วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ : ไม่เปลี่ยนแปลงไม่มีอะไรดีขึ้นแน่นอน

 


ความหมายระหว่างบรรทัดในจดหมายเปิดผนึกจากแอสตร้าเซนเนกาคือการปิดประตูเจรจาของรัฐบาลไทยที่จะเพิ่มยอดจัดส่งวัคซีนเป็นเดือนละ 10 ล้านโดสตามที่ประกาศไว้กับประชาชน หมายถึง 61 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้จบแล้วไม่ต้องรอไม่ต้องถาม 


ทั้งที่โรงงานสยามไบโอไซเอนซ์มีตำรวจเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง ผลผลิตออกจากโรงงานทุกวัน แต่รัฐบาลมีปัญญาเอามาให้ประชาชนได้เท่านี้ 


เป็นไปได้ว่า mRNA ทั้งไฟเซอร์กับโมเดอร์นาที่จะมาไตรมาส 4 อาจคลาดเคลื่อนได้อีกเพราะข้อตกลงไม่มีกรอบเวลาชัดเจน ถ้าทั้ง 2 บริษัทมาโค้งสุดท้ายปลายเดือนธันวาคมเท่ากับ 5 เดือนนับจากนี้การฉีดวัคซีนจะต่ำกว่าเป้ามหาศาล การระบาดจะยิ่งวิกฤตมาก 


นึกไม่ออกเลยว่าการรับมือโควิดของรัฐบาลมีเรื่องไหนสำเร็จบ้าง 4 เรื่องหลักทั้งการตรวจ รักษา วัคซีน เยียวยาเละหมด รับปากกับประชาชนไม่เคยทำได้ ความโปร่งใสไม่มี ไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดสที่จะเข้ามาถูกมองอย่างหวาดระแวงจากบุคลาการด่านหน้าว่าจะหล่นหายไปอยู่บนแขน VIP 


ทั้งหมดคือความไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาล ผู้รับผิดชอบคือนายกรัฐมนตรี 


แม้แต่สายด่วนหาเตียง 1668 และหมายเลขอื่นก็ต้องเสียเงิน ถ้าไม่เกิดเหตุคนรอสายจนเงินหมดก็ไม่รู้ไม่แก้ไข กระทรวงดีอีเอสมุ่งแต่จะเล่นงาน call out งานหญ้าปากคอกแบบนี้กลับไม่รู้เรื่อง คนป่วยโทรไม่ติด โทรติดก็ต้องรอสาย รอเตียงจนตายแล้วยังต้องจ่ายค่าโทรด้วย เราจะฝากชีวิตฝากความหวังไว้กับการบริหารแบบนี้ได้อย่างไร 


ไม่เปลี่ยนแปลงไม่มีอะไรดีขึ้นแน่นอน


ที่มา : เพจ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ

           24 ก.ค. 64


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์