“ทนายกฤษฎางค์-แม่เพนกวิน” ยื่นศาลอาญา ขอมีคำสั่งส่งตัว “พริษฐ์”
รักษารพ.ธรรมศาสตร์ฯ ปูด มีบิ๊กขรก.ประจำ ไม่เห็นด้วยให้ส่งตัว
พร้อมยื่นประกันตัวไผ่ วันนี้หลังได้ข่าวอาจติดโควิด
วันนี้
(25 ส.ค. 64) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ ศาลอาญา
ถนนรัชดาภิเษก นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
พร้อมด้วยนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน
เดินทางเข้ายื่นเรื่องขอให้ศาลมีคำสั่งส่งตัวนายพริษฐ์ ไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์
เฉลิมพระเกียรติ
โดยนายกฤษฎางค์
กล่าวว่า เรามายื่นตามมารตา 89/1 ป.วิ.อาญา
ขอให้ศาลมีคำสั่งให้ส่งตัวนายพริษฐ์ไปรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ
เนื่องจากเรายื่นไปที่กรมราชทัณฑ์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์
และรัฐมนตรีว่ากากรกระทรวงยุติธรรมแล้ว ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ
ซึ่งหลังจากทนายไปเยี่ยมมาพบว่านายพริษฐ์ติดโควิดแน่นอน
และอาการยังไม่ดีขึ้นถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
จะมีความเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตหรือไม่ ซึ่งตามกฎหมายให้อำนาจศาล
ถ้าเห็นสมควรจะส่งตัวผู้ที่ถูกจองจำ กักขังในคำสั่งศาล ไปยังสถานที่อื่นที่ปลอดภัย
ซึ่งกรณีอย่างนี้มีอยู่ทั่วไป จะเห็นได้จากคดีเก่า
ที่ผู้หลักผู้ใหญ่บางคนไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
หรืออดีตที่ล่วงลับไปแล้วที่เคยมีคดีความก็ไปนอนรักษาตัวเวลาอายุมาก
ซึ่งอาจจะเป็นความเสี่ยงในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ตนก็ไม่ได้ดูแคลน เพียงแต่มั่นใจตรงที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ
เป็นโรงพยาบาลของรัฐ เป็นโรงเรียนแพทย์
และมีความสามารถในการรักษาโรคโควิดโดยตรง นายพริษฐ์มีประวัติการรักษาที่นั่น
เพราะเป็นโรคหอบหืดอยู่แล้ว เราหวังว่าศาลจะพิจารณา
เมื่อถามว่า
ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ มีการออกมาระบุว่าเตียงเต็ม นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า
เรามีหนังสือตอบรับ
เนื่องจากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ก็เหมือนกับโรงพยาบาลทั่วประเทศคือภาวะการรักษาคนป่วยด้วยโรคโควิดก็คงยังเต็มอยู่
แต่เนื่องจากนายพริษฐ์ รวมถึงนายสิริชัย นาถึง เป็นนักศึกษาธรรมศาสตร์
เราได้ประสานงานจนเป็นที่ยืนยันแล้วว่าพอจะรักษาได้มีความสามารถ เครื่องมือ
และยารักษาโรค ดังนั้นมั่นใจว่าถ้าไปยื่นโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ในบรรยากาศแบบนี้
นอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้เรือนจำได้เปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังรายอื่น
เราคิดว่าชีวิตผู้ต้องขังทุกคนสำคัญ อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ระบุว่ากรณีของนายพริษฐ์
และนายสิริชัย ทางโรงพยาบาลยินดีรักษา
“ตอนนี้มีเหตุขัดข้องอยู่คือ มีผู้บริหารระดับสูงเพียงคนเดียวของกระทรวง
ในฝ่ายราชการประจำที่ยังไม่เห็นด้วยในการส่งตัวนายพริษฐ์
และนายสิริชัยไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ ส่วนในระดับกรมราชทัณฑ์
และในระดับโรงพยาบาลที่เขารู้อาการ คุณหมอเขาก็ไม่ขัดข้อง
มีเพียงแต่ผู้บริหารสูงสุดในฝั่งข้าราชการประจำที่ไม่เห็นด้วย คงต้องขออำนาจศาล
เพราะถ้านายพริษฐ์เป็นอะไรความรับผิดชอบจะตกอยู่ที่กรมราชทัณฑ์ และเสียหายไปหมด”
นายกฤษฎางค์ กล่าว
เมื่อถามว่ามีความกังวลอะไรเรื่องนี้บ้าง นางสุรีย์รัตน์ กล่าวว่า กังวลเรื่องอาการของนายพริษฐ์ กรณีอื่น ๆ ที่ผ่าน กว่าจะมีการอนุมัติให้ย้ายก็มีอาการหนัก อย่างกรณีนายศักดิ์ชัย ตั้งจิตสดุดี หรือเฮียซ้ง ดังนั้น จากคนที่อาการดี ๆ รักษาได้ง่าย ๆ จะต้องรอให้ให้อาการหนัก แล้วค่อยจัดการ ก็อันตรายเกินไป นอกจากนี้ถ้าเพนกวินได้ไปรักษาที่อื่นก็ได้มีที่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ให้คนอื่นอีก เพราะโรงพยาบาลราชทัณฑ์ต้องรับผู้ต้องหาจากต่างจังหวัดเข้ามารักษาด้วย นายพริษฐ์บอกว่าคนรอเตียงข้าง ๆ เขามีแต่อาการหนักทั้งนั้น ดังนั้นเจ้าหน้าที่ก็ต้องเอาทรัพยากรที่มีไปรักษาคนอื่น นอกจากนี้ หากได้ย้ายไปโรงพยาบาลธรรมศาตร์ฯ เขาก็จะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระได้ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะคัดค้าน
นายกฤษฎางค์
ยังกล่าวอีกว่า วันนี้ทีมทนายความได้ไปยื่นประกันตัวนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา
หรือไผ่ ดาวดิน เนื่องจากเราไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์
ที่ได้ข่าวว่านายจตุภัทร์ ติดโควิด
ส่วนจะมีการทำเรื่องขอย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ หรือไม่นั้น
ขณะนี้ยังไม่มี เพราะนายจตุภัทร์ เป็นนักศึกษาปริญญาโท ของมหาวิทยาลัยมหิดล
แล้วเพิ่งทราบข่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทนายดำเนินการตรวจสอบ เพื่อยืนยันว่าติดจริงหรือไม่
เพราะเราทราบมาจากพ่อของนายจตุภัทร์ เป็นผู้โพสต์ว่าติด และมีอาการแล้ว อย่างไรก็ตาม
เรื่องนี้ไม่ได้เกินกว่าความคาดหมาย
เพราะบรรยากาศในเรือนจำของประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อทุกวัน มีโอกาสติดเชื้อสูง
ตนยังห่วงเด็ก ๆ อีก 7-8 คนที่ติดอยู่ที่เรือนจำธัญบุรี ซึ่งสภาพค่อนข้างแย่
ต้องยอมรับถ้าเราไม่โกหกตัวเอง ขณะนี้ทนายกำลังจะไปยื่นขออุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 1
“เด็ก ๆ พวกนี้ยังไม่มีการตัดสินว่าเป็นคนผิด และยังเป็นเยาวชน ผมคิดว่า ถ้าคุยกันได้ หาเงื่อนไขต่าง ๆ ถ้ากลัวหนีจริง ๆ ซึ่งความจริงคงไม่หนีอยู่แล้วนั้น ก็ตั้งเงื่อนไข ให้เขาได้ไปรักษาตัว อย่าปล่อยให้เยาวชนต้องติดคุก ไปเพิ่มจำนวน เพราะเท่าที่มีอยู่รัฐบาลก็แก้ไขไม่ได้อยู่แล้ว วันนี้เราจะยื่นประกันนายอานนท์ นำภา เพราะนายอานนท์ก็อยู่ที่สถานสถานบำบัดกลาง เรือนจำคลองเปรม ซึ่งค่อนข้างเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด ตอนนี้นายอานนท์ถูกฝากขังระหว่างสอบสวนซึ่งศาลอาญากรุงเทพใต้ไม่ให้ประกัน แต่วันนี้เราจะยื่น เพราะเราได้ความจากตำรวจแล้วว่า ระหว่างสอบสวนไม่จำเป็นต้องกักขังไว้ แต่ต้องดูว่าศาลจะว่าอย่างไร โดยวันนี้เราเตรียมหลักทรัพย์ไว้เท่าเดิม เนื่องจากอาจารย์มีภารกิจ คงใช้เงินสดจากกองทุนราษฎรประสงค์”
#COVID19
#โควิด19
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์