วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

"ทะลุฟ้า" จุดเทียนกลางสายฝน เผาหุ่น 3 ป. - บีบแตร - เบิ้ลเครื่องฮาร์เล่ย์ ซัดรัฐล้มเหลว "ไผ่" ชี้ ชนะเมื่อไรไม่รู้ แต่เมื่อออกมาร่วมกันอยู่แบบนี้ เราก็ไม่แพ้

 

"ทะลุฟ้า" จุดเทียนกลางสายฝน เผาหุ่น 3 ป. - บีบแตร - เบิ้ลเครื่องฮาร์เล่ย์ ซัดรัฐล้มเหลว "ไผ่" ชี้ ชนะเมื่อไรไม่รู้ แต่เมื่อออกมาร่วมกันอยู่แบบนี้ เราก็ไม่แพ้


วันนี้ (25 ก.ค. 64) กลุ่ม"ทะลุฟ้า" นำโดย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน จัดกิจกรรม "แห่เทียนขับไล่เสนียดจัญไร" เนื่องในวันเข้าพรรษา โดยก่อนหน้านี้ได้มีการจัดกิจกรรมเชิญชวนประชาชนร่วมหล่อเทียนทำบุญประเทศอย่างต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 20-24 กรกฎาคมที่ผ่านมาโดยเริ่มที่บริเวณเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร, สวนลุมพินี, ห้าแยกลาดพร้าว และ ปิดท้ายที่แยกราชประสงค์


สำหรับกิจกรรมแห่เทียนนั้น นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน และนักขับขี่รถจักรยานยนต์ ฮาร์ลีย์ เดวิดสัน ต้านนายกรัฐมนตรี รวมตัวกันบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ตั้งแต่ในช่วงบ่าย โดยมีกำหนดเคลื่อนขบวนไปยังที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่บริหารงานในสถานการณ์โควิดที่ล้มเหลว


โดยเวลา 14.30 น. บรรยากาศโดยทั่วไป มีประชาชนทยอยขับรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ส่วนตัว มาจอดตั้งแถวเพื่อรอเคลื่อนขบวนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ฝนยังโปรยปรายอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางส่วนต้องจอดรถไว้ และบางส่วนหาที่หลบฝน โดยกลุ่มทะลุฟ้า ยังคงตั้งแถวรอเคลื่อนขบวนต่อไป ระหว่างนี้ นายจตุภัทร์กล่าวปราศรัยถึงเรื่องวัคซีนอย่างต่อเนื่อง


สำหรับเทียนพรรษา จำนวน 3 เล่ม ที่ประชาชนได้ร่วมกันหล่อเป็นเวลา 5 วัน นั้น ถูกนำมาบนรถแห่ โดยสลักบริเวณหัวเทียนเป็นรูปเป็นราษฎร, สามนิ้ว และ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย 


ทั้งนี้สมาชิกทะลุฟ้า แต่งกายด้วยชุดไทยสี ตั้งแถวร่วมรำตามทำนองเพลงไทยอีสาน โดยมีกลุ่มคนเสื้อแดงร่วมด้วย อย่างคึกครื้น ขณะที่คณะราษดรัม รัวกลอง เตรียมพร้อมเคลื่อนขบวน


เวลา 15.05 น. นายจตุภัทร์กล่าวจะเคลื่อนขบวนในเวลา 15.30 น. และขอความร่วมคือ งดบีบแตรเมื่อผ่านสถานที่ราชการ หรือหากพบรถพยาบาลเคลื่อนผ่าน รบกวนประชาชนหลีกทางให้ผ่านไปโดยสะดวก


เราไม่ได้มีเจตนามาขัดขวาง หรือก่อความวุ่นวาย เรามีเจตนารักษาชีวิตผู้คน และขับไล่รัฐบาลที่ล้มเหลว เรามีเจตนาที่จะได้วัคซีนอย่างทั่วถึง เรามายืนยันในประเพณีแห่เทียนของประเทศเรา ซึ่งยังเป็นการทำหน้าที่ในฐานะพลเมือง คือการขับไล่รัฐบาลที่ล้มเหลว ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ขอบคุณที่มาในวันนี้ ทำหน้าที่เรา ขับไล่รัฐบาลและทำตามประเพณีการนิ่งเฉยไม่ทำให้เกิดประโยชน์ นายจตุภัทร์กล่าว


โดยขบวน เริ่มที่ขบวนฮาร์เลย์, ขบวนนางนำ, รถแห่เทียน 3 คัน และ รถแห่เทียนจาก จ.ราชบุรี 1 คัน โดยประดับรูปใบหน้า พล.อ.ประยุทธ์ ตามด้วยรถเครื่องเสียงแห่ ขณะที่ราษดรัมรัวจังหวะย่ำเท้า ตามด้วยรถปราศรัยใหญ่ และ ขบวนคาร์ม็อบบีบแตร ปิดท้าย


โดยระหว่างที่เคลื่อนขบวนฝนยังคงโปรยลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยรถเครื่องเสียง เปิดเพลงฟ้อนรำกลางสายฝน อีกทั้ง 2 ข้างทางประชาชนต่างออกมาดู ถ่ายรูป ถ่ายคลิป รวมถึงชู 3 นิ้วด้วย


บรรยากาศเมื่อเวลา 16.01 น. ขบวนถึงแยกอุรุพงษ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง ยืนดูแลการจราจร 


เวลา 16.05 น. ขบวนถึงแยกยมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแนวสกัด 2 ชั้น โดยแนวที่ 2 เป็นตำรวจควบคุมฝูงชน ไม่ให้มุ่งหน้าไปทางหลานหลวง 


เวลา 16.07 น. ขบวนรถจักรยานยนต์นำหน้าถึงแยกนางเลิ้ง ขณะที่ขบวนนางรำยังคงหยุดอยู่ที่แยกยมราช 


เวลา 16.10 น. ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตั้งตู้คอนเทนเนอร์ 2 ชั้นพร้อมจอดรถประกาศ และรถฉีดน้ำ ขณะที่ขบวนฮาร์เลย์ ซึ่งนำมาก่อน ต่างเบิ้ลเครื่อง และบีบแตรสนั่น กลบเสียงเจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังอ่านประกาศ ให้ยุติการชุมนุม เนื่องจากสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค โดยประชาชนยังคงส่งเสียงกลบประกาศ ด้านสมาชิกทะลุฟ้า เดินเข้าไปเจรจาขอให้ผู้ชุมนุมถอยห่างจากแนวรั้วเหล็กหวั่นได้รับอุบัติเหตุ


ผู้ชุมนุมปักหลักบริเวณหน้าพาณิชยพระนคร ทำกิจกรรมหน้าแนวรั้วของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสลับกันขึ้นปราศรัยและทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์


โดย "ต๋ง ทะลุฟ้า" ชวนประชาชนร้องเพลง "ฝากตัวรับใช้นาย" มอบแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนปราศรัย จากนั้นได้กล่าวบางส่วนว่า เป็น..อะไร ทำไมถึงไม่ฟังเสียงประชาชน! เป็น..อะไร ทำไมถึงไม่เอาวัคซีนดี ๆ เข้ามา! แล้วเป็น..อะไร ทำไมต้องเอาตำรวจมาขวางพวกตน


ขณะที่ตัวแทนพยาบาลกล่าวว่า เราแค่มาขอไฟเซอร์ มาแสดงเจตจำนงที่เราควรได้ แล้วพวกพี่เป็นอะไรมาขวาง จากนั้นถามว่า ที่ยืนอยู่ข้างหน้ามีใครได้ฉีดไฟเซอร์บ้าง ถ้าเราได้ฉีด คุณก็ได้ฉีด วันไหนที่ครอบครัว พ่อ แม่ พี่น้อง ติดโควิด วันนั้นอย่ามาขอความช่วยเหลือ รู้หรือไม่ ข้างนอก หลังรั้วนั้น หลังตู้คอนเทนเนอร์ที่คนปกป้อง มีคนตาย คนติด มีคนไร้บ้านกี่คน ที่เราออกมาเพราะเราฝันถึงชีวิตที่ดีกว่านี้ ตัวแทนพยาบาลกล่าว


ระหว่างนี้ก็มีการทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยกลุ่มเฟมินิสต์ปลดแอก ทำกิจกรรมเรียกร้องเกี่ยวกับสวัสดิการเรื่องผ้าอนามัย ด้วยการใช้ผ้าอนามัยที่เปื้อนสีแดง โยนเข้าไปหน้าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่


ต่อมา เวลาประมาณ 16.55 น. มีการราดน้ำมันบนหุ่นศพจำลอง ที่ทางทะลุฟ้าแจ้งว่าคือ 3 ป. ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา 


โดยนายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า และอีก 1 สมาชิกราษฎรเอ้ย ทำพิธีเผาหุ่น โดยมีการท่องคาถา จากนั้นต่อเพลิงจากแท่งเทียนพรรษาที่ประชาชนร่วมกันหล่อมาจุดที่หุ่น ก่อนเทน้ำตาเทียนลงบนหุ่นศพ เปรียบดั่งน้ำตาประชาชนที่สูญเสียจากการบริหารล้มเหลวของรัฐบาล ท่ามกลางฝนที่โปรยลงมา โดยราษดรัมรัวกลองขณะทำพิธี ขณะที่ประชาชนชู 3 นิ้ว และส่งเสียงเฮ


ส่วนประชาชนอีกส่วนหนึ่งพ่นสเปรย์สีเขียวบริเวณแนวลวดหนาม โดยนายจตุภัทธ์ กล่าวบนรถปราศรัยว่า นี่เป็นการส่งสัญญาณว่าประชาชนมาขีดเส้นบอกเจ้าหน้าที่ วันนี้มาได้เท่านี้ มางานบุญ ไม่ล้ำเส้น แต่วันหน้าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยืนข้างประชาชน เจอดีแน่


เวลา 17.45 น. นายจตุภัทร ประกาศยุติการชุมนุม โดยกล่าวว่ากิจกรรมวันนี้เป็นงานบุญ จึงไม่ต้องการให้เกิดการปะทะ แต่จะทำการสาดสี และสเปรย์ เพื่อขีดเส้นเป็นสัญลักษณ์ไว้ และครั้งหน้าจะกลับมา และเข้าไปให้ใกล้ทำเนียบฯ มากกว่าเส้นที่ขีดไว้วันนี้


วันนี้เรามาได้แค่นี้ แต่วันหน้าเราจะสัญญาว่าจะมาไกลมากกว่าเดิม ขอขอบคุณมวลชนทุกคนที่มาร่วมกิจกรรม เราเป็นเด็กบ้านนอก แต่เรามาศึกษาการต่อสู้ที่กรุงเทพฯ ขอให้ทุกคนติดตามข่าวสารกิจกรรมต่อได้ที่เพจทะลุฟ้า


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ม็อบ25กรกฎา #ทะลุฟ้า


ประมวลภาพ