วันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ม็อบไปไม่ถึงทำเนียบ โดนสกัดด้วยแก๊สน้ำตา กระสุนยางอย่างต่อเนื่อง ร่วมเผาหุ่นคล้าย "นายกฯ" รายล้อมด้วยหุ่นศพประชาชนจำลอง ที่แยกนางเลิ้ง แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ สื่อถึงการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19ผิดพลาด ส่งผลให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตจำนวนมาก

 


ม็อบไปไม่ถึงทำเนียบ โดนสกัดด้วยแก๊สน้ำตา กระสุนยางอย่างต่อเนื่อง ร่วมเผาหุ่นคล้าย "นายกฯ" รายล้อมด้วยหุ่นศพประชาชนจำลอง ที่แยกนางเลิ้ง แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ สื่อถึงการบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19ผิดพลาด ส่งผลให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตจำนวนมาก


วันนี้ (18 ก.ค. 64) ตามที่แนวร่วมราษฎร กว่า 15 กลุ่ม นำโดย กลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศเชิญชวนประชาชน เข้าร่วมชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องจากบริหารจัดการสถานการณ์โควิด-19ผิดพลาด ส่งผลให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตจำนวนมาก ภายใต้คำขวัญ "ทวงคืนประเทศไทย ขับไล่ปรสิต"  และ 3 ข้อเรียกร้อง  1. ประยุทธ์ต้องลาออกโดยไม่มีเงื่อนไข 2. ปรับลดงบสถาบันฯ - กองทัพ 3. สู้วิกฤตโควิดเปลี่ยนวัคซีนเจ้าสัว CP เป็นวัคซีน mRNA 


โดยนัดหมายเริ่มต้นเวลา 13.50 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ แต่พบว่าประชาชนต่างทยอยเข้าพื้นที่ตั้งแต่ 11.00 น.


สำหรับบรรยากาศการรวมตัว เพื่อจัดขบวนประชาชน ก่อนเคลื่อนไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยมีกลุ่มนักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมารอร่วมขบวน อาทิ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย DRG, ขบวนการริมสระ, คณะประชาธิปไตยเพื่อความหวัง DemHope, เครือข่ายรามคำแหงเพื่อประชาธิปไตย, กลุ่มทะลุฟ้า, เฟมินิสต์ปลดแอก, ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, เยาวชนปลดแอก, ราษฎรมูเตลู, ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย, สหภาพคนทำงาน, สหภาพไรเดอร์, SUPPORTER THAILAND, We Volunteer หรือ วีโว่ และ ราษฎรออฟโรด แนวร่วมราษฎร และเครือข่าย กว่า 15 กลุ่ม


ซึ่งแต่ละกลุ่ม ต่างเตรียมของมาเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ อาทิ ปูผ้าหลากสี วางหุ่นศพ รถขนหุ่นจำลอง พล.อ.ประยุทธ์ ที่รายล้อมด้วยชื่อบริษัทนายทุนต่าง ๆ รถจำลองศพแรงงาน ของกลุ่มสหภาพคนทำงาน


ขณะที่ประชาชน ร่วมแบกหุ่นจำลองศพ จำนวนกว่า 2,000 ตัว เพื่อถือหรือพาดบนบ่าขณะร่วมขบวน สื่อไปถึงรัฐบาลว่ามีประชาชนตายจำนวนมากจากการบริหารงานด้านโควิดและวัคซีนที่ล้มเหลว


14.00 น. เริ่มจัดขบวนก่อนเคลื่อน โดยมีการ์ดผ้าพันคอเขียว ตั้งแถวแนวการ์ด จากนั้น"เอ๋ย" ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง วันนี้ 18 ก.ค. 1 ปีเยาวชนปลดแอก 1 ปีมาแล้ว ประเทศของเราไม่มีอะไรดีขึ้นเลย มีแต่ศพพี่น้องประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น เราจะช่วยกันแบกศพพี่น้องเราไปยังที่หมายเดียวกัน ทำเนียบรัฐบาล 


นี่ไม่ใช่ทางเลือกแต่นี่คือทางรอด!


ต่อมาฝนเริ่มตก ผู้ร่วมชุมนุมต่างสวมเสื้อกันฝน เวลา 14.50 น. นายธัชพงศ์ กล่าวว่า ถึงฝนจะตกก็หยุดพวกเราไม่ได้ เราจะไปเปลี่ยนแปลงสิ่งเลวร้ายที่ทำลายประชาชนมาอย่างยาวนาน พร้อมหรือยังที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน ประชาชนเลือกอะไรไม่ได้ วัคซีนเลือกไม่ได้ บอกให้เราทำตาม แต่รัฐไม่เคยทำตามเสียงของเราเลย เราจะไปบอกว่าต้องฟังประชาชน


เราไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรข้างหน้า แต่เราทุกคนตัดสินใจมาด้วยความเสี่ยง เพราะอยู่ในบ้านก็จะตายเพราะโควิดถ้าไม่หยุดรัฐบาลนี้  นายธัชพงศ์กล่าว


เวลา 15.10 น. ราษฎรนับถอยหลัง ก่อนบีบแตร และเคลื่อนขบวนบนถนนราชดำเนินกลาง มุ่งหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยหัวขบวนนำโดยการ์ดวีโว่ ตามด้วยรถปราศรัยคันที่ 1, แถวการ์ดวีโว่ ประชาชนเดินเท้า, รถปราศรัยคันที่ 2, ขบวนรถจักรยานยนต์และขบวนรถยนต์ ตามลำดับ ท่ามกลางฝนที่ยังคงตกปรอยลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยขบวนจะใช้เส้นทางถนนราชดำเนินในการเคลื่อนขบวนไปที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ได้ เนื่องจากถนนราชดำเนินนอกมีเจ้าหน้าที่วางกำลังไว้หนาแน่น ทั้งตำรวจควบคุมฝูงชนพร้อมอุปกรณ์ โล่ห์ และกระบอง และมีรถฉีดน้ำแรงดันสูงจีโน่ประจำการอยู่ด้วย


ซึ่งขบวนมาติดอยู่บริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ราวครึ่งชั่วโมงกว่า


เวลา 15.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอมให้ไปทางถนนราชดำเนินนอก จึงมีการฉีดน้ำใส่สีไปยังผู้ชุมนุม ขณะที่การ์ดวีโว่ (ผ้าพันคอสีเขียว) พยายามเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ด้าน บอย ธัชพงศ์ กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงขอให้ฟังการ์ดที่มีผ้าพันคอสีเขียว จากนั้นการ์ด WeVo รื้อรั้วลวดหนาม และแผงกั้นออก เจ้าหน้าที่ฉีดน้ำใส่ขบวนผู้ชุมนุม ตามด้วยประกาศใช้น้ำผสมแก๊สน้ำตา รวมทั้งยิงกระสุนยาง ทำให้ประชาชนวิ่งหนีแก๊สน้ำตากลับมาตั้งหลัก จากนั้นขบวนเปลี่ยนเส้นทางไปใช้ถนนนครสวรรค์เพื่อมุ่งไปทำเนียบแทน


ต่อมา 16.30 น. มวลชนเคลื่อนขบวนถึงถนนพิษณุโลก หน้ามหาวิทยาลัยราชมงคลพระนคร หลังเปลี่ยนเส้นทางมาตามถนนนครสวรรค์ แล้วเลี้ยวซ้ายแยกนางเลิ้ง เพื่อมายังทำเนียบรัฐบาล แต่ตำรวจปิดกั้นเส้นทางแยกพาณิชยการ พร้อมเตรียมรถน้ำควบคุมฝูงชน สแตนบาย 2 คัน ขณะที่ แกนนำสั่งผู้ชุมนุมให้พักดื่มน้ำ ก่อนเตรียมพร้อมลุยต่อ


จากนั้นเจ้าหน้าที่ระดมฉีดน้ำ ผสมเเก๊สน้ำตา มวลชนถอยร่นมาหน้าโรงเรียนราชวินิตมัธยม


17.00 น. ตำรวจยิงแก๊สน้ำตา ใส่ผู้ชุมนุม เพื่อสลายการชุมนุม ทำให้ผู้ชุมนุมถอยล่นอีก มาตั้งหลักที่สี่แยกนางเลิ้ง รวมถึงผู้สื่อข่าวช่างภาพด้วย และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการสูดดมแก๊สน้ำตากันหลายคน ทำให้มวลชนช่วยกันปฐมพยาบาลในเบื้องต้น


17.20 น. หลังจากมวลชนเริ่มกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติ ก็ได้พยายามนำรถบรรทุก 6 ล้อ เข้าไปในพื้นที่ ทำให้ตำรวจได้ใช้เครื่องยิงแก๊สน้ำตา เพื่อหยุดการกระทำของมวลชน ทำให้เกิดการถอยล่นของมวลชนอีกครั้ง

   

17.30 น. แกนนำประกาศให้เคลียร์รถยนต์ที่ผ่านเส้นทางนี้ออกไปทางแยกยมราช เพื่อเปิดพื้นที่แยกนางเลิ้ง จัดให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย และสั่งให้มวลชนถอยไปตั้งหลักในพื้นที่เซฟโซนบริเวณปั๊มน้ำมันถนนหลานหลวง พร้อมทั้งขอให้มวลชนทุกคนยังสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโควิด


ขณะที่แก๊สน้ำตายังยิงมาจากฝั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นระยะ ๆ


ในช่วงเวลานี้ แกนนำประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงว่า แก๊สน้ำตาถูกโยนลงมาจากโรงเรียนราชวินิตมัธยม ซึ่งเป็นสถานศึกษารัฐ นอกจากนี้ ยังมีคำสั่งห้ามแพทย์ พยาบาลอาสา เข้ามาพื้นที่ชุมนุม จึงขอให้ผู้ที่ถูกแก๊สน้ำตาประเมินตัวเอง ถ้าไม่ไหวให้ถอนได้เลย โดยแนะนำให้ใช้เส้นทางแยกยมราช


ต่อมา 18.05 น. แกนนำประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขอให้มวลชนมารวมกันบริเวณแยกนางเลิ้งจะมีกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ในบริเวณนี้  ขณะที่ผู้สื่อข่าวด้านในรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตรึงกำลังและรถฉีดน้ำแรงดันสูงอยู่หลังแนวรั้วลวดหนามหีบเพลงที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ แยกพาณิชยการ


18.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาอีกครั้ง และประกาศให้ยุติกิจกรรมการชุมนุม


ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้ผู้ชุมนุมได้จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ มีการล้อมรั้วแล้วจุดไฟเผาหุ่นที่มีรูปคล้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมทั้งได้นำศพจำลองมาวางเรียงไว้โดยรอบหุ่นที่คล้ายหน้านายกฯ  บริเวณแยกนางเลิ้ง จนเกิดกลุ่มควันขึ้นมาจำนวนหนึ่ง จากนั้นมวลชนร่วมกันชู 3 นิ้ว และร้องเพลง Do You Hear the People Sing จากนั้นตะโกน ศะกดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ


ซึ่งในเวลา 18.20 น. ยังคงมีการยิงแก๊สน้ำตาดังขึ้นเป็นระยะ ๆ โดยทีมการ์ดของผู้ชุมนุมพยายามจะใช้ผ้าชุบน้ำตามดับแก๊สน้ำตาอยู่เป็นระยะเช่นกัน แต่ก็พบว่ามีเสียงการยิงถี่ขึ้น ดังขึ้นเรื่อย ๆ ประชาชนค่อยๆ เดินถอยร่น แต่ก็ยังคงเฝ้าดูสถานการณ์อยู่


เวลา 18.30 น. กลุ่มเยาวชนปลดแอก ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊คว่า "ยุติการชุมนุมแล้วและให้ติดตามการนัดหมายต่อไป" ขณะที่ในพื้นที่ยังมีเสียงยิงดังอยู่ต่อเนื่อง กลุ่มควันจากแก๊สน้ำตายังพวยพุ่ง


ด้าน บอย ธัชพงศ์ กล่าวในบริเวณแยกนางเลิ้งว่า ในวันนี้มีผู้บาดเจ็บจำนวนมากจากกระสุนยาง แก๊สน้ำตา และการฉีดทั้งน้ำเปล่าและน้ำผสมสารเคมีของเจ้าหน้าที่พร้อมประกาศขอยุติการชุมนุม  และขอให้พี่น้องเดินทางกลับบ้านโดยใช้เส้นทางถนนพิษณุโลก ผ่านทางแยกยมราช เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับแนวตำรวจบริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ และบริเวณสะพานผ่านฟ้าลีลาศ รวมถึงขอให้ติดตามกิจกรรมครั้งต่อไปจากแฟนเพจเฟซบุ๊ก"เยาวชนปลดแอก- Free Youth"


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #ม็อบ18กรกฎา


ประมวลภาพ