วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

"แคมป์ปิ้งฟังสภา" วันที่ิ 2 ถกประเด็นในสภา- พูดคุยปัญหาบอกเล่าเหตุการณ์จากอาสาราษฎรจุดลงมติประชาชน 4 ภาค พร้อมวงเสวนากฏหมายปิดปากประชาชน คู่ขนานการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา

 


"แคมป์ปิ้งฟังสภา" วันที่ิ 2 ถกประเด็นในสภา- พูดคุยปัญหาบอกเล่าเหตุการณ์จากอาสาราษฎรจุดลงมติประชาชน 4 ภาค พร้อมวงเสวนากฏหมายปิดปากประชาชน คู่ขนานการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา

 

วันนี้ (20 ก.ค.65) เวลา 16.00 บริเวณลานหน้ารัฐสภา เกียกกาย แนวร่วมราษฎร จัดกิจกรรม "แคมป์ปิ้งฟังสภา จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจประยุทธ์" เป็นวันที่สอง ซึ่งเป็นกิจกรรมภาคประชาชน คู่ขนานกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในสภาฯ 


เริ่มกิจกรรมด้วยการเปิดวงสภากาแฟ พูดคุย “คุณภาพชีวิตประชาชนภายใต้รัฐบาลล้มเหลว” ร่วมทั้งการแลกเปลี่ยนกับพี่น้องนาบอน บางกลอย P Move สหภาพคนทำงาน และตัวแทนจากเครือข่ายรัฐสวัสดิการ (We Fair) ที่ได้รับผลกระทบจากการบริหารงานที่ล้มเหลว และถูกกดทับโดยอำนาจรัฐ


ตามด้วย 17.30 น. กิจกรรม Performance Art จากเครือข่ายราษฎรภูมิภาค จากภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ โดยสื่อสารด้วยการเพ้นท์สีแดงบนร่างกายเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ว่าเลือดเนื้อของประชาชน และสีดำคือสิ่งโสมมที่รัฐทำกับประชาชน โดยให้ประชาชนช่วยกันนำสีดำมาสาดใส่เป็นการแสดงออกถึงปัญหาที่หมักหมมทับถมกดทับในพื้นที่มายาวนาน เช่น ปัญหาคราบน้ำมันมาบตาพุด ปัญหานิคมอุตสาหกรรมเหมืองภาคอีสาน ปัญหากลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นต้น


ในเวลาต่อมา เป็นช่วงพูดคุยในสภามีประเด็นอะไรกัน แล้วทำไมจึงต้องลงมติว่าไม่ไว้วางใจ โดยมีผู้ร่วมวงคือ ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ilaw) หรือเป๋า, ปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้, ธนพร วิจันทร์ จากเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน , เอเลียร์ จากแนวร่วมกลุ่มราษฎร 


จากนั้นเป็นวงสนทนา "กล่อง 1 ใบกับกระดาษลงมติพาไปเจออะไรมาบ้าง" โดยการให้ตัวแทนอาสาราษฎรประจำหน่วยลงมติประชาชนไม่ไว้วางใจแต่ละภาค เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา บอกเล่าถึงปัญหาเหตุการณ์ในแต่ละจุดที่ลงมติ รวมถึงความประทับใจต่อประชาชนในพื้นที่


โดยช่วงเวลาประมาณ 18.50 น. มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้จัดกิจกรรมย้ายมาในบริเวณเต็นท์เพื่อหลบฝนและทำกิจกรรมต่อ


จากนั้น เวลา 19.30 น. เป็นช่วงวงสนทนา"กฏหมายปิดปากประชาชน" กระบวนการปิดกั้นเสรีภาพการอสดงออกและเป็นเครื่องมือทำลายผู้เห็นต่าง ร่วมพูดคุยโดย บอย ธัชพงศ์, ปูน ทะลุฟ้า, ตัวแทนจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และ ตัวแทนจากโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw)


ต่อมาเป็นช่วงดนตรีโดยวงสามัญชน และ ไผ่ จตุภัทร์ ร่วมเล่นพิณด้วย ซึ่งผู้ร่วมกิจกรรมต่างยืนล้อมกันเป็นวงกลมและกระโดดตามจังหวะเพลงของวงสามัญชน อาทิ บทเพลงของสามัญชน, อยากจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้, เราคือเพื่อนกัน ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และประกาศยุติกิจกรรม ในเวลา 21.00 น. โดยมีบางส่วนอยู่ปักหลักค้างคืน


สำหรับกิจกรรม"ลงมติประชาชน"ยังคงเปิดจุดให้ประชาชนสามารถร่วมลงมติไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจรัฐบาลได้ถึงวันที่ 21 ก.ค. นี้ ซึ่งจะมีเปิดกล่องลงคะแนนที่ถูกส่งมาจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยเวลานี้มีจำนวนผู้มาออกเสียงกว่า 17,000 ราย และจะมีการนับคะแนนก่อนที่จะมีการลงมติโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 23 ก.ค. เพื่อสะท้อนถึงความต้องการที่แท้จริงของราษฎร ว่าต้องการให้รัฐบาลประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ และสะท้อนเสียงนอกและในสภา เป็นไปในทิศทางใด 


#UDDnews #ยูดีดีนิวส์ #อภิปรายไม่ไว้วางใจ

#สภาประชาชน #อย่าหมดหวังกับเสียงของเรา