สื่อ-ประชาชน และทนาย ร้องศาลแพ่งเพิกถอนข้อกำหนด 29 พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ระงับเน็ต พร้อมขอคุ้มครองชั่วคราว หลังนายกฯ ออกคำสั่ง ปิดกั้นข่าวสารอ้างสร้างความหวาดกลัว ย้ำสื่อมีจริยธรรมและเสรีภาพ
วันนี้ (2 ส.ค. 64) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน พร้อมด้วยตัวแทนสื่อมวลชน และทนายความ ได้นำเอกสารเข้าร้องต่อศาลแพ่งรัชดา เพื่อยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และในฐานะเป็นผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 จากกรณีออกข้อกำหนดฉบับที่ 29 ให้อำนาจ กสทช. "ตัดเน็ต" ผู้โพสต์ข้อความอันอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว ซึ่งเป็นการออกคำสั่งโดยไม่มีอำนาจ ไม่มีความจำเป็น ไม่ได้สัดส่วน และขัดต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560
ทั้งนี้ นายนรเศรษฐ์ หนองนาตูม ทนายความ เปิดเผยว่า การยื่นฟ้องในวันนี้เพื่อให้ศาลพิจารณาการออกคำสั่ง คุ้มครองชั่วคราว และขอให้ศาลนัดไต่สวนคำสั่งดังกล่าวเนื่องจากในมุมมองของสื่อมีการจำกัดความหวาดกลัวไว้ชัดเจน แต่ในกรณีนี้ไม่มีการระบุความหมายที่ชัดเจน ซึ่งอาจทำให้เกิดความวุ่นนวายได้ ส่วนการให้อำอาจกสทช.ระงับสัญญาณอินเตอร์เน็ต เป็นการเข้าข่ายผิดบทบัญญัติจำกัดสิทธิเสรีภาพ โดยเฉพาะการให้อำนาจเลขากสทช.เป็นผู้ดำเนินการจะทำให้ประชาชนไม่มีช่องทางยื่นหนังสือเพื่อต่อสู้คดี
ด้าน นางสาวฐาปนีย์ เอียดศรีชัย ตัวแทนสื่อมวลชน ได้ย้ำจุดยื่นของสื่อมวลชนว่า มี่ผ่านมาสื่อปฏิบัติหน้าที่ โดยยึดในหลักจริยธรรมมาโดยตลอดไม่เคยบิดเบือนหรือกล่าวหาโดยไม่มีพยานหลักฐานหรือการตรวจสอบ ซึ่งที่ผ่านมาสื่อมวลชนนำเสนอความจริงทุกอย่างโดยเฉพาะสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ขณะเดียวกันมองว่าในสถานการณ์ที่ประชาชนหวังพึ่งสื่อเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่กลับถูกปิดกั้นและนำกฎหมายมาควบคุมก็จะยิ่งทำให้ประชาชนไม่กล้าร้องขอความช่วยเหลือ จนท้ายที่สุดแม้ว่าจะมีผู้เสียชีวิตในบ้านก็จะไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเพราะกลัวความผิด เกรงกลัวกฎหมาย
ส่วนกรณีที่มีประกาศล่าสุดระบุ อนุโลมให้เฉพาะสื่อมวลชนนั้นที่สามารถนำเสนอข้อมูลได้ ในฐานะตัวแทนสื่อมวลชนมองว่าสิ่งนี้ไม่ใช่แค่สื่อที่จะได้รับการอนุโลมแต่ต้องเป็นคนไทยทุกคนที่ควรได้รับสิทธิ์อย่างเท่ากัน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์