วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2565

"ธนาธร" ควง "เพชร-กรุณพล" ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเขต 9 นำทีมพรรคก้าวไกลขึ้นปราศรัยเวทีใหญ่ ชี้ เป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนจะได้เลือกพรรคการเมืองมีคุณภาพเข้าสภาฯ

 


"ธนาธร" ควง  "เพชร-กรุณพล" ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเขต 9  นำทีมพรรคก้าวไกลขึ้นปราศรัยเวทีใหญ่ ชี้ เป็นโอกาสอันดีที่ประชาชนจะได้เลือกพรรคการเมืองมีคุณภาพเข้าสภาฯ


วันนี้ (22 ม.ค. 65) เวลา 18.05 น. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมนายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ เพชร ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม เขต 9 หลักสี่-จตุจักร ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลก่อนขึ้นเวทีปราศรัยพรรคก้าวไกล ณ สนามกีฬาชุมชนเสนานิคม 2 พหลโยธิน 34 ในการเลือกตั้งซ่อม ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 30 ม.ค. 65 นี้


นายธนาธร กล่าวว่า คิดว่าครั้งนี้จะเป็นวันสำคัญอีกวันนึงที่ประชาชนได้มีโอกาสตัดสินว่า อยากได้พรรคการเมืองแบบไหนในสภา ซึ่งตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ มาจนถึงพรรคก้าวไกล ก็พิสูจน์แล้วว่าเราเป็นพรรคที่กล้าชนกับความอยุติธรรม กล้าตรวจสอบความไม่ถูกต้องโดยยึดหลักผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน ทั้งกองทัพและทุนผูกขาดก็ดี พี่น้องประชาชนก็คงมีโอกาสตัดสินใจแล้วว่าพรรคการเมืองแบบนี้ยังควรมีอยู่ในสภาหรือไม่ จึงอยากให้ทุกคนร่วมกันสนับสนุนผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเบอร์ 6 เพชร กรุณพล และที่ผ่านมาประชาชนจะเห็นได้ว่าพรรคของเราได้ถูกยุบ ใส่ร้าย ถูกดำเนินคดีมาตลอด และเหตุผลคือเรายืนตรงข้ามกับฝ่ายเผด็จการ ยืนตรงข้ามฝ่ายอยุติธรรม สิ่งเดียวที่จะปกป้องพวกเราได้คือเสียงของประชาชน ในการเลือกตั้งซ่อมครั้งหน้าที่จะมาถึง


นายกรุณพล กล่าวว่า มั่นใจในการลงพื้นที่ เพราะได้ลงพื้นที่ครบทุกตรอก ซอก ซอยแล้ว และในวันนี้เป็นการขึ้นปราศรัยใหญ่ของพรรคก้าวไกล ซึ่งจะได้เห็นวิสัยทัศน์ในตัวผู้สมัครคือตัวผม และวิสัยทัศน์ของพรรคก้าวไกล อาทิ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และสมาชิกพรรคคนอื่น ๆ ที่จะนำวิสัยทัศน์ในอนาคตของพรรคที่นำประเทศไทยไปข้างหน้า จุดแข็งของการลงพื้นที่คือ การที่ผมนั้นอยู่ในพื้นที่ ทำธุรกิจ มีเพื่อนที่นี่มากว่า 23 ปี เวลามีปัญหาใด ๆ ผมเองก็รับฟังปัญหากับชาวบ้าน เพราะด้วยความเป็นนักแสดงเอง จึงทำให้เข้าถึงชาวบ้านได้แบบไม่มีผลประโยชน์ เพราะฉะนั้นจุดแข็งของเราคือการตั้งใจจริง และการอยู่ในพื้นที่มากว่า 23 ปี 


ส่วนในเรื่องความกังวลว่าอาจมีการซื้อเสียงนั้น  นายกรุณพล เผยว่า กังวลในการซื้อเสียงเพราะอาจมีการซื้อเสียงโดยที่ไม่มีหน่วยงานรัฐมาดูแลตามการหาเสียงในแบบประชาธิปไตย แต่ไม่ได้กังวลในเรื่องของการตัดเสียงคะแนน และพี่น้องประชาชนฉลาดเพียงพอที่จะรู้เงินว่า 500-1000 บาท เป็นเพียงแค่เศษเงิน และคนที่มาจ่ายก็จะนำเงินจำนวนเท่านี้ไปต่อยอดนำงบประมาณเข้ากระเป๋าตัวเอง และประชาชนฉลาดพอที่รู้ว่าเงินเท่านี้มันไม่คุ้มค่ากับชีวิตของพวกเขา 


ทั้งนี้หากได้เข้าไปภายในสภาฯ สิ่งแรกที่จะจัดการคือเรื่องของวัคซีนโควิด-19 รวมถึงระบบงานสาธารณสุข จัดตั้งหน่วยเคลื่อนย้ายเร็วในการรับส่งผู้ป่วยในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้ทันต่อการรักษาของผู้สูงอายุ และผู้คนชุมชน นายกรุณพล กล่าว


นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า สภาจะครบวาระในอีก 14 เดือนข้างหน้า ซึ่งแน่นอนเราไม่อยากให้รัฐบาลนี้อยู่ครบวาระ แต่อย่างไรก็ตามเวลาที่เหลือจะมีความท้าทายที่รอ เพชร กรุณพล อยู่ 3 อย่าง คือ 1. การอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ที่จะซักฟอกความผิดพลาดเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าครองชีพที่พุ่งสวนทางกับค่าแรง, ความล้มเหลวของการควบคุมโควิด เพชร กรุณพล จะเข้าไปทวงถามเรื่องเหล่านี้ 2. สภาจะต้องพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 เม็ดเงิน 3.185 ล้านล้านบาท นี่จะเป็นงบประมาณทิ้งทวนครั้งสุดท้ายของรัฐบาล เราจะไม่ให้เขาดันทุรังซื้ออาวุธ ซื้อเรือดำน้ำ โดรน หรือแม้แต่เครื่องบินรบ พวกเราจะไม่ยอมให้เขาจัดสรรงบประมาณที่มาจากภาษีของพี่น้องประชาชนอย่างไม่เห็นหัวประชาชน ในภาวะข้าวยากหมากแพงแบบนี้ และเพชร กรุณพลจะเข้าไปปกป้องเงินภาษีของพี่น้อง


สำหรับความท้าทายที่ 3 คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้าย ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นไม่นานหลังอภิปรายงบประมาณเสร็จสิ้น และผมบอกเลยว่านี่จะเป็นฉากอวสานของรัฐบาลประยุทธ์อย่างแน่นอน ที่ผ่านมาถ้ายังจำกันได้ พรรคก้าวไกลได้สร้างบาดแผลให้กับรัฐบาลมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรีแป้ง ยุทธการทลายรังไอโอกองทัพ เรื่องการแต่งตั้งตำรวจหรือตั๋วช้าง และนี่จะเป็นอีกครั้งที่เราจะเห็นเพชร กรุณพล เข้าไปปิดจ็อบดับอายุขัยของรัฐบาลนี้ นายพิจารณ์ กล่าว 


ขณะที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันนี้ ตนอยากมาชวนพ่อแม่พี่น้องคิดเรื่องการทำหน้าที่ของ ส.ส. อยากถามว่าเรายังติดกับดักทางวัฒนธรรมที่พวกเขาชอบบอกว่า ส.ส.ต้องเป็นผู้มีบารมี เป็นผู้มั่งมี หน้าใหญ่ใจโต ถึงจะช่วยประชาชนได้อยู่หรือเปล่า? พอได้หรือยังกับวัฒนธรรมการเมืองแบบนี้ ตลอดการทำหน้าที่ของตนเกือบ 3 ปี ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพ่อแม่พี่น้องชาวบางแคมาหลายวิกฤต หนึ่งในอาวุธสำคัญใช้ช่วยเหลือคือเวทีกรรมาธิการ ที่ ส.ส. ทุกคนมีอำนาจตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ม.129 ซึ่งกรณีที่ตนผลักดันจนสำเร็จแล้วคือ กรณีหมู่บ้านปารวีร์ ในเขตบางแค ที่ใช้เวทีนี้เสาะหาข้อเท็จจริงกรณีที่เจ้าหน้าที่รัฐอาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย ออกใบอนุญาตก่อสร้างโกดังสินค้าขนาดใหญ่  ขณะที่อาวุธสำคัญต่อมาคือการตั้งกระทู้ถามต่อบรรดารัฐมนตรี เพื่อไม่ให้เขาเกียร์ว่าง หากแต่ต้องเร่งรัดแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชน และอีกหนึ่งอำนาจหลักของ ส.ส. คือ การพิจารณากฎหมาย ชาวจตุจักร-หลักสี่ ล้วนประสบกับปัญหาน้ำท่วมขังรอระบาย ที่สำนักงานเขตเข้าไปดำเนินการแก้ไขให้ไม่ได้ เนื่องจากติดกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เป็นที่ดินของเอกชน เรื่องนี้ไม่ต่างจากในเขตบางแคและอีกหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ปัญหาลักษณะนี้ตนและพรรคก้าวไกลได้ยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินฯ เพื่อแก้ไขปัญหา ให้บรรดาลูกบ้านในโครงการหมู่บ้านต่าง ๆ  มีอำนาจในการจัดการสาธารณูปโภคต่าง ๆ  ได้เอง แม้เจ้าของโครงการจะไม่ยอมยกที่ให้ก็ตาม ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้ ได้ถูกบรรจุอยู่ในระเบียบวาระการประชุมสภาเรียบร้อยแล้ว


ผมเชื่อว่าประชาชนทุกคนไม่มีใครเป็นเจ้าของ โดยเฉพาะชาวจตุจักร-หลักสี่ ผมเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีใคร จะไม่มีนักการเมืองหน้าไหนสามารถเอาเงินมาซื้อหัวจิตหัวใจของทุกท่านได้ สิ่งที่ผมกำลังบอกกับทุกท่านก็คือ หากท่านเลือก "เพชร กรุณพล" ท่านจะได้ ส.ส.ที่มีอุดมการณ์ มีความมุ่งมั่นตั้งใจ นั่นก็คือความเป็นผู้แทนประชาชนที่กล้าชนทุกปัญหา กล้าพูดทุกประเด็น เป็น ส.ส.ที่จะไม่สร้างวัฒนธรรมการเมืองแบบผิด ๆ ไม่เอาเงินมาแจกให้เป็นหนี้บุญคุณแล้วรอวันถอนทุนคืนอย่างแน่นอน และหากใครที่กำลังลังเลว่าเลือกพรรคส้มแล้วจะไปตัดคะแนนพรรคโน้นพรรคนี้ไหม จะทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยพ่ายแพ้ไหม ผมขออย่างเดียว ขอให้ท่านใช้หัวใจเลือก อย่าไปฟังเซียนการเมืองมากไป รักใคร ชอบใคร นิยมแนวทางของพรรคไหน เลือกพรรคนั้น ไม่ต้องลังเล เพราะถ้าหากทุกคนลังเลแบบนั้นตั้งแต่การเลือกที่ผ่านมา ก็คงไม่มี ส.ส.เขตแบบผม หรือแบบ ส.ส.ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ในวันนี้อย่างแน่นอน นายณัฐพงษ์ กล่าว 


นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า เสียงปี่กลองแห่งการเลือกตั้งดังขึ้นแล้วใน กทม. เขตจตุจักร-หลักสี่ และวันที่ 30 มกราคมนี้ จะเป็นวันลั่นกลองรบครั้งสำคัญของพรรคก้าวไกล ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่ได้คะแนนป๊อบปูล่าโหวตสูงที่สุดใน กทม. เพราะฉะนั้น เป็นหน้าที่ของพวกเราที่จะต้องเฟ้นหาคนที่ใช่ที่สุด เหมาะสมที่สุด กล้าหาญและมีอุดมการณ์ มีจุดยืนตรงกับพรรคมากที่สุด รวมทั้งผ่านการทำงานร่วมกับพรรคมาแล้ว พิสูจน์ตัวเองมาแล้ว มั่นใจว่าเมื่อเป็น ส.ส.จะทำงานตอบสนองพี่น้องชาวจตุจักร-หลักสี่ ทั้งงานในพื้นที่และงานในสภาได้ เราไม่ส่งก้อนกรวดก้อนหินดินทรายมาให้กับท่าน แต่เราส่งอัญมณีที่มีค่าที่สุด มีแสงแวววาว มีแสงในตัวเองมากที่สุด แข็งแกร่งและทนทานมากที่สุด เรามั่นใจที่จะส่ง "เพชร กรุณพล" เป็นตัวแทนสู้ศึกเลือกตั้งซ่อมครั้งสำคัญของพรรคก้าวไกล  "เพชร กรุณพล" ไม่ใช่คนแปลกหน้าของชาวก้าวไกล ไม่ใช่คนแปลกหน้าของพี่น้องผู้รักและออกมาต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และไม่ใช่คนแปลกหน้าของพี่น้องชาวจตุจักร-หลักสี่แต่อย่างใด เขาเข้ามาร่วมทำกิจกรรมกับพวกเราตั้งแต่ครั้งยังเป็นพรรคอนาคตใหม่อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันในงานอาสาสมัครต่าง ๆ เขาแสดงจุดยืนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยชัดเจนผ่านการสื่อสารช่องทางต่าง ๆ มานานแล้ว และเขาก็ไม่ใช่คนแปลกหน้าของพี่น้องชาวจตุจักร-หลักสี่ เพราะจากที่มีโอกาสได้ไปร่วมหาเสียงด้วยกัน เขารู้จักปัญหาทุกตรอกซอกซอยอย่างละเอียด เพราะมีกิจการร้านอาหารของครอบครัวอยู่ในพื้นที่ และ "เพชร กรุณพล" ก็เรียนจบจาก ม.เกษตรศาสตร์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่นี้นี่เอง


มีสุภาษิตกล่าวไว้ว่า ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ วันนี้ดิฉันของเปลี่ยนเป็น ดูนายให้ดูแม่ และมีสุภาษิต ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะแม่ของเพชร กรุณพล คือ จิตประภัสสร เทียนสุวรรณ นางสาวไทยปี 2509 หรือชื่อเล่นว่าพี่แดง เป็นคนที่ดิฉันรู้จักและเคารพนับถือในการเป็นนักสู้ พี่แดงเป็นนักสู้ตัวแม่ เป็นที่รู้จักของเหล่าบรรดาผู้รักประชาธิปไตยและรังเกียจเผด็จการอย่างกว้างขวาง ในทางส่วนตัว ดิฉันภูมิใจในความเป็นนักสู้ของพี่แดง ให้ความเคารพนับถือ และพี่แดงก็ให้ความรัก ให้กำลังใจดิฉันตลอดมา ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เพราะ "เพชร กรุณพล" ก็เป็นนักสู้เหมือนแม่แดง จิตประภัสสร นางอมรัตน์ กล่าว 


ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในเวทีการปราศรัยในวันนี้ นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล และ ส.ส.กรุงเทพมหานคร ยังได้ทำหน้าที่สัมภาษณ์ นายอภิวัฒน์ ด่านศรีชาญชัย หรือ มาร์ท ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตจตุจักร ซึ่งทำงานในพื้นที่มาอย่างต่อเนื่องจนเกิดกระแสในโซเชียล #ใครติดสะกิดมาร์ท ที่มาจากกรณีการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดในพื้นที่ และเป็นหนึ่งในผู้ที่พา "เพชร กรุณพล" เดินรณรงค์หาเสียงมาแล้วทั้ง 3 แขวงของเขตจตุจักร ไม่ว่าจะเป็นแขวงลาดยาว แขวงเสนานิคม และแขวงจันทรเกษม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนมีสิทธิ์เลือกตั้งในครั้งนี้ โดย อภิวัฒน์ ตอบคำถามตอนหนึ่งว่า กรณีเกิดกระแส #ใครติดสะกิดมาร์ท มาจากความตั้งใจของตนเองที่จะมาลงสมัคร ส.ก.เขตจตุจักร และได้ทำงานในพื้นที่มา 2 ปีกว่า กระทั่งเกิดการระบาดของโควิด-19 ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือโดยการหาเตียงให้ผู้ป่วย ช่วยทำการตรวจ ATK ส่งน้ำ ส่งข้าว ส่งยา ให้กับผู้ป่วยที่ทำการโฮม ไอโซเลชั่น และด้วยการทำงานที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างมากในช่วงนี้เอง ที่ทำให้เกิดกระแสดังกล่าวในโซเชียลมีเดีย อย่างไรก็ตาม สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ ส.ก.ที่อย่างไรก็ต้องมีขึ้นในอนาคต ตนมุ่งมั่นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ทำงานประสานกับ ส.ส. ที่มาจากพรรคเดียวกันอย่างไร้รอยต่อ ดังนั้น วันที่ 30 มกราคมนี้ อยากเชิญชวนเลือก เพชร กรุณพล เบอร์ 6 เพื่ออนาคตของชาวจตุจักร-หลักสี่ 


#ก้าวไกล #เลือกตั้งซ่อมหลักสี่ #UDDnews #ยูดีดีนิวส์