ศาลแขวงปทุมวันสั่งจำคุก "เพนกวิน-อั๋ว" ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ คดีชุมนุม #Saveวันเฉลิม หน้าหอศิลปฯ ปี 63 คนละ 2 เดือน ปรับ คนละ 1 หมื่น โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
วันนี้ (12 ก.ค. 65) ที่ศาลแขวงปทุมวัน ถนนพระราม 4 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานผ่านทวิตเตอร์ระบุว่า ศาลแขวงปทุมวันนัดอ่านคำพิพากษาคดีของ อั๋ว-เพนกวิน
คดีนี้ สืบเนื่องมาจากกรณีที่ อั๋วและเพนกวินเข้าร่วมกิจกรรม #Saveวันเฉลิม บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 2563
กิจกรรมดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อทวงความเป็นธรรมให้กับ “ต้าร์” วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ นักเคลื่อนไหวที่ถูกบังคับสูญหายไปในเย็นวันก่อนหน้านั้น
ล่าสุดศาลพิพากษาว่า ทั้งสองมีความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มาตรา 9(2) และมาตรา 18 จึงให้ลงโทษจำคุก 2 เดือน ปรับคนละ 10,000 บาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี
สำหรับคดีนี้ อั๋วยังถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน กรณีไม่ยอมพิมพ์ลายนิ้วมือ ขณะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาคดีนี้ที่ สน.ปทุมวัน
ศาลชี้ว่า การให้พิมพ์ลายนิ้วมือเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนในการรวบรวมพยานหลักฐาน จำเลยไม่มีเหตุแก้ตัวอันสมควร พิพากษาลงโทษปรับ 2,000 บาท
ศาลระบุว่าประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และคำสั่งผบ.ทหารสูงสุด ห้ามชุมนุมมั่วสุม มีความชอบธรรมแล้ว แม้ขณะนั้นจะมีรายงานว่าผู้ติดเชื้อในไทยเป็น 0 แต่ทั่วโลกมีการติดเชื้อและเสียชีวิตหลายพันราย จำเลยก็ตระหนักอย่างดี เห็นได้จากการใส่หน้ากากอนามัย พกเจลแอลกอฮอล์ เว้นระยะห่างขณะชุมนุม
การที่จำเลยอ้างว่าจำเป็นต้องออกมาชุมนุม ขณะที่ผู้อื่นถูกจำกัดสิทธิตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จำเลยมีเจตนาให้กฎหมายบังคับใช้กับตนแตกต่างกับผู้อื่น ประเด็นเป็นผู้จัด แม้โจทก์ไม่มีหลักฐานว่า จำเลยเป็นผู้โพสต์เชิญชวน แต่จำเลยได้มาปรากฎตัวในที่ชุมนุม ตามโพสต์เชิญชวนของเพจอื่น
สุดท้ายศาลชี้ว่า ไม่จำเป็นต้องพิจารณาว่าการชุมนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมโดยสงบ มีการเว้นระยะห่าง หรืออากาศโล่งกว้างถ่ายเทหรือไม่ ทั้งนี ศาลชี้ว่าไม่จำเป็นต้องพิจารณา เพราะคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุนเฉินฯ ชอบธรรมแล้ว
#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #TLHR
