วันพุธที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

"ณัฐวุฒิ" โพสต์ เหตุการณ์ #ม็อบ18กรกฎา มีบางประเด็นอยากแลกเปลี่ยนความเห็น

 


"ณัฐวุฒิ" โพสต์ เหตุการณ์ #ม็อบ18กรกฎา มีบางประเด็นอยากแลกเปลี่ยนความเห็น


เย็นวันนี้ (21 ก.ค. 64) ที่เพจเฟซบุ๊ก นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้มีการโพสต์ถึงเหตุการณ์การนัดทำกิจกรรมในวาระครบรอบ 1 ปี เยาวชนปลดแอก เหตุการณ์ดังกล่าวฝ่ายเจ้าหน้าที่มีการใช้ความรุนแรงจนทำให้ประชาชนและผู้สื่อข่าวได้รับบาดเจ็บโดยนายณัฐวุฒิ ได้โพสต์ ความว่า


ผมระมัดระวังการแสดงความเห็นหรือท่าทีที่อาจเข้าข่ายแทรกแซงชี้นำการต่อสู้ของคนหนุ่มสาวมาตลอด แต่สถานการณ์วันที่ 18 ก.ค. คิดว่ามีบางประเด็นอยากแลกเปลี่ยนความเห็น


ผู้ชุมนุมประกาศชัดว่าจะไปทำกิจกรรมด้านนอกทำเนียบรัฐบาลแล้วกลับช่วงค่ำ ซึ่งก่อนหน้านี้กลุ่มอื่น ๆ ตั้งจุดปราศรัยแสดงสัญลักษณ์เชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ก็ทำได้ไม่มีปัญหา แต่การเล่นแรงจัดหนักทั้งน้ำ แก๊สน้ำตา กระสุนยาง ตั้งแต่ต้นทางทั้งที่ยังไม่มีเหตุตึงเครียดประชิดสถานที่สำคัญ ไม่แม้กระทั่งเข้าใกล้แนวเจ้าหน้าที่ แสดงชัดเจนว่าเป็นเจตนาของผู้มีอำนาจ สั่งกันมาแบบนี้


ณ จุดที่ความชอบธรรมล้มละลายรัฐไม่ต้องการให้การชุมนุมตั้งไข่ได้ ถ้าปล่อยให้ราบรื่นนัดต่อไปคนจะยิ่งเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้น จึงตัดเกมตั้งแต่กลางสนาม


ตลอดมาจนถึงวิกฤตโควิด 19 รัฐบาลพ่ายแพ้ทางการเมืองไปแล้ว ข้อกล่าวหาร้ายแรงที่ใช้กับฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถบดบังความพินาศยับเยินทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ จึงเปลี่ยนเกมไม่สู้ทางการเมืองแต่ปะทะด้วยกำลัง อาศัยโทสะของผู้ชุมนุมที่ถูกกระทำกลบสาระที่แท้จริง 


หลักการผิด เหตุผลสู้ไม่ได้ ข้อเท็จจริงมัดตัวแน่น ความชอบธรรมไม่มี จึงเล่นบทอันธพาลสร้างภาพให้เป็นการปะทะของทั้ง 2 ฝ่าย ยอมถูกประณามออนไลน์ดีกว่าถูกไล่กลางถนน


นี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการและเชื่อว่าจะทำอีก การชุมนุมครั้งหน้าจะปรับรูปแบบเพื่อรับมือเกมถ่อยนี้หรือไม่ อย่างไร ต้องตามดู 


ถ้าไม่ใช่สถานการณ์โรคระบาดถึงตายที่ยังขยายตัวอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง การแสดงพลังมวลชนจำนวนมากจะเกิดขึ้น การต่อต้านขับไล่รัฐบาลจะเป็นกระแสสูงทั้งบนถนนและโลกออนไลน์เป้าใหญ่คือตัวนายกฯ แต่เมื่อมีข้อจำกัดสำคัญยิ่งต่อการรวมคน จึงเป็นเรื่องที่ขบวนการต่อสู้ต้องขบคิด


คาร์ม็อบโดยบก.ลายจุดเป็นตัวแบบที่น่าสนใจ แต่จะทำอย่างไรให้เกิดแรงปะทะทางการเมืองได้มากขึ้น เชื่อว่านักสู้หนุ่มสาวกำลังใช้ความคิด


ที่ไม่หนุ่มไม่สาวก็ต้องคิด


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์