หมอทศพร-เครือข่ายแพทย์พยาบาลเพื่อมวลชน พบ"อนุทิน" จี้ฉีด Pfizer ให้บุคลากรด่านหน้าทั้งในและนอกระบบโดยไม่มีข้อยกเว้น
วันนี้ (11 ส.ค. 64) ที่กระทรวงสาธารณมุข เวลา 10.30 น. กลุ่มแพทย์พยาบาลเพื่อมวลชน นักศึกษา ประชาชน บุคลากรสาธารณสุข และ นายแพทย์ทศพร เสรีรักษ์ พญ.ขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ น.ส.สิริลภัส กองตระการ หรือ หมิว เดินทางไปพบนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขอความชัดเจนและโปร่งใส ในการจัดการวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับบุคลากรสาธารณสุข อาสาสาสมัคร ผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับศพ และขยะ
ด้านนพ.ทศพร กล่าวถึงประเด็นหลักที่มาวันนี้คือ เรื่องวัคซีนไม่เพียงพอ ไม่ทั่วถึง โดยเฉพาะไฟเซอร์ ไม่ได้มาเพื่อสร้างปัญหา แต่อยากช่วยแก้ปัญหา เนื่องจากได้รับร้องเรียนมาเรื่องการจัดสรรวัคซีนไม่ทั่วถึง ไม่เพียงพอ บุคคลที่ยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน แต่กลับได้วัคซีนแล้ว จึงอยากให้กระทรวงสาธารณสุขกำหนดแผนการกระจายวัคซีนที่ชัดเจนว่าไปที่ไหนบ้าง ฉีดใครก่อน วัคซีนจำนวน 1.5 ล้านโดส ต้องพอเพียง หากบอกว่าให้บุคลากรสาธารณสุขทั้งในและนอกระบบก่อน เชื่อว่า ประชาชนยินดี และอยากให้ติดรายชื่อประจำหน่วยฉีดให้ชัดเจน ระบุชื่อ ตำแหน่ง เหตุผล อย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถมีการตรวจสอบได้อย่างชัดเจน
ตนจึงขอเรียกร้องให้ 1.รัฐมนตรีได้กำหนดแผนการกระจายวัคซีนให้ชัดเจนและวัคซีนต้องเพียงพอสำหรับบุคลากรสาธารณสุขทุกคนตลอดจนผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดการศพ 2.รายชื่อบุคคลที่จะได้รับการฉีดวัคซีนให้ระบุชื่อตำแหน่งหน้าที่การปฏิบัติงานเหตุผลที่ชัดเจนให้ประชาชนสามารถเข้าถึงตรวจสอบและคัดค้านได้ทั้งในรูปแบบของการติดประกาศที่หน่วยฉีดหรือเว็บไซต์
โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล และ นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยสาธารณสุขได้มาพบและรับข้อเรียกร้อง โดยใช้ห้องประชุม"ชัยนาทเรนทร" เป็นห้องหารือ และนายอนุทินได้มอบหมายให้ นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นผู้ชี้แจง และได้กล่าวเกี่ยวกับวัคซีนไฟเซอร์ว่า ข้อมูลล่าสุด ได้รับทราบว่าสหรัฐอเมริกา จะบริจาควัคซีนให้กับประเทศไทยเพิ่มเติมอีก 1 ล้านโดส คาดว่าน่าจะเป็นวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งเป็นส่วนที่เพิ่มเติมจากที่ได้บริจาคมาแล้ว 1.5 ล้านโดส ขณะที่แผนการจัดหาวัคซีนของประเทศไทย สำหรับปี 2564 เราจะได้สั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์แล้วจำนวน 20 ล้านโดส โดยล่าสุด ทางบริษัทผู้ผลิตได้แจ้งว่าจะมีการจัดสรรโควต้าเพิ่มให้อีก 10 ล้านโดสในปีนี้ ซึ่งจะรวมเป็น 30 ล้านภายในไตรมาส 4 ของปีนี้
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์
ประมวลภาพ