วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ : ความเสียหายของระบบการเมืองที่บิดเบี้ยว มีแต่พลังของประชาชนเท่านั้นที่จะแก้ไขให้ถูกต้อง

 


นอกจากชีวิตคนสูญเสีย เศรษฐกิจพินาศ และหัวใจประชาชนที่แหลกสลายจากการรับรู้ชะตากรรมของเพื่อนร่วมชาติแล้ว ในแง่การบริหารจัดการและเผชิญวิกฤตถือว่าโควิด 19 ได้โค่นทำลายรัฐราชการรวมศูนย์ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมรวมหัวกันใช้ทุกกลวิธีสร้างขึ้นตลอด 7 ปีจนย่อยยับราบคาบ 


เปลือกแห่งคนดี มือสะอาด รักชาติยิ่งชีพ เก่งสุดในรุ่นที่ห่อครอบผู้ถืออำนาจรัฐถูกเปิดออกจนเห็นความกลวง ลวง กะล่อน และการทำงานที่ขาดความชัดเจนโปร่งใส


ทั้งยังเห็นทะลุไปด้วยว่ากลไกราชการภายใต้ระบบนี้มีกองทัพอยู่บนสุด มีนายทหารมานั่งตำแหน่งสำคัญ แม้คณะแพทย์ส่วนหนึ่งจะมีบทบาทแต่ก็เป็นไปภายใต้โครงสร้างอำนาจที่พล.อ.ประยุทธ์รวบไว้ในมือ 


เสียงทักท้วงต่ออำนาจดังมาจากบุคลากรบางส่วน แต่แทบไม่มีการตอบสนองจากแต่ละองค์กร เกียรติ ศักดิ์ศรี และชีวิตข้าราชการในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ในสภาพเดียวกับประชาชน  คือจำต้องแบกรับความเหลวแหลกของรัฐบาล 


การแถลงข่าวเรื่องวัคซีนของอธิบดีกรมควบคุมโรค และการขอโทษประชาชนของผอ.สถาบันวัคซีนเป็นบทสรุปว่าถึงที่สุดข้าราชการก็ถูกผลักออกมารับแรงเสียดทานและรับผิด ทั้งที่คำขอโทษและการอธิบายข้อเท็จจริงสำคัญในยามนี้ควรเป็นวาระของนายกฯ


ระบบนี้ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ลอยตัวจากอำนาจประชาชนและยังอยู่สร้างความเสียหายได้อีกนาน ล้มเหลวให้ราชการรับสภาพ ถูกขับไล่มีกองทัพรักษาอำนาจ เลือกตั้งก็มีรัฐธรรมนูญและส.ว.เป็นหลักประกัน ที่พรรคร่วมยืนยันไม่ทอดทิ้งไม่ใช่เพราะรักแต่เพราะเห็นชัดว่าอำนาจถูกล็อคไว้กับตัวนายกฯ


นี่คือความเสียหายของระบบการเมืองที่บิดเบี้ยว และมีแต่พลังของประชาชนเท่านั้นที่จะแก้ไขให้ถูกต้อง


ที่มา : เพจ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ 

           22 ก.ค. 64