วันอังคารที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2565

ทะลุฟ้า-เครือข่ายแรงงาน พร้อมแนวร่วมอื่น ๆ อุ้มลูกหมูบุกทำเนียบ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ร้องมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือปากท้องประชาชนและ ชี้ รัฐแก้ของแพงไม่ถูกจุด ด้านตำรวจสกัดใช้แผงเหล็กกั้นทำให้ต้องทำกิจกรรมที่เชิงสะพานชมัยฯ

 


ทะลุฟ้า-เครือข่ายแรงงาน พร้อมแนวร่วมอื่น ๆ อุ้มลูกหมูบุกทำเนียบ ยื่นหนังสือถึงนายกฯ ร้องมาตรการเร่งด่วนช่วยเหลือปากท้องประชาชนและ ชี้ รัฐแก้ของแพงไม่ถูกจุด ด้านตำรวจสกัดใช้แผงเหล็กกั้นทำให้ต้องทำกิจกรรมที่เชิงสะพานชมัยฯ


วันนี้ (18 ม.ค. 65) สืบเนื่องจากกลุ่มทะลุฟ้า,เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิมนุษยชน, กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย, กลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรี, องค์การบริหารองค์การนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นัดหมายจัดกิจกรรมที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ประตู 4 ในเวลา 10.00 น.


เพื่อยื่นข้อเสนอการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนด้วยข้อเสนอ เพื่อแก้ปัญหาสินค้าราคาแพง ด้วยการเพิ่มรายได้ให้คนทำงาน ลดรายจ่าย และควบคุมราคาสินค้าให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจในช่วงนี้


ขณะที่เวลาประมาณ 9.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดการจราจรบนสะพานชมัยมรุเชฐสกัดผู้ชุมนุมไม่ให้ไปถึงหน้าทำเนียบ โดยใช้รั้วเหล็กปิดถนนตั้งแต่สะพานชมัยมรุเชฐ ไปจนถึงแยกมิสักวัน ผู้ชุมนุมจึงไม่สามารถนำรถเครื่องขยายเสียงเข้าไปในพื้นที่ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งว่าการปิดถนนดังกล่าวเป็นการปิดถนนชั่วคราว และแจ้งเตือนกลุ่มผู้ชุมนุมว่าอาจมีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ


ทั้งนี้ได้มีการรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล รวมไปถึงสนธิกำลังจากนครบาล ตรึงกำลังโดยรอบพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ปิดประตูทางเข้าประตูหนึ่ง ซึ่งเป็นทางเข้าออกหลักของนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการนำรั้วเหล็กมาปิดบริเวณด้านหน้า


ด้าน ธนพร วิจันทร์ ตัวแทนเครือข่ายแรงงานฯ กล่าวว่าประชาชนมาติดตามข้อเรียกร้องเงินผู้สูงอายุ 3000 บาท เงินช่วยค่าเทอม ดูแลเด็ก และมาแสดงออกถึงสินค้าแพงค่าแรงถูก อีกทั้งรัฐบาลไม่ดำเนินการตามที่หาเสียง ปล่อยให้ประชาชนลำบาก และวันนี้ยังปิดกั้นการเรียกร้องและการแสดงออกของประชาชนอีก


ต่อมาตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมนำโดยนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ได้ย้ายสถานที่ในการจัดกิจกรรมมาปักหลักบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ และเริ่มกิจกรรมชี้แจงปัญหาความเดือดร้อนให้เวลาประมาณ 10.30 น. 


ทั้งนี้ก่อนการเริ่มกิจกรรมมีเหตุชุลมุนเล็กน้อยเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดถนนบริเวณแยกพาณิชยการเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ ไม่ให้รถเครื่องเสียงเข้ามาบริเวณด้านหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยถอยรถกระบะตำรวจขวางไว้ ด้านมวลชนพยายามเข้าดันทำให้มีการฉุดกระชากกันเล็กน้อย


ด้านนายสมยศ จึงกระโดดขึ้นท้ายรถกระบะ กล่าวว่าในเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจถอยรถมาขวางแบบนี้ เราจึงขอใช้พื้นที่บริเวณท้ายรถกระบะเจ้าหน้าที่ทำการปราศรัย ถึงปัญหาที่รัฐบริหารงานผิดพลาด ซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบอย่างมาก


โดยมีตัวแทนกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ตัวแทนนิสิตนักศึกษา และภาคประชาชนสลับกันปราศรัย 


สำหรับข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม คือ ขอให้มีการฟื้นฟูเศรษฐกิจและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ทั้งลดภาษีมูลค่าเพิ่ม Vat จาก 7% ให้เหลือ 5%, ลดค่าบำรุงการศึกษาหรือค่าเทอมนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมจนถึงมหาลัยเป็นเวลา3 ปี, ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสาธารณะ BTS / MRT เหลือครึ่งราคา, เพิ่มเงินยังชีพผู้สูงอายุและผู้พิการจาก 600 บาท เป็น 3000 บาทต่อเดือน เพิ่มเงินค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 425 บาท ปริญญาตรีเดือนละ 20,000 บาท อาชีวะเดือนละ 18,000 บาท ตามที่พรรคพลังประชารัฐเคยหาเสียงไว้


ปิดท้ายด้วยตัวแทนเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิมนุษยชนอ่านแถลงการณ์กลุ่มและวัตถุประสงค์ระบุว่า วันนี้ต้องการยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องจากตั้งแต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่สืบทอดอำนาจและแต่งตั้งคนของตัวเองขึ้นมาทำงาน ทำให้ผู้ใช้แรงงานเดือดร้อน และไม่ฟังเสียงประชาชน 


พร้อมกล่าวด้วยว่าตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน เข้ามาบริหารประเทศ เพิ่งจะมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 30 กว่าบาท ผ่านมา 8 ปี ปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำไป 30 กว่าบาท แต่ค่าครองชีพปรับตัวสูงขึ้น จากหมูกิโลกรัมละไม่ถึง 100 บาท ตอนนี้ราคา 300 กว่าบาทแล้ว


และย้ำด้วยว่า หากไม่มีความสามารถในการบริหารประเทศก็ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออกไป


จากนั้นในเวลา 12.10 น. ตัวแทนจากสำนักนายกรัฐมนตรีได้ออกมารับหนังสือ โดยที่ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มต่าง ๆ ร่วมยื่นและได้อุ้มลูกหมู 2 ตัว ขณะยื่นด้วย  โดยด้านหลังของลูกหมูมีข้อความเขียนว่า "ปิดบังโรคระบาด", "หมูแพงค่าแรงถูก" และยุติกิกรรมในเวลาต่อมา 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ม็อบ18มกรา64