
หรือที่เราตั้งว่าเป็นความคิดเห็นทางการเมืองการปกครอง
แต่ดิฉันว่าทัศนะน่าจะชัดเจนกว่า
ทัศนะทางการเมืองการปกครองของคนภาคใต้ส่วนใหญ่ยังเป็นทัศนะที่สนับสนุนฝ่ายจารีตนิยมและยอมรับอำนาจนิยม
คำถามคือทำไม? ทำไมเป็นเช่นนี้? จริง ๆ เรื่องนี้คงพูดในวันนี้ทั้งหมดไม่ได้
ดิฉันก็คงจะไปพูดเอาตอนหลัง
เพราะมันจะมีทั้งเอาทฤษฎีมาประยุกต์กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง แล้วเราจะพูดเร็ว ๆ
ก็ดูจะไม่ให้เกียรติกัน การจะพูดโดยสรุปง่าย ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ
เพราะว่ามันเป็นเรื่องราวของในอดีต เรื่องราวของประวัติศาสตร์
ยกตัวอย่างเช่น
เรายกตัวอย่าง 3 จังหวัดภาคใต้ เราจะเห็นว่ามันจะเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ต่างหาก
โดดเด่น เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่ไม่ยอมรับการเมืองการปกครองแบบจารีตนิยมอำนาจนิยม
ไม่ว่าจะเป็นผลการเลือกตั้ง ผลโหวตประชามติ ก็จะมีลักษณะพิเศษ
มันไม่เหมือนกับภาคใต้ส่วนอื่นขึ้นมาทั้งหมด
.
เพราะฉะนั้น
ดิฉันก็คิดว่าในครั้งต่อไป ดิฉันจะพูดลงในทั้งทางทฤษฎี ปัญหาชนชั้น ปัญหาชนชาติ
ปัญหาลักษณะท้องถิ่น
ปัญหาการยึดตัวบุคคลนำมาสู่การยอมรับการเมืองจารีตนิยมอำนาจนิยม
และรวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจด้วยหรือเปล่า? พูดง่าย ๆ
ก็คือทั้งความเกี่ยวข้องทั้งชนชั้น ปัญหาเศรษฐกิจ รวมทั้งวัฒนธรรมและสังคม
ก็เป็นเรื่องที่เราจะพูดกันต่อไป
แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่บอกได้เลยก็คือว่า
พื้นที่ภาคใต้ยังเป็นพื้นที่สำหรับพรรคการเมืองจารีตนิยมอำนาจนิยม
ก็คือเพียงแต่เปลี่ยนชื่อ โอเค ไม่เอาประชาธิปัตย์ แล้วถามว่าเอาก้าวไกลมั้ย?
เอาเพื่อไทยมั้ย? ก้าวไกลคะแนนตอนนี้กลับลดลงด้วยซ้ำ
จึงอาจจะเกี่ยวข้องกับผู้สมัครด้วยก็ได้ แต่มันลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
เพื่อไทยไม่ส่งเลย แต่ว่าในอดีตคะแนนที่มีก็น้อยมาก
แปลว่าพรรคการเมืองที่อยู่ฝั่งจารีตนิยมอำนาจนิยมอยู่ในฐานะที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจ ซึ่งมันชวนให้คิด แล้วมันไม่ได้ชวนให้คิดเฉพาะภาคใต้ เราก็ต้องคิดว่าแล้วทำไมภาคอีสานมันจึงเป็นอีกแบบหนึ่ง หรือภาคเหนือตอนบนอีกแบบหนึ่ง ดิฉันมองแล้วว่าน่าสนใจมาก เพื่อที่จะได้เข้าใจว่าบนความขัดแย้งที่เรามีอยู่ คนที่มีความคิดต่อระบอบการเมืองการปกครองในสังคมไทยนั้นยังมีความแตกต่างกัน แล้วก็นำมาสู่การตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่แตกต่างกันด้วย ไม่ใช่แต่เพียงคุณสมบัติของผู้สมัครเท่านั้น เดี๋ยวเรามาลองคุยกันต่อในคราวหน้านะคะ วันนี้ลาไปก่อนค่ะ
#ธิดาถาวรเศรษฐ
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์