แม่เพนกวิน
พร้อมทนาย และแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ไปกระทรวงยุติธรรมฯ ทวงถามความคืบหน้ากรณีขอย้ายตัวผู้ชุมนุมติดโควิดจากในเรือนจำไปรักษาที่รพ.ธรรมศาสตร์
เมื่อเวลา
09.00 น.วันที่ 23 ส.ค. 64
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์
หรือเพนกวิน แกนนำราษฎร พร้อม นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน
และแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมเดินทางไปยื่นหนังสื่อทวงถามความคืบหน้าการย้ายตัวนักศึกษาที่เคลื่อนไหวทางการเมืองติดไวรัสโควิด-19 กับ นายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม
จากกรณี
"เพนกวินและนิว" ติดโควิดจากภายในเรือนจำ
ต่อมาได้ถูกนำตัวไปรักษาที่รพ.ราชทัณฑ์ เพื่อนของเราพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ใน
โรงพยาบาลราชทัณฑ์ มีความแออัดในนั้น และการดูแลที่ไม่ทั่วถึง
ดังนั้นรองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษามธ.ได้ยื่นหนังสือไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์
เพื่อดำเนินการให้ นิวกับเพนกวิน ได้ย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์
เนื่องจากทั้งสองคนเป็นนักศึกษาที่อยู่ในการดูแลของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นางสุรีย์รัตน์
กล่าวว่า ตนเป็นห่วงเรื่องการรักษาอาการป่วยโควิดที่ภายในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
แต่ตนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยและแนวทางการรักษา
นอกจากนี้ตนได้ประสานทำเรื่องไปยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์
เพื่อต้องการขอย้ายตัวเพราะมั่นใจว่าจะทำให้นายพริษฐ์อาการดีขึ้น ทั้งนี้
ช่วงที่ผ่านมาตนเข้าเยี่ยมลูกชายสอบถามอาการป่วยก็บอกว่าเจ้าหน้าที่ได้ให้ยารักษาผิดแก่
นายพริษฐ์ บ้างครั้งไม่ได้ให้ยาบ้าง บ่นว่ายุงเยอะ
วันนี้จึงเดินทางมากระทรวงยุติธรรมเพื่อติดตามความคืบหน้าการขอย้ายตัว
นายพริษฐ์ และ นายสิริชัย นาถึง หรือนิว ซึ่งเป็นนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์
ไปรักษาตัวภายนอกที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ภายในวันนี้
หากปล่อยเวลาเนิ่นนานไปจะทำให้ทั้ง 2 คน เกิดอันตรายและมีความเสี่ยงสูง
อย่างไรก็ตาม
ตนขอใช้สิทธิในฐานะผู้ปกครองเพื่อช่วยเหลือลูกให้ได้รับการย้ายตัวไปรักษาพยาบาล
นายกฤษฎางค์
กล่าวว่า นายพริษฐ์และนายสิริชัย ติดโควิด-19 มีอาการที่ทรุดลง
โดยเฉพาะนายพริษฐ์เป็นหอบหืดเกี่ยวกับโรคปอด ซึ่งต้องรีบย้ายออกมารักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์
มีความยินดีรับผู้ป่วยทั้ง 2 รายมารักษาดูแลต่อ อีกทั้ง
ครอบครัวและทนายเคยไปยื่นหนังสือให้กับกรมราชทัณฑ์แต่ไม่มีความคืบหน้า
ทำให้วันนี้มาขอความกรุณาจาก รมว.ยุติธรรม ในฐานะกำกับดูแลกรมราชทัณฑ์ช่วยเหลือ
และอยากได้คำตอบในเย็นวันนี้ เพราะหากเวลาผ่านไปทั้งคู่อาจมีความเสี่ยงอันตรายสูง
นายวัลลภ
นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรมและโฆษกกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า
ทั้งสองได้ติดโควิดอย่างแน่นอน ทางเรามีกระบวนการรักษากันเต็มที่อยู่แล้ว
ซึ่งทางกระทรวงเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ
หากทางคุณแม่ได้ติดตามจากสื่อก็จะพบว่ามีการรายงานเรื่องของการรักษาตัวผ่านทางสื่ออยู่
ต้องให้ทางคุณแม่และทนายความตรวจสอบข้อมูลดูด้วย เพราะบางทีได้ข้อมูลมาอาจไม่ตรงกัน
ถ้าในส่วนนี้ยังมีการติดใจกันอยู่ก็อาจมีขั้นตอนขบวนการ หรือทางทนายความเองที่มีสิทธิ์เข้าพบ
โดยรับตัวมาและพบเชื้อในวันที่ 15 วันที่ 16 คุณแม่ก็ยื่นหนังสือเลย
ต่อมาได้มีการส่งตัวไปที่โรงพยาบาลทันที
จากนั้นในทุกวันได้มีการบันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว มีผลรายงานทางการแพทย์
ตลอดทุกชั่วโมง เพราะทางเราก็เป็นห่วง เพียงแต่ว่าที่คุณแม่มายื่นร้องขอก็เป็นสิทธิ์ของทางทนายความและคุณแม่
ในส่วนของการส่งรักษาตัวนอกเรือนจำ ก็มีกฎของกระทรวงก็มีระเบียบที่ชัดเจนอยู่แล้ว
โดยในเอกสารราชทัณฑ์ล่าสุดเมื่อวานนี้ก็มีประเด็นชี้แจง เช่นกันว่า
ในส่วนของการส่งตัวต้องอยู่ในดุลยพินิจของทางท่านผู้อำนวยการทางการแพทย์ได้พิจารณาดูอยู่
ได้รับการยื่นหนังสื่อจากทางคุณแม่ผู้ร้องขอแล้ว คงต้องรอการติดตามผลของการรักษาอีกสักระยะหนึ่งก่อน
โดยทางคุณแม่ อยากทราบเหตุผล คือ 1. อยากให้ย้ายการรักษาตัว 2. ถ้าไม่ย้ายเพราะเหตุผลใด ซึ่งในส่วนนี้ทางกรมเองก็มีกฎระเบียบอยู่
ทางกรมเองก็มีการชี้แจงออกมาถึงการรักษาตัวที่มีระบบเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว
ทางกรมเองก็มีการรายงานผลออกมาเป็นระยะให้รับทราบชัดเจนผ่านทางสื่อมวลชนอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องการย้ายโรงพยาบาลในการรักษาตัวคงต้องรอดุลยพินิจของท่านผู้อำนวยการทางการแพทย์อีกครั้งหนึ่งก่อน
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์