วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564

คุยกับ “หนึ่ง-ฐนกร” เหยื่อความรุนแรงของเจ้าหน้าที่คฝ. ผู้สูญเสียดวงตา ณ สามเหลี่ยมดินแดง วันเดียวกับ “ลูกนัท” โดนยิง!

 


คุยกับ “หนึ่ง-ฐนกร” เหยื่อความรุนแรงของเจ้าหน้าที่คฝ. ผู้สูญเสียดวงตา ณ สามเหลี่ยมดินแดง วันเดียวกับ “ลูกนัท” โดนยิง!

 

เมื่อวานนี้ (30 ส.ค. 64) ผู้สื่อข่าวอาสาของยูดีดีนิวส์ ได้พบกับชายผู้ตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 64 ในวันนั้นกลุ่ม #ทะลุฟ้า ได้จัดกิจกรรม “ศุกร์13 ไล่ล่าทรราช” และเกิดเหตุการณ์ที่ตำรวจยิงกระสุนแก๊ซน้ำตาใส่ “ลูกนัท”จนได้รับบาดเจ็บที่ตาอย่างรุนแรง

 

ขณะเดียวกันก็มีชายอีกคนหนึ่งที่ชะตากรรมไม่ต่างอะไรกับลูกนัท มิหนำซ้ำเขาถูกกระสุนยางยิงผ่านทะลุหมวกกันน็อคเป็นผลทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาทั้งสองข้าง ซึ่งเขาได้เปิดใจผ่านผู้สื่อข่าวอาสา “ยูดีดีนิวส์” เพื่อเผยแพร่เรื่องราวให้สังคมได้รับรู้เรื่องดังกล่าว

 

เขาคือ นายฐนกร ผ่านพินิจ หรือ หนึ่ง อายุ 46 ปี อาศัยอยู่แถวอ่อนนุช เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ ประกอบอาชีพรับจ้างขับรถ 6 ล้อ เป็นเสาหลักของครอบครัว หาเลี้ยงครอบครัว มีลูก 2 คน คนโตจบการศึกษาแล้ว ส่วนอีกคนเรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 2 ส่วนภรรยาขายกาแฟในวัด ซึ่งในสถานการณ์โควิด-19 นี้ก็ขายของไม่ค่อยได้ คนไม่ค่อยมาวัด

.

ฐนกร เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า “เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 64 เขาได้ขับรถผ่านมาสังเกตุการณ์การชุมนุมบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง โดยวิ่งรถจักรยานยนต์มาจากวิภาวดีรังสิต ช่วงนั้นถนนใช้ได้เลนเดียวซ้ายมือเพื่อจะไปทางถนนพระราม 9 เวลาประมาณ 17.00 น. เห็นคฝ.ประมาณ 10 กว่าคนบนทางด่วน เมื่อเขาขี่รถผ่านมาตอนนั้นก็ถูกระดมยิ่งอย่างหนัก ซึ่งบริเวณนั้นตนเห็นมีผู้สื่อข่าวด้วย เขาก็วิ่งหนีกันไปหมด จากนั้นคฝ.ก็ระดมยิงกระสุนยางใส่ตนโดยกระสุนทะลุหมวกกันน็อคเข้ามาผ่านตาทั้งสองข้าง โดยตาข้างขวาโดนเต็ม ๆ ส่วนตาข้างซ้ายเฉียดไป  พอดีในวันนั้นตนใส่เสื้อสีแดง ก็เลยถูกระดมยิงจากคฝ.ที่อยู่บนทางด่วนระยะห่างประมาณ 3-4 เมตร ถูกคฝ.ระดมยิงอย่างเดียว ตนถูกกระสุนยางยิงเต็ม ๆ และอาศัยเสาไฟฟ้าเป็นที่หลบภัย ตอนนั้นพอดีมีรถจักรยานยนต์ขับผ่านมาเห็นแล้วถามว่าเป็นไงบ้างพี่ มาผมช่วย แล้วก็ตะโกนว่ามีคนเจ็บ”

 

หลังจากถูกยิงก็มีผู้นำส่งโรงพยาบาลราชวิถีและนอนรักษาตัว 1 คืน แต่เนื่องจากเตียงที่รพ.ราชวิถีเต็ม ต่อมาวันที่ 14 ส.ค. จึงถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่รพ.พระมงกุฎเกล้าเพื่อทำการผ่าตัดเนื่องจากถูกลูกกระสุนบริเวณตาขวาฉีกขาด ส่วนตาข้างซ้ายโดนกระสุนถากไปแต่ทำให้เลนส์ตาเคลื่อน” นายฐนกร กล่าว

 

นายฐนกร เล่าต่อไปว่า “แพทย์ที่รพ.พระมงกุฎฯ ได้ตรวจตาข้างขวาพบว่ามีการฉีกขาดรุนแรงอันเนื่องมาจากการถูกของแข็ง แพทย์ได้ทำการผ่าตัดและเย็บแผลที่ฉีกขาด ซึ่งขณะนี้ตาขวายังมองเห็นแสงเลือน ๆ ไม่สามารถมองเห็นระบุใบหน้าใครได้ คุณหมอบอกว่ายังไม่รู้ว่าจะต้องใส่ตาเทียมข้างขวาหรือไม่ ตาข้างซ้ายก็เช่นกัน เพราะว่าเลนตาซ้ายเคลื่อนต้องทำการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ใหม่ รักษาตัวที่รพ.พระมงกุฎฯ ตั้งแต่วันที่ 14–27 ส.ค. 64 ถ้าอยู่รพ.ต่อไปมันจะมีค่าใช้จ่าย จึงให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน โดยต้องหยอดตาทุกวัน”

 

เบื้องต้นวันนี้ (31 ส.ค.) คุณหมอนัดไปตรวจอีกครั้ง และคาดว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์จะทำการผ่าตัด

 

ตั้งแต่เกิดเรื่องตนยังไม่ได้มีการแจ้งความแต่อย่างใด ต้องรอปรึกษาทนายก่อนว่าจะทำอย่างไร ตนอยากจะฟ้องร้องให้มีการรับผิดชอบในการที่ตนเองถูกยิงจนต้องสูญเสียการมองเห็นไป ไม่สามารถขับรถรับจ้างทำมาหาเลี้ยงชีพได้อีกต่อไป และยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป

 

ใบสำคัญความเห็นแพทย์ ลงวันที่ 17 ส.ค. 64 เห็นว่า มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนกระจกตาซ้ายเนื่องจากกระจกตาติดเชื้อรุนแรง และใบสำคัญความเห็นแพทย์ ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2564 ระบุว่า วินิจฉัยลูกตาขวาแตก และเลนส์ตาซ้ายเคลื่อน

 

นี่คือความสูญเสียของชายผู้ไปสังเกตการณ์การชุมนุม เขาไม่ได้มีอาวุธใด ๆ ไม่ได้ขว้างปาสิ่งใดใส่เจ้าหน้าที่ เพียงขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง และเพียงแต่ใส่เสื้อสีแดงเด่นชัด ก็ถูกระดมยิงเสียแล้ว

 

ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงนี้?

 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์