ยูดีดีนิวส์ : 25 ก.พ. 62 อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ ได้กล่าวในการทำ Facebook Live ผ่านเพจ อ.ธิดา ถาวรเศรษฐ โดยตั้งประเด็นว่า "หนังสือโชว์และเชียร์ 'บิ๊กตู่' ได้หรือเสีย???"
ตามข่าวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีการแถลงข่าวการเปิดตัวหนังสือ "ประชารัฐสร้างชาติ" แต่เนื้อหา 160 หน้านั้นปรากฎว่าเป็นเรื่องราวของ 'ลุงตู่'
ขณะนี้เราต้องยอมรับความจริงว่าในเวทีของการดีเบตต่าง ๆ ศรทุกดอกพุ่งตรงไปที่พล.อ.ประยุทธ์ ในขณะที่บนเวทีพรรคพปชร. ไม่ว่าจะเป็นนายสนธิรัตน์, นายอุตตม หรือนายกอบศักดิ์พยายามแก้ต่างว่าบ้านเมืองมันแย่ มีความขัดแย้งมาก ดังนั้นต้อง 'ลุงตู่' เท่านั้นที่เข้ามาแก้ไขได้
ดังนั้นความพยายามของทีมงานในการที่จะต่อสู้เพื่ออธิบายว่า 'บิ๊กตู่' ดีอย่างไร? ทำไมพปชร.ต้องมา และจะเป็นพรรคทางเลือกหนึ่งอันเนื่องมาจากความขัดแย้ง
อ.ธิดาแสดงความเห็นว่า ความพยายามจะทำหนังสือเหล่านี้ เป็นวิธีคิดของพรรคการเมือง ซึ่งอาจจะมองเห็นว่าเมื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้งก็จะต้องมีการเปิดตัวด้วยหนังสือแนะนำตัว ยกตัวอย่างเช่น ดร.ทักษิณ ชินวัตร (ตาดูดาว เท้าติดดิน), หรือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็มีหนังสือจำนวนมาก เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปเขาก็จะให้มืออาชีพและผู้มีพื้นฐานทางการเมืองมาเขียน ไม่ใช่หนังสือโชว์และเชียร์แบบนี้!
หนังสือเล่มนี้มี 5 บท บทแรก "ล้มลุกคลุกคลาน" บอกว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในวิกฤต อ้างเศรษฐกิจตกต่ำ การบริหารผิดพลาด มีการทุจริต เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องนิรโทษกรรม แล้วปรากฎว่ามาเปิดช่องพูดว่าใช้เวลากว่า 6 เดือน การทำรัฐประหารเป็นการตัดสินใจยากที่สุดในชีวิต "ผมใช้เวลากว่า 6 เดือนครุ่นคิดก่อนตัดสินใจ"
อ.ธิดากล่าวต่อว่า แล้วในระหว่าง 6 เดือนที่บอกว่าผมไม่ทำรัฐประหาร ผมไม่ปฏิวัติ ก็แสดงว่าเล่นลิเกตลอดเลย โดยเฉพาะกับรัฐบาลขณะนั้น (คุณยิ่งลักษณ์) และประชาชน ใช้เวลาตัดสินใจกว่า 6 เดือน ไม่ใช่คิดไว้ล่วงหน้าแล้ว "6 เดือนเนี่ยเขาเรียกว่า ยิ่งกว่าล่วงหน้าอีก" อ.ธิดาแสงความเห็น
เฉพาะบทแรกนี้อ.ธิดาคิดว่ามีเรื่องโต้แย้งมากมาย ประการแรก จุดมุ่งหมายของหนังสือนี้ก็คือเชียร์และโชว์เบื้องหน้าเบื้องหลังของพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะจะเป็นผู้นำพรรคคนใหม่ เราเข้าใจ แต่ข้อโต้แย้งที่นำมาสู่หนังสือนี้ก็คือข้อโต้แย้งในฐานะที่ว่าเป็นผู้ยึดอำนาจ ก็สรุปว่าคิดมาก่อนแล้ว 6 เดือน แล้วอ้างว่าปี 56 ตายมากไปแล้ว อ.ธิดาจึงอยากถามว่าแล้วปี 53 ตายมากไหม?
ปี 56 ท่านทำหน้าที่ในฐานะผบ.ทบ. ที่ต้องขึ้นต่อและดูแลความสงบเรียบร้อยของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือเปล่า? การที่กปปส.สามารถชัตดาวน์กรุงเทพฯได้ ถามว่า "ถ้าหากฝ่ายงานความมั่นคงขึ้นต่อรัฐบาลจริง กปปส.ชัตดาวน์ไม่ได้"
นี่คือสิ่งที่อ.ธิดาตั้งข้อสังเกตว่า ความพยายามที่พูดถึงความจำเป็นในการทำรัฐประหารของพล.อ.ประยุทธ์นั้น ไม่ว่าจะเป็น พปชร. หรือ พล.อ.ประยุทธ์ "อย่าพูดดีกว่า" เพราะคนที่เห็นด้วยกับท่าน เขาเชียร์ให้ท่านออกมา แต่คนที่เขาไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร ไม่ว่าท่านจะพูดอย่างไรก็เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น! เพราะมันไม่ใช่หลักการ!
ในฐานะของคนที่ดูแลความมั่นคงของประเทศ เมื่อรัฐบาลยุบสภาเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง มีหน้าที่รักษาความสงบ ไม่ใช่มีหน้าที่ไปสนับสนุนฝ่ายจัดการรัฐบาล จนกระทั่งหลายคนไปพูดในเชิงทฤษฎีสมคบคิด
ถ้าคนที่ยืนอยู่บนหลักการ "ทหารทำรัฐประหารไม่ได้"
เมื่อรัฐบาลมีปัญหา เขายุบสภาแล้ว มันต้องจบตรงนั้น จะให้เขาลาออกได้อย่างไร เขาต้องรักษาการเหมือนตอนนี้ท่านก็ไม่ยอมลาออก ตามรัฐธรรมนูญเขาต้องรักษาการ ในวันนั้นคุณชัยเกษมเขาบอกแล้วว่าเขาจะไม่ปฏิบัติหน้าที่ ให้ปลัดทำ อย่างมากก็รอรับเสด็จบ้างอะไรบ้าง แต่ลาออกไม่ได้
จะมาอ้างเหตุผลว่าไม่ลาออกแล้วทำรัฐประหารก็ไม่ใช่
จะบอกว่ามีตายมากก็ไม่จริง! เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่กันคนละทิศเลย
ดังนั้น อย่าแก้ตัว ไม่มีประโยชน์ หลายอย่างที่เขียนในหนังสือนี้ดิฉันมองแล้วว่าเลื่อนลอยมาก อ.ธิดากล่าว
มาบทที่สอง "ยืนหยัดอย่างมั่นคง" แก้ปัญหาโครงการจำนำข้าวที่ค้างจ่ายชาวนา 8 แสนราย อ.ธิดากล่าวว่า "เขาจ่ายไม่ได้ เพราะหน่วยงานรัฐโดยเฉพาะธนาคาร ธกส., ธนาคารออมสิน ไม่ยอมจ่ายเงิน พูดง่าย ๆ ว่าเครือข่ายอำนาจรัฐ เครือข่ายฝ่ายงานความมั่นคงล้วนแต่ต้องการจัดการกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาจากตระกูล "ชินวัตร" ให้ออกไป นี่พูดกันตรงไปตรงมา เงินมันมีอยู่ แต่มีการบล็อคไม่ให้จ่าย พอทำรัฐประหารแล้วเอาเงินมาจ่าย แล้วบอกว่าเป็นผลงาน ดิฉันว่ามันไม่เข้าท่า!
บทที่สาม "บุรุษที่ใช่" คนที่เชื่ออยู่แล้วก็บอกว่าใช่! คนที่มองเห็นว่านี่ไม่ใช่หลักการ อย่างไรเขาก็ว่ามันไม่ใช่! อ.ธิดาไม่เห็นด้วยใน หลักการที่ท่านมาทำรัฐประหาร ยึดอำนาจจากประชาชน ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่!
ให้หล่ออย่างไร พูดจาเก่งอย่างไร ถ้ามายึดอำนาจจากประชาชน มันก็ไม่ใช่ทั้งนั้นเลย!!!
บทที่สี่ "คืนความสุข" อ.ธิดากล่าวว่าก็ไม่เห็นคืนสักที คืนความสุขก็คือต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน นอกจากนี้ยังมีการอ้างผลงานบัตรความสุข ธงฟ้าประชารัฐ คือโฆษณาผลงานที่ทำงานอยู่มา 5 ปี ไม่เห็นว่าจะต้องเอามาโฆษณาแบบนี้เลย
ในทัศนะของอ.ธิดา เอาเรื่องส่วนตัวมาจะเป็นประโยชน์กับคุณประยุทธ์มากกว่า แต่พอเอาเรื่องการเมือง...มันไม่ใช่เลย คุณจะแก้ตัวถึงเหตุผลนั้นมันต้องมีข้อมูลที่รอบด้าน ไม่ใช่ข้อมูลด้านเดียว ไม่ใช่ข้อมูลของผังล้มเจ้า ไม่ใช่ข้อมูลที่สมมุติกันขึ้นมาเรื่องเผาบ้านเผาเมือง ... ไม่ใช่!!!
ดังนั้นหนังสือเล่มนี้สำหรับดิฉันนะ ไม่ได้หรอก ... เสียแน่ เพราะต่อไปนี้ทุกพรรค ทุกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหารก็จะพากัน ช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์
การที่พรรคพปชร.ทำหนังสือเล่มนี้ให้ 'บิ๊กตู่' ต้องถือว่า 'บิ๊กตู่' ก็มีกองเชียร์ที่เหนียวแน่น แต่ขอให้ยอมรับความจริงว่า ประชาชนคนไทยต้องการให้ท่านคืนอำนาจให้กับประชาชน เลือกตั้งเสรี เป็นธรรม โดยเร็ว ไม่ต้องมาเขียนอย่างนี้ อ.ธิดากล่าว
ตามข่าวพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีการแถลงข่าวการเปิดตัวหนังสือ "ประชารัฐสร้างชาติ" แต่เนื้อหา 160 หน้านั้นปรากฎว่าเป็นเรื่องราวของ 'ลุงตู่'
ขณะนี้เราต้องยอมรับความจริงว่าในเวทีของการดีเบตต่าง ๆ ศรทุกดอกพุ่งตรงไปที่พล.อ.ประยุทธ์ ในขณะที่บนเวทีพรรคพปชร. ไม่ว่าจะเป็นนายสนธิรัตน์, นายอุตตม หรือนายกอบศักดิ์พยายามแก้ต่างว่าบ้านเมืองมันแย่ มีความขัดแย้งมาก ดังนั้นต้อง 'ลุงตู่' เท่านั้นที่เข้ามาแก้ไขได้
ดังนั้นความพยายามของทีมงานในการที่จะต่อสู้เพื่ออธิบายว่า 'บิ๊กตู่' ดีอย่างไร? ทำไมพปชร.ต้องมา และจะเป็นพรรคทางเลือกหนึ่งอันเนื่องมาจากความขัดแย้ง
อ.ธิดาแสดงความเห็นว่า ความพยายามจะทำหนังสือเหล่านี้ เป็นวิธีคิดของพรรคการเมือง ซึ่งอาจจะมองเห็นว่าเมื่อเข้าสู่สนามเลือกตั้งก็จะต้องมีการเปิดตัวด้วยหนังสือแนะนำตัว ยกตัวอย่างเช่น ดร.ทักษิณ ชินวัตร (ตาดูดาว เท้าติดดิน), หรือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็มีหนังสือจำนวนมาก เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไปเขาก็จะให้มืออาชีพและผู้มีพื้นฐานทางการเมืองมาเขียน ไม่ใช่หนังสือโชว์และเชียร์แบบนี้!
หนังสือเล่มนี้มี 5 บท บทแรก "ล้มลุกคลุกคลาน" บอกว่าประเทศไทยกำลังอยู่ในวิกฤต อ้างเศรษฐกิจตกต่ำ การบริหารผิดพลาด มีการทุจริต เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องนิรโทษกรรม แล้วปรากฎว่ามาเปิดช่องพูดว่าใช้เวลากว่า 6 เดือน การทำรัฐประหารเป็นการตัดสินใจยากที่สุดในชีวิต "ผมใช้เวลากว่า 6 เดือนครุ่นคิดก่อนตัดสินใจ"
อ.ธิดากล่าวต่อว่า แล้วในระหว่าง 6 เดือนที่บอกว่าผมไม่ทำรัฐประหาร ผมไม่ปฏิวัติ ก็แสดงว่าเล่นลิเกตลอดเลย โดยเฉพาะกับรัฐบาลขณะนั้น (คุณยิ่งลักษณ์) และประชาชน ใช้เวลาตัดสินใจกว่า 6 เดือน ไม่ใช่คิดไว้ล่วงหน้าแล้ว "6 เดือนเนี่ยเขาเรียกว่า ยิ่งกว่าล่วงหน้าอีก" อ.ธิดาแสงความเห็น
เฉพาะบทแรกนี้อ.ธิดาคิดว่ามีเรื่องโต้แย้งมากมาย ประการแรก จุดมุ่งหมายของหนังสือนี้ก็คือเชียร์และโชว์เบื้องหน้าเบื้องหลังของพล.อ.ประยุทธ์ในฐานะจะเป็นผู้นำพรรคคนใหม่ เราเข้าใจ แต่ข้อโต้แย้งที่นำมาสู่หนังสือนี้ก็คือข้อโต้แย้งในฐานะที่ว่าเป็นผู้ยึดอำนาจ ก็สรุปว่าคิดมาก่อนแล้ว 6 เดือน แล้วอ้างว่าปี 56 ตายมากไปแล้ว อ.ธิดาจึงอยากถามว่าแล้วปี 53 ตายมากไหม?
ปี 56 ท่านทำหน้าที่ในฐานะผบ.ทบ. ที่ต้องขึ้นต่อและดูแลความสงบเรียบร้อยของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งหรือเปล่า? การที่กปปส.สามารถชัตดาวน์กรุงเทพฯได้ ถามว่า "ถ้าหากฝ่ายงานความมั่นคงขึ้นต่อรัฐบาลจริง กปปส.ชัตดาวน์ไม่ได้"
นี่คือสิ่งที่อ.ธิดาตั้งข้อสังเกตว่า ความพยายามที่พูดถึงความจำเป็นในการทำรัฐประหารของพล.อ.ประยุทธ์นั้น ไม่ว่าจะเป็น พปชร. หรือ พล.อ.ประยุทธ์ "อย่าพูดดีกว่า" เพราะคนที่เห็นด้วยกับท่าน เขาเชียร์ให้ท่านออกมา แต่คนที่เขาไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหาร ไม่ว่าท่านจะพูดอย่างไรก็เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น! เพราะมันไม่ใช่หลักการ!
ในฐานะของคนที่ดูแลความมั่นคงของประเทศ เมื่อรัฐบาลยุบสภาเพื่อเตรียมการเลือกตั้ง มีหน้าที่รักษาความสงบ ไม่ใช่มีหน้าที่ไปสนับสนุนฝ่ายจัดการรัฐบาล จนกระทั่งหลายคนไปพูดในเชิงทฤษฎีสมคบคิด
ถ้าคนที่ยืนอยู่บนหลักการ "ทหารทำรัฐประหารไม่ได้"
เมื่อรัฐบาลมีปัญหา เขายุบสภาแล้ว มันต้องจบตรงนั้น จะให้เขาลาออกได้อย่างไร เขาต้องรักษาการเหมือนตอนนี้ท่านก็ไม่ยอมลาออก ตามรัฐธรรมนูญเขาต้องรักษาการ ในวันนั้นคุณชัยเกษมเขาบอกแล้วว่าเขาจะไม่ปฏิบัติหน้าที่ ให้ปลัดทำ อย่างมากก็รอรับเสด็จบ้างอะไรบ้าง แต่ลาออกไม่ได้
จะมาอ้างเหตุผลว่าไม่ลาออกแล้วทำรัฐประหารก็ไม่ใช่
จะบอกว่ามีตายมากก็ไม่จริง! เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่กันคนละทิศเลย
ดังนั้น อย่าแก้ตัว ไม่มีประโยชน์ หลายอย่างที่เขียนในหนังสือนี้ดิฉันมองแล้วว่าเลื่อนลอยมาก อ.ธิดากล่าว
มาบทที่สอง "ยืนหยัดอย่างมั่นคง" แก้ปัญหาโครงการจำนำข้าวที่ค้างจ่ายชาวนา 8 แสนราย อ.ธิดากล่าวว่า "เขาจ่ายไม่ได้ เพราะหน่วยงานรัฐโดยเฉพาะธนาคาร ธกส., ธนาคารออมสิน ไม่ยอมจ่ายเงิน พูดง่าย ๆ ว่าเครือข่ายอำนาจรัฐ เครือข่ายฝ่ายงานความมั่นคงล้วนแต่ต้องการจัดการกับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาจากตระกูล "ชินวัตร" ให้ออกไป นี่พูดกันตรงไปตรงมา เงินมันมีอยู่ แต่มีการบล็อคไม่ให้จ่าย พอทำรัฐประหารแล้วเอาเงินมาจ่าย แล้วบอกว่าเป็นผลงาน ดิฉันว่ามันไม่เข้าท่า!
บทที่สาม "บุรุษที่ใช่" คนที่เชื่ออยู่แล้วก็บอกว่าใช่! คนที่มองเห็นว่านี่ไม่ใช่หลักการ อย่างไรเขาก็ว่ามันไม่ใช่! อ.ธิดาไม่เห็นด้วยใน หลักการที่ท่านมาทำรัฐประหาร ยึดอำนาจจากประชาชน ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่!
ให้หล่ออย่างไร พูดจาเก่งอย่างไร ถ้ามายึดอำนาจจากประชาชน มันก็ไม่ใช่ทั้งนั้นเลย!!!
บทที่สี่ "คืนความสุข" อ.ธิดากล่าวว่าก็ไม่เห็นคืนสักที คืนความสุขก็คือต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน นอกจากนี้ยังมีการอ้างผลงานบัตรความสุข ธงฟ้าประชารัฐ คือโฆษณาผลงานที่ทำงานอยู่มา 5 ปี ไม่เห็นว่าจะต้องเอามาโฆษณาแบบนี้เลย
ในทัศนะของอ.ธิดา เอาเรื่องส่วนตัวมาจะเป็นประโยชน์กับคุณประยุทธ์มากกว่า แต่พอเอาเรื่องการเมือง...มันไม่ใช่เลย คุณจะแก้ตัวถึงเหตุผลนั้นมันต้องมีข้อมูลที่รอบด้าน ไม่ใช่ข้อมูลด้านเดียว ไม่ใช่ข้อมูลของผังล้มเจ้า ไม่ใช่ข้อมูลที่สมมุติกันขึ้นมาเรื่องเผาบ้านเผาเมือง ... ไม่ใช่!!!
ดังนั้นหนังสือเล่มนี้สำหรับดิฉันนะ ไม่ได้หรอก ... เสียแน่ เพราะต่อไปนี้ทุกพรรค ทุกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการทำรัฐประหารก็จะพากัน ช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์
การที่พรรคพปชร.ทำหนังสือเล่มนี้ให้ 'บิ๊กตู่' ต้องถือว่า 'บิ๊กตู่' ก็มีกองเชียร์ที่เหนียวแน่น แต่ขอให้ยอมรับความจริงว่า ประชาชนคนไทยต้องการให้ท่านคืนอำนาจให้กับประชาชน เลือกตั้งเสรี เป็นธรรม โดยเร็ว ไม่ต้องมาเขียนอย่างนี้ อ.ธิดากล่าว