ครบ 1 ปี ม็อบแฮรี่พอตเตอร์ จุดเทียนอาลัยผู้สูญเสีย แนะยื่นไม้กายสิทธิ์ mRNA ปลุกประชาชน 7 สิงหา สู้คือทางรอด
วันนี้ (3 ส.ค.64) ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร กลุ่มราษฎรจัดกิจกรรม โดยใช้ชื่อว่า "เสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาชน" เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี ม็อบ "เสกคาถา ปกป้องประชาธิปไตย" หรือ #ม็อบแฮร์รี่พอตเตอร์ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2563 อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝั่งแมคโดนัลด์
ซึ่งกิจกรรมหลักวันนี้จะมีการปราศรัยจากแกนนำของเครือข่ายต่าง ๆ อาทิ นายอานนท์ นำภา, น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์, นายธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย, แชมป์ ครช. และ นัท ศาลายา เป็นต้น
โดยเน้นหัวข้อเรื่องการเปลี่ยนแปลงตลอด 1 ปีที่ผ่านมาของสถาบันกษัตริย์และประชาชน
โดยเมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. พ.ต.อ.พันษา อมราพิทักษ์ผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน อ่านประกาศข้อห้ามการรวมตัวชุมนุมทางการเมือง ในช่วงของการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
ต่อมาเวลา 17.30 น.นายอานนท์ ได้ขึ้นปราศรัยในประเด็นกระบวนการยุติธรรมในประเทศ และประเด็นที่กล่าวถึงสถาบัน โดยยังยืนยันในข้อเรียกร้องเดิมของทางกลุ่มราษฎรตั้งแต่ต้น ทั้ง 3 ข้อคือ ขับไล่รัฐบาล แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบัน ทั้งนี้นายอานนท์ยังกล่าวว่า
ขอประกาศนับแต่นี้ว่า การชุมนุมจะใช้ สันติวิธีเพดานสูงสุด อย่ามาขู่ใช้ กฎอัยการศึก ถ้าเห็นประชาชนเป็นข้าศึก เป็นศัตรู ประกาศเลย ได้เห็นดีกัน ทุกวันนี้คนสู้อย่างหลังชนฝาที่สุดแล้ว ไม่ออกมา ก็รอความตายอยู่บ้าน ไม่ต่อสู้ไม่มีทางที่วัคซีนดี ๆ จะเข้ามา เรากำลังต่อสู้เพื่อสร้างอนาคตไปด้วยกัน
ในปีนี้ เราจะสู้อย่างเป็นระบบมากขึ้น อย่างมีแนวทาง มีการปราศรัยในขบวน การกดดัน และเราจะเสนอกฎหมายเข้าสภาด้วย ประเทศนี้ปกครองด้วย "นิติรัฐ" ด้วยกฎหมาย เราจึงต้องมีความเชื่อมั่นในการร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่ ถ้าผู้แทนราษฎรพรรคหนึ่งพรรคใดไม่เอาด้วย ได้เห็นดีในการเลือกตั้ง เราจะออกกฎหมายทวงคืนมาให้หมด รัฐธรรมนูญเราจะแก้ไขให้หมด ทหารทุกคนจะปกเดียวกัน คือปกป้องประชาชน ส่วนของกฎหมาย เราก็จะทำอย่างเต็มความสามารถ เพื่อรักษาการปกครอง โดยแก้ไขให้ดีขึ้น” นายอานนท์กล่าว
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกว่า อย่าไปคิดว่า จับแกนนำ แล้วจะไม่มีการชุมนุม ทุกคนมีความเป็นแกนนำ มีความคิดของตัวเอง 7 สิงหาคม นี้ จึงเป็นอีกวันที่จะพิสูจน์ว่า ทุกคนเป็นแกนนำ
และในเวลา 18.15 น. นางสาวภัสราวลี ได้ขึ้นปราศรัยประเด็นการปฎิรูปข้อกฎหมายอาญามาตรา 112 และสถาบันฯ พร้อมปลุกใจให้มวลชนออกมาร่วมกันสู้ในกิจกรรมวันที่ 7 สิงหาคม นี้ กล่าวบางส่วนว่าประชาชนอย่างเราจะลุกขึ้นมาปลดโซ่ตรวนที่ชนชั้นนำครอบเอาไว้
ขอทุกคนอย่าย่อท้อ เราและเราประชาชนเท่านั้นที่จะกำหนดทิศทางประเทศ
จากนั้น เวลา 18.55 น. น.ส.พริม มณีโชติ หรือ "เอ๋ย" พิธีกร กล่าวเชิญชวนประชาชนร่วมจุดเทียนไว้อาลัยผู้สูญเสียจากโรคโควิด-19 โดยกล่าวว่า "ให้แสงเทียน เป็นตัวแทนพ่อแม่ของใครสักคน เราจะไม่ให้ผู้เสียชีวิตเป็นเพียงแค่จำนวนนับ อยากให้พวกท่านร่วมเดินทางต่อไปกับพวกเรา แต่ก็ไม่ลืมอดีตที่ขมขืนตลอด 7 ปี โดยเฉพาะ 2 ปีสุดท้าย ที่ไม่ควรจะเป็นอย่างในขณะนี้ ความตายที่เกิดขึ้นในประเทศนี้ ไม่ได้เกิดเพียงแค่โรคโควิดอย่างเดียว แต่เกิดจากการจัดสรรที่ล้มเหลวของรัฐบาล
เทียนที่ถูกจุดขึ้นในค่ำวันนี้ เป็นตัวแทน ไม่ใช่เพียงผู้เสียชีวิต แต่คือทุกเสียงที่ถูกหลงลืม เราไม่จำเป็นที่ต้องจัดกิจกรรมแบบนี้ขึ้น ไม่ต้องร่วมไว้อาลัย ถ้ารัฐบาลชุดนี้ไม่ได้บริหารงานโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา น.ส.พริมกล่าว
จากนั้นนายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า ราษฎรมูเตลู จุดเทียนแล้วเดินเข้าไปในวงของประชาชนที่ล้อมวงจุดเทียน และชู 3 นิ้ว เปิดแฟลชจากโทรศัพท์มือถือ พร้อมโบกมือตามเสียงเพลง
โดย นายณัฐพงษ์ ภูแก้ว หรือ "แก้วใส" นักร้อง และมือกีตาร์วงสามัญชนวงสามัญชน บรรเลง "เพลงเพื่อมวลชน" ของ จิ้นกรรมาชน ตามด้วย "บทเพลงของสามัญชน" และ เพลง "เราคือเพื่อนกัน" และยุติกิจกรรมในเวลาต่อมา โดยนัดหมายให้เจอกันวันที่ 7 สิงหาคม นี้ ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยติดตามนัดหมายโดยละเอียดได้ที่เพจต่าง ๆ ของแนวร่วมราษฎร
ทั้งนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้เตรียมกำลังตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจำนวน พร้อมด้วยรถฉีดน้ำจีโน่ไว้ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขณะที่บริเวณพื้นที่จัดกิจกรรมแยกปทุมวัน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบประจำจุดเพื่อดูแลสถานการณ์โดยรอบ
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ม็อบ3สิงหา #ม็อบแฮรี่พอตเตอร์ #ไล่ประยุทธ์
ประมวลภาพ