วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

"คาร์ม็อบ" ไปกับสมบัติ(ทัวร์) บีบแตรไล่ประยุทธ์ ครั้งที่ 2 บุก 3 พรรคร่วม จี้ปชป.-ภท. ถอนตัวร่วมรัฐบาล ชี้พปชร.ไม่ควรค่าเป็นแกนนำพรรครัฐบาล ก่อนไปจบที่แยกราชประสงค์

 


"คาร์ม็อบ" ไปกับสมบัติ(ทัวร์) บีบแตรไล่ประยุทธ์ ครั้งที่ 2 บุก 3 พรรคร่วม จี้ปชป.-ภท. ถอนตัวร่วมรัฐบาล ชี้พปชร.ไม่ควรค่าเป็นแกนนำพรรครัฐบาล ก่อนไปจบที่แยกราชประสงค์


วันนี้ (10 ก.ค. 64)  บรรยากาศการนัดหมายชุมนุมคาร์ม็อบ กับ "สมบัติ (ทัวร์)" ที่นำโดย นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ซึ่งนำขบวนเคลื่อนสู่ 4 พรรคร่วมรัฐบาลเพื่อยื่นหนังสือ และบีบแตรไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมระบุว่า "โควิดก็กลัว แต่ผู้นำโคม่าเอาไว้ไม่ได้ ขับ-ไล่ออกไป"  นั้น


โดยเวลา 12.00 น. บรรยากากาศ หน้าแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีประชาชนทยอยเข้าพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นมวลชนเสื้อแดง โดยมีกลุ่มของนายอาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ รัองรำทำเพลงร่วมกับพี่น้องประชาชน


ทั้งนี้พบว่ามีเจ้าหน้าที่วางกรวยและรั้วเหล็กปิดช่องทางจราจรซ้ายสุดติดริมฟุตบาทตั้งแต่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝั่งแมคโดนัลด์ยาวลงไปที่แยกคอกวัว พบรถยกจาก สน. สำราญราษฎร์ 1 คันและจาก สน. ชนะสงครามอีก 1 คันจอดอยู่บริเวณหน้าแมคโดนัลด์ 


จากนั้น 12.30 น. บก.ลายจุดหรือ นายสมบัติ เดินทางมาถึงจุดนัดหมายกิจกรรม โดยมีการเจรจากับตำรวจเรื่องพื้นที่ตั้งขบวนและการเคลื่อนขบวน ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ให้นายสมบัติ นำรถไปจอดในซอยศึกษาภัณฑ์แทนแจ้งว่า บริเวณหน้าแมคโดนัลด์เป็นพื้นที่ห้ามจอด


อย่างไรก็ตาม 12.52 น. นายสมบัติแจ้งใน "Clubhouse" ว่า อีกประมาณ 8 นาทีจะขับรถวนเพื่อตั้งขบวนให้ได้ นายสมบัติได้ตั้งข้อสังเกตุว่า ครั้งนี้มีความเข้มงวดในการจอดรถมากกว่าสัปดาห์ที่แล้ว


จากนั้นนายสมบัติได้แจ้ง ให้รถที่มาร่วมกิจกรรมเข้ามาจอดที่อนุสาวรีย์ฯ ได้เลยและเคลื่อนขบวนในเวลา 13.00 น.


ขณะที่ ทนายอานนท์ นำภา มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย คณะราษดรัมพ์ร่วมตีกลอง ด้านนายสมบัติซ้อมตั้งขบวนไปทางแยกอรุณอมรินทร์ ส่วนรถเครื่องเสียงของ "ไทยไม่ทน" จอดรอที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยฝั่งศรแดง เมธาวลัย


อย่างไรก็ตาม 13.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ที่แยกศรีอยุธยา รถเครื่องเสียงของเครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย ที่มีนายนันทพงศ์ ปานมาศ หรือกุ๊ก พร้อมด้วย นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ มาด้วยนั้น ถูกสกัดที่กลางแยก จึงได้บอกกล่าวว่า พวกเขาจะไปร่วมคาร์ม็อบ และเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ใช้มาตลอด ทั้งไม่ได้เปิดเครื่องเสียงมาตลอดทางจนกระทั่งเจอแนวกั้นนี้จึงเริ่มใช้เพื่อปราศรัยถามหาเหตุผลที่ปิดกั้นเส้นทาง


ด้านตำรวจชี้แจงว่า ขอให้รถไปทางแยกอุรุพงษ์และเลี้ยวขวา ไม่สามารถให้ผ่านไปใกล้เขตพระราชฐานได้ และปฏิบัติตามแผนสกัดของตำรวจ 


ขณะที่เวลา 13.40 น. บริเวณก่อนถึงแยกสะพานผ่านฟ้าฯ พริตตี้ ได้ชูป้ายข้อความวิจารณ์พลเอกประยุทธ์ โดยยืนนำอยู่หัวขบวน จากนั้นมีการทำกิจกรรมเต้นรำพร้อมเปิดเพลงคืนความสุขและปล่อยขบวนเพื่อมุ่งหน้าไปยังพรรคประชาธิปัตย์เป็นที่แรก


14.00 น. หัวขบวนกำลังจะเข้าแยกศรีอยุธยา นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือ ไบรท์ ราษฎร กล่าวผ่านเครื่องขบายเสียงว่า ขอให้งดบีบแตรและงดใช้เสียงขณะเคลื่อนผ่านโรงพยาบาลรามาธิบดีเพื่อมิให้รบกวนผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่


14.30 น. หัวขบวนถึงถนนเศรษฐสิริ 2 ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายสมบัติชูป้าย "เลิกพายเรือให้ลุงนั่ง" เพื่อเรียกร้องให้ถอนตัวจากรัฐบาล

 

ด้านนายธนพัฒน์ กาเป็ง หรือปูน แกนนำกลุ่มราษฎรเอ้ย พร้อมมวลชนจำนวนหนึ่งทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ด้วยการนำหุ่นศพจำลองราดน้ำสีแดง พร้อมตะโกนว่า "ประชาธิปัตย์พรรคการเมืองเปื้อนเลือด" ขณะที่ตำรวจมีการวางแนวรั้วเหล็กและวางกำลังหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 


ทั้งนี้ เหตุผลที่เลือกมาพรรคประชาธิปัตย์แห่งแรก เนื่องจากเป็นพรรคการเมืองต้นตอที่ทำให้มี พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี


เนื่องจากวันนี้ไม่ใช่วันทำการของพรรค จึงไม่มีตัวแทนออกมารับมอบหนังสือเรียกร้องให้ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ซึ่งนายสมบัติ จึงได้ฝากหนังสือผ่านทางสื่อมวลชนแทน


เวลาต่อมา 15.10 น. ขบวนถึงหน้าพรรคภูมิใจไทย ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร นายสมบัติ ได้อ่านได้อ่านจดหมายเปิดผนึก ขอให้พรรคภูมิใจไทยถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล 


ขณะที่เนื้อหาบางส่วนของจดหมายระบุว่าก่อนหน้าการเลือกตั้งมีการประกาศชัดเจนว่า จะไม่เข้าร่วมกับรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจ แต่ภายหลังกลับเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ ในสถานการณ์โควิดนี้รับทราบว่า พลเอกประยุทธ์ทำการรวบอำนาจการตัดสินใจไว้ แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจะเห็นต่างก็ตาม จนถึงปัจจุบันพลเอกประยุทธ์ล้มเหลว ขาดคุณสมบัติในการเป็นผู้นำ ไร้ความสามารถในการบริหารประเทศ จึงต้องการให้พรรคภูมิใจไทยลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาล 


จากนั้นได้จดหมายเปิดผนึกให้เจ้าหน้าที่ภายในพรรคภูมิใจไทย และชูป้ายข้อความว่า "ภูมิไม่ขึ้น" ที่หน้าพรรคภูมิใจไทยโดยมวลชนบางส่วนได้นำน้ำแดงสาดที่ป้ายของพรรคและมีการห้อยหน้ากากอนามัย, ไซริงจ์ฉีดยา  และกล่าวพร้อมกัน 3 ครั้ง ว่า "โควิดกระจอกงอกง่อย หรือว่าหัวหน้าพรรคกระจอกงอกง่อย" ก่อนที่เวลา 15.15 น. ได้เคลื่อนขบวนต่อไปยังพรรคพลังประชารัฐ


กระทั่งเวลา 15.40 น. ขบวนได้เคลื่อนถึงพรรคพลังประชารัฐ ถนนรัชดาภิเษก นายสมบัติ ได้นำผงแป้งมาโปรย จากนั้นให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เบื้องต้นตนไม่มีจดหมายถึง พปชร. แต่ตนเอาแป้งมันมามอบให้ โดยระบุว่า ที่นำแป้งมันมามอบให้ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าพรรค พปชร. ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล แต่มีภาพลักษณ์ซึ่งเป็นข้อครหาต่อสังคมประชาคมโลก ไม่เฉพาะกับสังคมไทย ไม่มีความน่าภูมิใจที่เป็นแกนนำรัฐบาล


หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมคาร์ม็อบ มีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เอาแป้งมาโยนใส่ที่หน้าพรรค พร้อมกับตะโกนว่า "มันคือแป้ง"


จากนั้นขบวนเคลื่อนบนถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าไปยังแยกราชประสงค์ เนื่องจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้ย้ายที่ทำการพรรคไปยังอาคารแปซิฟิกแล้ว


โดย 16.20 น.เมื่อขบวนเข้าสู่ราชประสงค์ ได้มีการจอดรถหน้า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อร่วมรัวกดแตรลากยาวส่งท้าย โดยมีการปิดช่องทางจราจร 4 เลน ฝั่งห้างเซ็นทรัลเวิลด์


นายสมบัติ ได้ชูป้ายข้อความ "ประยุทธ์ออกไป" และกล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์อ้างว่า ประเทศมีวิกฤติจึงต้องทำการรัฐประหาร หลังจากนั้นสัญญากับประชาชนว่า อยู่ไม่นานแต่อยู่มา 7 ปีแล้ว ไม่ทราบว่านาฬิกาที่บ้านเสียหรือไม่ บัดนี้ประเทศชาติประจักษ์แล้วว่า ผู้สร้างวิกฤติปัญหาอย่างไม่เคยมีมาก่อนคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมกล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก และหลังจากนี้จะเดินทางรอบกรุงเทพฯ ขอให้พี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่ต่างจังหวัดจากทั่วประเทศ จัดกิจกรรม Car Mob โดยพร้อมเพรียงกัน


ทั้งนี้นายสมบัติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ให้เวลาพลเอกประยุทธ์ 14 วันและจะกลับมาเรียกร้องอีกครั้ง หวังว่า ระหว่างนี้พลเอกประยุทธ์จะตัดสินใจลาออก สิ่งที่ประชาชนต้องการ ไม่ใช่ให้งดรับเงินเดือน 3 เดือน แต่ไม่จ่ายเงินเดือนพลเอกประยุทธ์อีกเลย นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ประชาชนทั่วประเทศจัดกิจกรรมคาร์ม็อบเพื่อขับไล่รัฐบาลพร้อมกัน และถ้าหากข้อเรียกร้องไม่เป็นผลก็จะยกระดับการชุมนุมคาร์ม็อบต่อไป ก่อนจะประกาศยุติการชุมนุมในเวลาประมาณ 16.32 น. และขอให้บีบแตรดัง ๆ ส่งท้ายพร้อมเพรียงกัน ก่อนแยกย้าย 


อย่างไรก็ดี บรรยากาศโดยรวม กิจกรรมครั้งนี้ ระหว่างเคลื่อนขบวนรถต่าง ๆ บ้างโบกธง บ้างเขย่าตีนตบ บ้างเขย่ามือตบ บ้างเป่านกหวีด บ้างตะโกนประยุทธ์ออกไป เป็นระยะ ๆ .


และเป็นที่น่าสังเกตุว่าการจัดกิจกรรมครั้งนี้ นับเป็นการจัดคาร์ม็อบใหญ่ครั้งแรก พบว่ามีรถของประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมมากว่าครั้งก่อนหน้า 3 ก.ค. ที่ผ่านมากว่าเท่าตัว โดยนายอานนท์ ระบุผ่านเพจเฟสบุ๊คว่า "ขณะหัวขบวนคาร์ม็อบ ใกล้จะถึงพรรคประชาธิปัตย์แล้ว หางแถวยังอยู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งมีระยะห่าง ประมาณ 5.5 กิโลเมตร"


โดยขณะที่ขบวนเคลื่อนผ่านตามที่ต่าง ๆ พบว่ามีประชาชน คนทำงาน เจ้าหน้าที่ รปภ. คนขับจักรยานยนต์รับจ้าง พ่อค้า แม่ค้า มาร่วมยืนดูขบวน พร้อมบันทึกภาพ และชู 3 นิ้ว แสดงออกไปด้วยกัน


#Carmob #ม็อบ10กรกฎา 

#UDDnews #ยูดีดีนิวส์


ประมวลภาพ